ภัยของผู้หญิงไทยที่อยากไปขุดทองหารายได้จากการทำงานนวดแผนไทยที่ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่สุดท้ายถูกยึดหนังสือเดินทางและถูกข่มขู่บังคับให้ไปทำงานที่ร้านที่จัดให้มีการค้าประเวณีบังคับขายบริการทางเพศเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมาอีกกับคดีที่ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบก.ตม.3 หัวหน้าชุดปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและเข้าเมืองผิดกฎหมาย สตม. พ.ต.อ.วิทวัส บูรณะ ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม.จับกุมตัว น.ส.นริชศราพร พรมเวียง อายุ 28 ปี และ น.ส.อรัญญา ภักดีรัตน์ อายุ 25 ปี ร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้หญิงคนไทยจะไปทำงานนวดแผนไทยน.ส.นริชศราพร ทำหน้าที่เป็นคนประสานงานฝั่งประเทศไทย ส่วน น.ส.อรัญญา ผู้ประสานงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มี “มาดามคนจีน” ไม่ทราบชื่อ เป็นเจ้าของร้านที่จัดให้มีการค้าประเวณีในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เมื่อผู้เสียหายได้ดำเนินการทางเอกสารเสร็จเดินทางไปทำงานตามที่นัดหมาย เมื่อไปถึงประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กลับไม่ได้ทำงานตามที่ได้ตกลงกันไว้มีการยึดหนังสือเดินทางแล้วบังคับให้ผู้หญิงไทยไปทำงาน “ค้าประเวณี” แทนผู้เสียหายได้หลบหนีออกมาจากร้าน และไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย ณ เมืองอาบูดาบี เข้าพบ เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์สตรีและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้ช่วยทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนไทยที่หลอกลวงดังกล่าวพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลอาญาออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวได้พล.ต.ท.สมพงษ์ฝากเตือนว่า คนไทยที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ ขอให้ศึกษาข้อมูลและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายให้ถูกต้องเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกให้ไปค้าประเวณีในต่างประเทศเสียทั้งเงินทั้งทองและเปลืองเนื้อเปลืองตัว จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้เตือนคนไทยที่หลอกลวงคนไทยด้วยกันเอง ว่าอย่าคิดทำอย่างนั้น เพราะจะถูกดำเนินคดีและติดคุกโทษรุนแรง.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th