ประหลาด บ้านหลังเดียวกันมีโฉนด 2 ใบของ 2 จังหวัด เพราะผู้มีอำนาจอุตริปักหมุดแบ่งเขตจังหวัดในหมู่บ้าน ไม่ได้ใช้แนวถนน หรือแนวคลองธรรมชาติเหมือนปกติ เจ้าของ บ้านแฉแหลก มีปัญหาตั้งแต่ซื้อบ้านเมื่อ 40 ปีก่อน เป็นทาวน์เฮาส์หลังสุดท้ายของหมู่บ้าน พื้นที่แค่ 38 ตร.ว. แต่ต้องมีโฉนด 2 ใบ อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ 70 เปอร์เซ็นต์ และ จ.นครปฐม 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าโจรเข้าหน้าบ้านแจ้งตำรวจ สน.ธรรมศาลา ถ้าโจรเข้าหลังบ้านแจ้ง สภ.พุทธมณฑล ทั้งหมู่บ้านมีอยู่ 2 หลัง ตำรวจ สน.ธรรมศาลายืนยัน แบ่งพื้นที่แบบนี้ทำให้ตำรวจงง ทำงานยากไปด้วย ไม่ได้มีแค่ 2 หลัง แต่มีทั้งหมดถึง 3 หมู่บ้าน ตัดปัญหาพื้นที่คาบเกี่ยว ตำรวจโรงพักไหนประสบเหตุจับกุมผู้ต้องหาได้ ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์พื้นที่นั้นเรื่องราวการแบ่งเขตจังหวัดแบบประหลาด ทำให้บ้านหลังเดียวมีที่ดินอยู่ใน 2 จังหวัด เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับข้อมูลเรื่องราวเกี่ยวกับปัญหาการแบ่งเขตพื้นที่จังหวัด พื้นที่ติดต่อระหว่างกรุงเทพมหานครและ จ.นครปฐม ทำให้บ้านพักของประชาชนบางหลังต้องมีโฉนด 2 ใบ เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 8 หมู่บ้านร่วมเกื้อ แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. ลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวติดกันนับ 10 หลัง บ้านหลังดังกล่าวอยู่หลังสุดท้าย พบนายถวิล หรือตาหวิน เปพาด อายุ 85 ปี ร่างกายยังแข็งแรงท่าทางทะมัดทะแมงคล่องแคล่วเกินวัย ออกมาต้อนรับท่าทางอารมณ์ดี เปิดเผยว่า เรื่องราวดังกล่าวเป็นความจริงคือบ้านที่ตนอยู่อาศัยนี้มีพื้นที่รวม 38 ตร.ว. แต่มีโฉนด 2 ใบ เป็นโฉนดที่ดินในพื้นที่กรุงเทพฯประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์เป็นโฉนดในพื้นที่หมู่ 6 ต.ศาลายา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม“ตัวบ้านส่วนใหญ่ประกอบด้วยห้องนอนห้องครัว และห้องเก็บของอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ห้องรับแขกบางส่วนและห้องน้ำอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม เสาหลักเขตแบ่งจังหวัดพาดผ่าตัวบ้านลักษณะเฉียงเป็นมุมแหลมจากเล็กไปใหญ่ มีเสาหลักเขตปักอยู่หน้าบ้าน ต้นไม้ที่ผมปลูกไว้หน้าบ้านบางส่วนอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม บางส่วนอยู่กรุงเทพฯ ทุกวันนี้ต้องเดินไปรดน้ำต้นไม้ในพื้นที่ จ.นครปฐมทุกวัน จากนั้นกลับกรุงเทพฯ แล้วไปนั่งเล่นนอนเล่นที่เตียงไม้ในห้องรับแขก จ.นครปฐม เดินไปเข้าห้องน้ำใน จ.นครปฐมแล้วกลับเข้าห้องนอนในพื้นที่กรุงเทพฯ ทุกวันนี้ตีสองตีสามยังเดินทางไปเข้าห้องน้ำในพื้นที่ จ.นครปฐมอยู่เป็นประจำ” ตาหวินเล่าติดตลกตาหวินเล่าต่อไปว่า ตนอยู่บ้านหลังนี้มาเกือบ 40 ปี ตอนโอนบ้านต้องไปโอน 2 จังหวัด แรกๆก็งง แต่ตอนนี้ชินแล้ว เคยมีปัญหาน้ำประปาใน จ.นครปฐมขุ่น หยุดไหลบ่อยมาก และไฟฟ้าก็ดับบ่อย เช่นเดียวกัน ทั้งๆที่อยู่บ้านติดกัน แต่ตนใช้น้ำประปาและไฟฟ้าของกรุงเทพฯจึงไม่ค่อยมีปัญหา บ้านที่อยู่ ติดกันถึงกับเอ่ยปากว่า อยากเป็นคนกรุงเทพฯจริงๆ เลย หากเกิดเหตุคนร้ายเข้าบ้าน ถ้าคนร้ายเข้าทางด้านหน้าบ้านปกติคดีจะเป็นของ สน.ธรรมศาลา แต่ถ้าคนร้ายเข้ามาทางห้องน้ำหลังบ้าน คดีจะเป็นของ สภ.พุทธมณฑล“เคยมีเรื่องฮาอยู่เรื่องหนึ่งคือ ถนนในหมู่บ้าน จะเป็นเส้นทางลัดจากถนนพุทธมณฑลสาย 4 ไปถนนเลียบคลองทวีวัฒนา เป็นถนนหลวงระยะทางประมาณ 2-3 กม. ราว 2 ปีก่อนมีการปรับขยายและยกพื้นถนนให้สูงขึ้น ฝั่งกรุงเทพฯเริ่มทำถนนก่อน จ.นครปฐมทำตามทีหลังแต่เสร็จก่อน เมื่อกรุงเทพฯทำมาเชื่อมกับนครปฐมตรงหน้าบ้านผม ปรากฏว่า ถนนฝั่ง จ.นครปฐมต่ำกว่ากรุงเทพฯถึง 40 ซม. บ้านผมเหมือนอยู่ในเหวเลย ต้องรื้อและทำใหม่เพื่อให้เชื่อมกันได้พอดี เพิ่งเสร็จไม่นานนี่เอง ก่อนทำถนนใหม่เคยเดินข้ามถนนไปกินกาแฟรถเข็นในเขต จ.นครปฐมทุกวัน แต่หลังจากทำถนนเสร็จ รถวิ่งเร็วขึ้น ไม่กล้าข้ามถนนบ่อยๆ ยังงงอยู่ว่า จริงๆแล้วการแบ่งเขตจังหวัดต้องแบ่งตามคลองหรือถนน แต่นี่เล่นแบ่งเอาเกือบกลางบ้าน ทำให้ผมต้องกลายเป็นชายชราที่เดินไปกลับต่างจังหวัดบ่อยที่สุดไปเลย” นายถวิลกล่าวด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายสุรศักดิ์ ศานมารค อายุ 82 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 หมู่ 8 หมู่บ้านเดียวกัน หลังบ้านติดกับบ้านของตาหวิน ที่ต้องพบกับ ปัญหามีบ้านอยู่ในพื้นที่ 2 จังหวัดเช่นเดียวกัน นายสุรศักดิ์กล่าวว่า มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2532 บ้านตนมี 2 โฉนดเช่นกัน เท่าที่รู้มีแค่บ้านตนกับบ้านตาหวินนี่แหละที่พิลึกพิลั่น บ้านตนมีพื้นที่ 36 ตร.ว.มีพื้นที่อยู่ใน จ.นครปฐม 11 ตร.ว. พื้นที่กรุงเทพฯ 25 ตร.ว. ถัดจากบ้านตนไปเป็นพื้นที่ของกรุงเทพฯทั้งหมด ด้วยผังบ้านของหมู่บ้านนี้ สร้างให้ห้องน้ำอยู่นอกห้องนอน ฉะนั้น ห้องน้ำจึงไปอยู่ในพื้นที่ จ.นครปฐม ทันที ตนเป็นชายชราอีกคนที่เดินเท้าไปกลับต่างจังหวัดวันละเป็นร้อยรอบเช่นกันส่วน ด.ต.ดวงมณี ตั้งใจ ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ธรรมศาลา หน่วยเฉพาะกิจสายตรวจนอกเครื่องแบบ เผยว่าช่วงแรกๆหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่สร้างความสับสนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเป็นอย่างมาก หลายครั้งที่รับแจ้งเหตุ เมื่อสายตรวจไปถึงกลับพบว่าเป็นพื้นที่ของ สภ.พุทธมณฑล คนแจ้งความเองก็สับสน ต้องแจ้งเจ้าของพื้นที่ให้ทราบ ถ้าวัดจากถนนเลียบคลองทวีวัฒนาเข้าไปเกือบถึงเสาหลักแบ่งเขต ต้องผ่านคลองเนินทราย ถ้าการแบ่งเขตตอนแรกแบ่งด้วยคลองนี้น่าจะเหมาะสม ในพื้นที่ สน.ธรรมศาลา เป็นรอยต่อกับ จ.นครปฐม แบ่งเขตพื้นที่รับผิดชอบแบบงงๆประมาณ 3 หมู่บ้าน ป้อม รปภ.ของหมู่บ้านเป็นของ สน.ธรรมศาลา แต่ตัวบ้านทั้งหมดเป็นของพื้นที่ สภ.พุทธมณฑล หาก รปภ.ทะเลาะกันเป็นคดีของ สน.ธรรมศาลา หากในหมู่บ้านเกิดเหตุอาชญากรรมเป็นความรับผิดชอบของ สภ.พุทธมณฑล เบื้องต้นข้อกฎหมายระบุเหตุการณ์แบบนี้ไว้ว่า ในพื้นที่ที่ไม่มีความชัดเจน ถ้าตำรวจเจอคนร้ายกำลังเข้าบ้านในเขตรอยต่อให้จับ และให้เจ้าของบ้านมาแจ้งความในพื้นที่ที่ตำรวจจับคนร้ายได้เลย