เป็นเวลากว่า 30 ปีที่นักวิจัยหลายรายได้ ทำงานขุดค้นเหมือง Mygatt-Moore ตั้งอยู่ในแถบตะวันตกของรัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา โดยในแต่ละฤดูกาลก็จะมีการค้นพบใหม่ๆ ตลอดมา พื้นที่แห่งนี้มีชื่อเสียงเพราะเป็นที่ฝังทับถมของซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลยุคจูราสสิกจำนวนมาก โดยเฉพาะฟอสซิลโครงกระดูกไดโนเสาร์จากการขุดสำรวจในเหมือง Mygatt-Moore ได้ค้นพบฟอสซิลโครงกระดูกจำนวน 2,368 ชิ้น มีทั้งกระดูกไดโนเสาร์และสัตว์ชนิดอื่น อายุราวๆ 152 ล้านปี และร่องรอยบนกระดูกหลายชิ้นได้ให้ข้อมูลแก่นักบรรพชีวินวิทยามากกว่าที่เคยคาดหวังไว้ เนื่องจากพบว่า 29% ของกระดูกเหล่านี้มีหลักฐานรอยกัด ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่าปกติมาก บ่งบอกถึงการรุกไล่กันอย่างหนักในระบบนิเวศแห่งนี้เมื่อครั้งโบราณ สาเหตุก็น่าจะมาจากความเครียด ความแห้งแล้งตามฤดูกาล หรือไฟป่า ที่น่าประหลาดใจอีกอย่างคือพบว่า 17% ของกระดูกไดโนเสาร์นักล่ากลุ่มเทอโรพอด ส่วนใหญ่เป็นอัลโลซอรัส (Allosaurus) มีร่องรอยการกัดตามกระดูกนิ้วเท้าเล็กๆ บ่งบอกได้ว่าอัลโลซอรัสมีการไล่ล่าเผ่าพันธุ์เดียวกันและอาจล่าอย่างแข็งขันนักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซีที่ทำการวิจัย ระบุว่าไดโนเสาร์อัลโลซอรัส ที่มีขนาดยาวได้ถึง 10 เมตร หนักราว 2,500 กิโลกรัม จัดเป็นนักล่าที่พบมากที่สุดในระบบนิเวศดังกล่าว การศึกษาใหม่เผยว่าไดโนเสาร์อย่างอัลโลซอรัส และเซราโตซอรัส (Ceratosaurus) หรือกิ้งก่ามีเขา กินได้ทุกอย่างรวมถึงยังกินกันเอง.