ทำเอาศิลปินดังสุดฟิน! เมื่อได้มีโอกาสร่วมงานกับ “ฮีโร่” ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาเล่นดนตรีสร้างฝัน เมื่อ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และ JOOX จับมือสร้าง สรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซ นำศิลปินยอดนิยมและ ศิลปินระดับตำนานกว่า 10 ชีวิตร่วมถ่ายทอดบท เพลงสุดพิเศษร่วมกัน ภายใต้โปรเจกต์ My Hero (มาย ฮีโร่) บน JOOX ORIGINAL ALBUM โดยมี อ๊อฟ บิ๊กแอส ขึ้นแท่น Executive Producer หนึ่งในศิลปินบันดาลใจนั้นคือวง “25 Hours” ที่มีฮีโร่คือ “เสือ ธนพล อินทฤทธิ์” กับซิงเกิลที่สอง “นับ 1 ถึง 100”ซึ่ง “แหลม สมพล รุ่งพาณิชย์” นักร้องนำวง 25Hours ถ่ายทอดให้ฟังเริ่มจาก “การที่เราได้เจอพี่เสือมันเกินฝันมาก บางทีไม่กล้าฝันด้วยซ้ำ นี่ยิ่งกว่าที่ได้ร้องเพลงด้วย แล้วเพลงต้องเป็นที่เราเขียนให้เค้าร้องด้วย เป็นเรื่องที่ท้าทาย ตื่นเต้นด้วยทุกอย่าง เรียกว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ภาพติดตาในวัยเด็กที่ผมมีต่อพี่เสือ เด็กๆผมฟังลูกทุ่งจากพ่อ พอเลือกฟังเพลงเองก็ฟังเพลงวัยรุ่นตอนนั้น แต่สำหรับ “พี่เสือ” ก็มีเพลงดังในช่วงนั้น มีตั้งแต่เพลง 18 ฝน, รักคงยังไม่พอ อาจจะด้วยความที่เพลงของพี่เสือไม่ได้มีท่าทีร็อกขนาดนั้น แต่มีความไพเราะเป็นร็อกที่สวยงามในท่วงทำนอง ผมจำได้ว่าผมชอบร้องเพลง “รักคงยังไม่พอ” ตอนเย็นๆอาทิตย์กำลังตกดินทอดลงมาในน้ำ ผมกำลังเก็บโต๊ะร้านก๋วยเตี๋ยวของพ่อย่านรังสิต เป็นภาพที่เราจำได้ เราจะเผลอฮัมเพลงนี้ทุกที มันกินใจครับ เพลงพาจินตนาการเราลอยไปกว่าเด็กร้านก๋วยเตี๋ยว ไปมองความฝันเลย”พอโปรเจกต์นี้มันก็เกิดขึ้นจริงรู้สึกยังไง?“พี่เสือมีเพลงช้าๆที่เป็นเพลงที่ทุกคนรักเยอะ แต่โจทย์ที่เราต้องทำเพลงขึ้นมาให้พี่เค้า เหมือนเราตัดชุดใหม่ให้พี่เค้ามาร้อง เป็นเรื่องยากนะ เราเป็นคนแต่งเพลงก็จริง แต่ถ้าพยายามมากจะรู้สึกไม่ใช่ เราก็เลยลองค้นเพลงที่แต่งไว้ก็มีเพลงของเรามีอยู่แล้วชื่อ “นับ 1 ถึง 100” มีความเป็นธรรมะๆหน่อย ถ้ามีพี่ที่ผ่านโลกมาเล่าด้วยก็คงดีขึ้นไปอีก เพลงคงน่าเชื่อถ้าในกรณีที่เราจะบอกสังคม บอกเด็กที่ตามเรา ว่าเราก็มีคนที่เราตาม พี่ที่ทำเพลงดี วิธีคิดใช้ชีวิต ครอบครัว การทำงานที่ดี ซึ่งพี่เสือก็เป็นอย่างนั้น เป็นความตั้งใจ โชคชะตา และโอกาสที่มาเจอกัน ต้องขอบคุณพี่อ๊อฟ บิ๊กแอสและพี่เสือ ที่มันเกิดขึ้น”เพลง “นับ 1 ถึง 100” บอกเล่าถึงเรื่องอะไร?“เราต้องการบอกคนที่กำลังรู้สึกเครียดเป็นทุกข์กับชีวิต ในความไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง แต่สิ่งสำคัญในยุคนี้คือคำว่า “สติ” เพราะทุกวันนี้เราเจอเรื่องกระทบใจได้ตลอดเวลา โทรศัพท์เครื่องเดียวพาเราไปเจออารมณ์แบบขึ้นรถไฟเหาะตลอดเวลา เราเผลอพูด เผลอพิมพ์ทำร้ายจิตใจกันบ้าง ต้องดึงตัวเองกลับมามีสตินับหนึ่งถึงสิบหรือร้อย”วันที่ทำงานเข้าห้องอัดด้วยกันเป็นยังไงบ้าง?แหลม “บรรยากาศตอนแรกเกร็ง พี่เสือปลดความเกร็งด้วยการบอกเราว่าให้บอกพี่เค้าได้เลยอยากให้ร้องแบบไหน นี่แหละความเข้าใจกันของคนทำงาน ถ้าพี่เขาอนุญาตเราก็จัดเต็มเพื่อต้องการสิ่งที่ดีที่สุดในเวลาที่มี” พี่เสือมีอิทธิพลยังไงที่ทำให้มาเป็น 25Hours วันนี้?แหลม “เราเป็นนักดนตรี เราเสพงานเยอะอยู่แล้ว สิ่งที่เข้ามาอยู่ในตัวเราก็จะมีสีของนักดนตรีคนนั้นคนนี้ผสมออกมาเป็นสีของตัวเอง ถ้ามองในแง่มุมของเพลงของพี่เสือ ท่วงทำนองเพลงของพี่เค้าที่แตกต่าง ผู้ชายคนนี้ให้ความสำคัญกับทำนองเป็นหลัก ไม่ใช่แค่เนื้อหาดี แต่ทำนองจะมีลายเซ็น เจอเฉพาะตนจริงๆ”ฟาก เสือ ธนพล อินทฤทธิ์ เล่าว่า “น้องอ๊อฟ บิ๊กแอส โทร.หาผมว่ามีโปรเจกต์นี้ เราก็ดีใจและยินดีที่เค้านึกถึงเรา ผมชอบการทำงานของอ๊อฟอยู่แล้ว ฟังคอนเซปต์งานที่จะทำก็น่าสนใจ แล้วผมไม่เคยทำ ผมไม่เคยร้องฟีเจอริงกับใครเลย”รู้สึกยังไงที่แหลมเล่าความประทับใจที่มีอิทธิพลให้เค้าเป็น 25Hours ในวันนี้?เสือ “ดีใจและภูมิใจที่เราเป็นแรงบันดาลใจให้ใครได้ ตัวผมก็มีมาย ฮีโร่ของผม ถ้ามีโอกาสทำแบบนี้กับศิลปินที่ผมมองเป็นแรงบันดาลใจแบบนี้บ้าง คงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก เช่นเดียวกันผมต้องขอบคุณที่ให้เกียรติผม และมองผมเป็นฮีโร่ครับ พูดแล้วเราก็ยังเขินอยู่ครับกับคำว่าเป็นฮีโร่”มาทำงานกับคนรุ่นใหม่เตรียมตัวยังไง?เสือ “เท่าที่ทำงานกันน้องน่ารักทุกคน เราเข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ เราเข้าใจการทำงานว่ามันต้องเป็นยังไง คำว่ารุ่นใหญ่ ตำนาน ต้องเป็นคำที่คนอื่นเรียกเรา ไม่ใช่เราเรียกตัวเอง”ภาพที่พี่เสือมองวง 25 Hours ยังไง?“เพลงเพราะครับ ชอบหลายเพลง ทั้งไม่เคย, ทำได้เพียง วงนี้เป็นวงที่ผมชอบเสียงนักร้อง เสียงเค้าไม่เหมือนใคร ถ้าพูดถึงตัวเพลง 25 มีเพลงสวยงาม ภาษาไทยสวย เมโลดี้เพราะ ผมเป็นคนฟังเพลงเยอะ ขนาดของวง BTS ผมก็ฟังครับ (หัวเราะ)”การทำงานในปัจจุบัน?เสือ “งานเบื้องหลังไม่ทำเลย ก็มีคนมาถามแต่งเพลงมั้ย ผมจะปฏิเสธไปเพราะกลัวรับปากไปแล้วทำไม่ได้ก็เสียงาน ผมเป็นคนถ้าคิดไม่ออกหรือไม่อยากทำก็จะไม่ทำ แต่อาชีพหลักผมคือเล่นคอนเสิร์ตมากกว่า ชีวิตอยู่กับดนตรีมาตลอด ในชีวิตมีดนตรีอย่างเดียว ไม่มีธุรกิจอื่นใดเลยครับ และต้องขอบคุณแฟนๆด้วยที่เวลาเราไปเล่นที่ไหนก็มาเจอเราเยอะเหมือนเดิม” อยู่วงการมานาน พี่เสือไม่ต้องวิ่งตามโลกเพื่อพิสูจน์ตัวเองแต่อยู่ในจุดที่มีความสุข?เสือ “จริงๆยิ่งถ้าไม่มีอาชีพอื่นใดนอกจากอาชีพนักดนตรี เราควรขยัน ถ้ามีแชนแนลต้องขยันอัดคลิป สร้างคอนเทนต์ อย่าหาย แต่ความเป็นตัวผมที่ผมเป็นคนไม่อยากทำผมก็ไม่ทำ นี่แหละก็จะเหลือเราไม่ไล่ตาม แต่ไม่ได้คิดว่าตัวเองจะต้องไล่ตามอะไร ถ้าอยากทำ อยากนำเสนองานก็จะทำออกมาเอง”ปีนี้ใช้ชีวิตในวงการเพลงมาปีที่เท่าไหร่แล้ว?เสือ “ไม่เคยนับเลยนะ เกิน 30 ปีได้ งานแรกก็คืองานในวงการเพลง ถามว่าตกผลึกอะไรบ้างกับอาชีพนี้ มีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นทางดนตรี การใช้ชีวิต เห็นการเปลี่ยนแปลงมาเยอะ ผมก็เดินบนถนนนี้อยู่เส้นเดียว สิ่งที่เกิดขึ้น 2 ข้างทางก็ได้แนวคิดให้ชีวิตเหมือนกันว่าต้องดูแลตัวเองยังไง ผมยังต้องร้องเพลง เจอแฟนเพลง เวลาขึ้นเวทีก็ต้องดูแลตัวเองและคุณภาพการแสดงเพื่อให้เค้าแฮปปี้ที่ได้เจอเรา เราต้องรักษาคุณภาพไว้ คนที่มาดูเราต้องได้รับความสุขกลับไป”.