หล่อเบ้าหลอมผู้พิทักษ์สันติราษฎร์มานาน 119 ปี ปีนี้ได้เวลาปรับเปลี่ยนเก้าอี้ ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แทน พล.ต.ท.อาชวัน โชติกเสถียร ครูใหญ่คนเก่าที่ครบเกษียณอายุราชการมีประกาศรายชื่อผู้แสดงวิสัยทัศน์เพื่อเข้ารับการพิจารณาเป็นผู้สมควรดำรงตำแหน่ง “ครูใหญ่คนใหม่” ในรั้วสามพรานที่ผ่านคุณสมบัติแล้วจำนวน 9 รายตามมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.โรงเรียนนายร้อยตำรวจ พ.ศ.2551 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ 2) พ.ศ.2558 กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2561 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ 2) พ.ศ.2561รวมถึงระเบียบโรงเรียนนายร้อยตำรวจว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ พ.ศ.2548 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ 2) พ.ศ.2559 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ 3) พ.ศ.2561สำหรับผู้ผ่านคุณสมบัติจัดเรียงตามอักษรเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ต่อสภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ กำหนดในวันที่ 24 ก.ค.2563ประกอบด้วย พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ฉลองเกียรติ โรจน์ปัญญาคุปต์ รอง ผบช.รร.นรต. พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รอง ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.ณรงค์ ทรัพย์เย็น รอง ผบช.รร.นรต. พล.ต.ต.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี จตร. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี รอง ผบช.ภ.3เริ่มต้นจากเข้าห้องประชุมเพื่อรับฟังขั้นตอนในการแสดงวิสัยทัศน์ ก่อนแนะนำตัวเอง และนำเสนอวิสัยทัศน์พร้อมแนวทางการบริหารโรงเรียนนายร้อยตำรวจกำหนดระยะเวลารายละไม่เกิน 15 นาทีเป็นเพียง 15 นาทีให้พิสูจน์ว่า ตัวเองดีพอจะก้าวไปนั่ง “เก้าอี้ครูใหญ่คนใหม่” มากน้อยแค่ไหนเพื่อขับเคลื่อนบริหาร “แม่พิมพ์” นักเรียนนายร้อยตำรวจลงไปรับใช้ประชาชนในอนาคตส่วนจะคดจะงอคงขึ้นอยู่กับเบ้าหลอมของครูใหญ่เช่นกัน.สหบาท
