ไฟป่าภาคเหนือลามหนักทำฝุ่นพิษพุ่งสูงหลายจังหวัด ที่ จ.แพร่ เกิดจุดฮอตสปอต 160 จุด ค่า PM 2.5 ทะยานแตะเส้น สีแดง 121 มคก./ลบ.ม. กระทบสายการบินนกแอร์ลงจอดไม่ได้ ต้องไปลงที่ จ.พิษณุโลกแทน ร.ต.อ.ไปช่วยดับไฟเกิดสำลักควันต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลโกลาหล ที่ จ.ลำปางอ่วมไม่แพ้กัน ตัวเลขอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพถึง 2 จุด ด้านภัยแล้งยังวิกฤติ ล่าสุด รพ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ เหลือน้ำใช้แค่สิ้นเดือนนี้ ปภ.ต้องสูบน้ำไปช่วยสถานการณ์ไฟป่าภาคเหนือลุกลาม เกิดหมอกควันและฝุ่นละอองเกินมาตรฐานหลายพื้นที่ โดยเมื่อช่วงสายวันที่ 26 ม.ค.เกิดเหตุไฟไหม้ป่าพื้นที่อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย บ้านปางงุ้น หมู่ 2 ต.สรอย อ.วังชิ้น และพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบริเวณเหนืออ่างบ้านดงเจริญ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สรอย ร่วมผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 นำชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าไปช่วยสกัดกั้นและทำแนวกันไฟที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง ระหว่างนั้น ร.ต.อ.ธนาเดช ดอกจือ รอง สว.สส.สภ.สรอย เกิดสำลักควันไฟ แน่นหน้าอก หน้ามืด และหายใจไม่ออก เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลและรีบพาส่ง รพ.วังชิ้น ทันทีส่วนที่อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ต้าผามอก อ.ลอง จ.แพร่ เกิดไฟป่าลุกลามเป็นบริเวณกว้าง เจ้าหน้าที่ต้องเร่งทำแนวกันไฟให้อยู่ในวงจำกัด ขณะเดียวกันสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ จ.แพร่ ในขณะนี้ได้ส่งผลกระทบต่อสายการบินนกแอร์ เที่ยวบินกรุงเทพฯ-แพร่ ไม่สามารถลงจอดสนามบินจังหวัดแพร่ตามกำหนดในเวลา 10.00 น.ได้ เนื่องจากสภาพอากาศแย่ ทัศนวิสัยการมองไม่ชัดต้องไปลงที่สนามบินจังหวัดพิษณุโลกและบินกลับมา จ.แพร่ ในเวลา 11.30 น.ด้านนางกานต์เปรมปรี ชิตานนท์ ผวจ.แพร่ ตรวจสอบการลักลอบเผาป่าในพื้นที่ ต.สะเอียบ อ.สอง พร้อมกำชับให้ผู้นำท้องถิ่นเร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับทราบถึงปัญหาการเผาป่าที่ส่งผลต่อหมอกควันและฝุ่นละออง ล่าสุดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ช่วงเวลา 07.00 น. สูงถึง 121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ส่วนจุดฮอตสปอร์ตพุ่งสูง 160 จุด ส่งผลให้ทั่วจังหวัดมีฝุ่นละอองปกคลุมบนถนนทุกเส้นทาง ทำให้การขับขี่ยวดยานพาหนะต้องใช้ความระมัดระวังที่ จ.ลำปาง ช่วงดึกวันที่ 26 ม.ค. พ.ต.อ.ศราวุธ วะเท ผกก.สภ.สบปราบ นำกำลังไปช่วยดับไฟไหม้หญ้าข้างทางริมถนนสายเอเชีย (สบปราบ-เถิน) พบไฟลุกไหม้หญ้าแห้งช่วง กม.ที่ 454-455 ต.สบปราบ ทำให้รถยนต์ที่สัญจรไปมาไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ต้องจอดรออยู่หลายคัน พ.ต.อ.ศราวุธกล่าวว่า ตามนโยบายของนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.ลําปาง ให้ตำรวจทั้ง 13 โรงพักเข้ามามีส่วนร่วมในการดับไฟป่า โดยเฉพาะพื้นที่อันตรายบริเวณริมถนนมักมีการลักลอบจุดไฟเผาหญ้า และประชาสัมพันธ์ติดตั้งป้ายริมถนนเป็นระยะ ด้าน พ.อ.กฤษณ์ กิตยาธิวัฒน์ รองผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 สั่งกำลังพลไปช่วยดับไฟป่าลุกไหม้ด้านหลังสำนักสงฆ์ถ้ำภูผาธรรม หมู่ 4 บ้านวังตะเคียน ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ที่เกิดเหตุเป็นยอดเขาสูง ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ ทำได้แค่ป้องกันไม่ให้ลามไปยังสำนักสงฆ์ที่มีกุฏิอยู่นับสิบหลัง โชคดีที่กระแสลมเปลี่ยนทิศทำให้ไฟลุกไหม้ไปบนเขากินพื้นที่หลายร้อยไร่ ส่งผลให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานเล็กน้อยที่ 53 มคก./ลบ.ม. ส่วนสาเหตุคาดว่ามีคนทิ้งก้นบุหรี่ หรือทำให้เกิดไฟไหม้แล้วลุกลามจนเอาไม่อยู่ขณะที่กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือช่วงเวลา 17.00 น. วันเดียวกัน พบฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ระหว่าง 21-120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินมาตรฐานที่ ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน, ต.บ้านต๋อม อ.เมืองพะเยา, ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง, สูงสุด ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง, วัดได้ 120 มคก./ลบ.ม. รองลงมา ต.นาจักร อ.เมืองแพร่ที่ 115 มคก./ลบ.ม. และอันดับ 3 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ที่ 107 มคก./ลบ.ม. คุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพด้านสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษจากฝุ่นละออง ช่วงสถานการณ์วิกฤติ จากประชาชนทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 1,376 คน ระหว่างวันที่ 21-25 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยประชาชนคิดว่ารัฐบาลควรมีวิธีการป้องกันและแก้ไขอย่างไร พบว่าส่วนใหญ่ 33.77% ให้ออกมาตรการต่างๆ บังคับใช้อย่างจริงจัง เช่น จำกัดปริมาณรถส่วนบุคคล ให้ใช้รถสาธารณะ ห้ามเผาไฟ อันดับ 2 ตรวจจับรถทุกประเภทที่มีควันดำ กำหนดเวลาวิ่งของรถบรรทุก 31.36% และอันดับ 3 ฉีดน้ำ พ่นละอองน้ำ ทำฝนหลวง 26.97%เมื่อถามต่อว่าประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะแก้ไขสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ได้มากน้อยเพียงใด ผลปรากฏว่า อันดับ 1 ไม่มั่นใจเลย 52.90% เพราะไม่มีมาตรการที่เป็นรูปธรรมชัดเจน รัฐบาลแก้ปัญหาล่าช้า กระทบต่อสุขภาพของประชาชน ไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง ฯลฯ อันดับ 2 ไม่ค่อยมั่นใจ 40.70% เพราะประชาชนต้องดูแลตัวเอง สถานการณ์ฝุ่นยังมีทุกพื้นที่ แก้ไขได้ยาก มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดฝุ่น ฯลฯ อันดับ 3 ค่อนข้างมั่นใจ 4.80% เพราะ รัฐบาลติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายช่วยกันอย่างเต็มที่ ฯลฯส่วนภัยแล้งขยายวงกว้างกระทบโรงพยาบาลเริ่มขาดแคลนน้ำ โดยที่ฝายบ้านเค็ง ต.ตาโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำระยะไกลผันน้ำเข้าสู่ระบบเก็บกักน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะโรงพยาบาลเมืองจันทร์ ล่าสุดเหลือน้ำใช้เพียงสิ้นเดือน ม.ค.เท่านั้น จึงจำเป็นต้องจัดหาน้ำมาใช้ในโรงพยาบาล เพื่อไม่ให้กระทบต่อการบริการทางการแพทย์ คาดว่าจะเพียงพอต่อโรงพยาบาลและการอุปโภคบริโภคของประชาชนในช่วงหน้าแล้งปีนี้ที่ จ.กาฬสินธุ์ พื้นที่นอกเขตชลประทานเริ่มประสบปัญหาภัยแล้งอย่างรวดเร็ว แหล่งน้ำต่างๆแห้งขอด ทำให้ชาวบ้านประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่ ต.นาจำปา อ.ดอนจาน น้ำแห้งจนชาวบ้านส่วนใหญ่ต้องงดทำนาปรัง บางรายที่ลงทุนทำนาไปแล้วไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงข้าวจนเริ่มเหี่ยวรอวันแห้งตาย ขณะที่น้ำอุปโภคบริโภคก็มีไม่เพียงพอ วัวควายที่เลี้ยงไว้ไม่มีน้ำ ต้องลงทุนตระเวนหาแหล่งน้ำใต้ดินเพื่อขุดนำมาให้สัตว์เลี้ยงกิน ชาวบ้านขอวิงวอนให้จังหวัดเข้ามาสำรวจความเดือดร้อนเพื่อหาทางช่วยเหลือ เนื่องจากฤดูแล้งปีนี้มาเร็วและมีแนวโน้มแล้งยาวนานด้านนายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ รอง ผวจ.สระแก้ว นำคณะลงพื้นที่ติดตามโครงการแก้ปัญหาภัยแล้ง นายณัฏฐชัยกล่าวว่า โครงการแก้ปัญหาภัยแล้งมี 6 โครงการแยกเป็น อ.ตาพระยา 3 โครงการประกอบด้วย โครงการขุดลอกคลองหางม้า บ้านตะโก หมู่ 3 ต.ตาพระยา โครงการขุดลอกสระน้ำสาธารณะลุงเจริญ บ้านเนินสะอาด หมู่ 13 ต.ตาพระยา และโครงการขุดลอกคลองขยาย บ้านโคคลาน หมู่ 1 ต.โคคลาน อ.อรัญประเทศ 3 โครงการ มีโครงการขุดลอกคลองจากอ่างน้องคะนิง ถึงทางแยกวัดโนนโก หมู่ 3 ต.หนองสังข์ โครงการขุดลอกคลองสะพานสิบบาทเพื่อเกษตรกรและปศุสัตว์ในบ้านไทยสามารถ หมู่ 3 ต.บ้านด่าน และโครงการขุดลอกคลองน้ำประปา หมู่ 3 บ้านหนองขาม บ้านไทยสามารถ ต.บ้านด่าน จากการลงพื้นที่พบว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ