จับแล้วฆาตกรโหดฆ่าสาวจีนยัดกระเป๋าเดินทางทิ้งทะเลบางแสน ที่แท้เป็นฝีมือผัวชาวไต้หวัน ชุดสืบสวนตามแกะรอยจากเทปกาว เชือก และถุงดำที่คนร้ายซื้อมาจากในห้าง ก่อนบุกตะครุบคาห้องเช่า สารภาพมีปัญหาทะเลาะกันเรื่องธุรกิจในครอบครัว แถมตกลงเรื่องลูกไม่ได้ว่าจะให้ถือสัญชาติจีนหรือไต้หวัน ล่าสุดมีปากเสียงถึงขั้นตบตีกัน เลยยัวะบีบคอเมียตายคามือ ก่อนมัดมือมัดเท้านำศพยัดกระเป๋าใส่ท้ายรถเก๋งไปโยนทะเลอำพรางกรณีพบศพหญิงสาวหน้าตาคล้ายชาวจีนอายุประมาณ 30 ปี ถูกฆาตกรโหดฆ่ารัดคอมัดมือมัดเท้าใช้ผ้าเทปสีเหลืองพันศีรษะยัดใส่กระเป๋าเดินทางนำไปทิ้งทะเลบางแสน ก่อนถูกคลื่นซัดลอยติดโขดหินแนวกั้นคลื่นบริเวณชาย หาดบางพระ หมู่ 3 ต.บางพระ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีชาวบ้านไปพบเมื่อเย็นวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจคาดว่าผู้ตายน่าจะถูกคนร้ายฆ่ามาจากที่อื่น แล้วนำศพทิ้งทะเลอำพราง ส่วนคนร้ายสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นคนใกล้ชิด อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนคลี่คลายคดีต่อมาเวลา 23.00 น. วันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 ร่วมกับ พล.ต.ต.ประการ ประจง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง.ผบก.ภ.จ.ชลบุรี และ พ.ต.อ.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยราชการหัวหน้าสำนักงาน ผบช.ภ.2 เดินทางไปสอบปากคำนายเจียง อายุ 30 ปี ชาวจีน โดยให้ข้อมูลว่าผู้ตายเป็นเพื่อนสนิทชื่อ น.ส.เลี่ยว ลี่ ลี่ อายุ 33 ปี ชาวจีน หายตัวไปและขาดการติดต่อกับญาติที่ประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งทราบข่าวสาวชาวจีนถูกฆ่า จึงติดต่อตำรวจขอดูศพผู้ตายและยืนยันเป็น น.ส.เลี่ยว ลี่ ลี่จากนั้น พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 นำกำลังไปตรวจค้นหาหลักฐานในห้องพักผู้ตายตามที่เพื่อนชาวจีนให้การว่า น.ส.เลี่ยว ลี่ ลี่ เคยพักที่ห้องเช่าในพื้นที่ อ.เมืองชลบุรี โดยมี พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.สภ.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี และพ.ต.อ.กฤต นิติทัศไนย ผกก.สภ.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี อำนวยความสะดวกในการค้นหา เนื่องจากยังไม่ ทราบแน่ชัดว่าหอพักผู้ตายอยู่ในพื้นที่ใด กระทั่งพบผู้ตายเคยพักอยู่อัยพัชญ์ อินน์ เลขที่ 70/26 หมู่ 3 ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี แต่หอพักดังกล่าวปิดปรับปรุงตั้งแต่เดือน เม.ย.62พล.ต.ท.มนตรีเผยว่า คดีคืบหน้าไปมากจากปากคำพยานที่ให้ข้อมูลรู้ชื่อผู้เสียชีวิตแล้ว ส่วนหอพักดังกล่าวผู้ตายเคยพักตั้งแต่เดือน เม.ย.62 ก่อนปิดชั่วคราว จากการสอบถามเพื่อนชาวจีนของผู้ตายที่มาสอนภาษาจีนทราบว่า น.ส.เลี่ยว ลี่ ลี่ อยู่เมืองไทยมานานกว่า 10 ปีแล้ว มีสามีชาวไต้หวันชื่อนายลู่ จื่อหยาง อายุกว่า 30 ปี แต่นายเจียงกับผู้ตายไม่ได้เจอกันนานแล้ว เพราะนายเจียงไปพักอยู่เมืองพัทยา ส่วนผู้ตายอยู่กับสามีในเมืองชลบุรี และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุกว่า 2 เดือน โดยเชื่อว่านายลู่ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายในครั้งนี้“แนวทางการสืบสวนของตำรวจเชื่อว่าคนร้ายที่ลงมือสังหารผู้ตายต้องมีมากกว่า 2 คน เพราะน้ำหนักตัวผู้ตายหนักประมาณ 50 กก. ตอนนี้สั่งให้ชุดสืบสวนทั้งหมดเร่งติดตามฆาตกรโหดที่สงสัยว่าเป็นสามีชาวไต้หวันเป็นผู้ก่อเหตุ คาดว่าคงยังไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศ น่าจะได้ตัวไม่เกิน 2 วัน ส่วนสาเหตุจูงใจในการฆ่าก็มีอยู่หลายประเด็น แต่คงเปิดเผยอะไรไม่ได้ ต้องรอจับผู้ต้องหาได้เสียก่อน” ผบช.ภ.2 กล่าวต่อมาบ่ายวันที่ 12 ม.ค. พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผกก.สภ.ศรีราชา พร้อมด้วย พ.ต.ท.พิสิทธิ์ ตั้งศิริเสถียร รอง ผกก.สส.สภ.ศรีราชา พ.ต.ต.อรรคพงษ์ จตุพรม สว.สส.สภ.ศรีราชา นำกำลังเข้าจับกุมนายลู่ จื่อหยาง อายุ 38 ปี สัญชาติไต้หวัน สามีผู้ตายภายในห้องเช่าเลขที่ 301 ชั้น 3 คอนโดราชาแลนด์แอนด์เฮ้าส์ หมู่ 2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา หลังชุดสืบสวนได้หลักฐานสำคัญเป็นอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ เช่น เทปกาวสีเหลือง เชือกสีขาว สีเขียว ถุงดำที่คนร้ายซื้อจากร้านขายอุปกรณ์ช่าง ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา ก่อนตามแกะรอยพบผู้ต้องหาพักอยู่ห้องเช่าดังกล่าว ระหว่างถูกคุมตัวนายลู่ จื่อหยาง มีสีหน้าเคร่งเครียดนายลู่ จื่อหยาง ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนฆ่าภรรยาจริง ปมปัญหามาจากเรื่องธุรกิจขายเสื้อผ้าส่งออกที่ทำกันในครอบครัวและเพื่อนสาวของผู้ตาย เกิดปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้ง อีกทั้ง ยังมีปากเสียงกันถึงเรื่องสัญชาติลูกน้อยวัย 3 เดือนว่าจะให้ถือสัญชาติใด ล่าสุดวันที่ 8 ม.ค. มีปากเสียงกันอย่างรุนแรงถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน เลยโมโหบีบคอผู้ตายจนขาดอาการหายใจ จากนั้นไปซื้อเทปกาว เชือกและถุงดำในห้างมามัดมือมัดเท้ายัดศพใส่กระเป๋าเดินทางแล้วนำขึ้นท้ายรถเก๋งฮอนด้า สีขาว ไปโยนทิ้งชายทะเลบางแสน โดยไม่ได้หลบหนีไปไหนยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่และถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าวเย็นวันเดียวกัน พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ภ.2 นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าวที่ สภ.ศรีราชาว่า คดีนี้ตำรวจได้หลักฐานจากพยานเป็นเพื่อนผู้ตาย รวมถึงนำภาพไปตรวจสอบในระบบไบโอเมทริกซ์จนสามารถตามจับกุมนายลู่ จื่อหยาง ได้ในที่สุด ส่วนสาเหตุพบว่าผู้ต้องหากับผู้ตายมีปากเสียงกันเรื่องการเปลี่ยนสัญชาติลูกน้อยวัย 3 เดือน อีกทั้งยังเคยโกงเงินธุรกิจของภรรยากว่า 3 ล้านบาท และโกงเงินธุรกิจเพื่อนผู้ตายกว่า 1 ล้านบาท และมีประวัติ ไม่ธรรมดา โดยมีหมายจับที่ประเทศไต้หวัน ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนอย่างละเอียดว่าผู้ต้องหาเคยยุ่งเกี่ยวกับคดีอื่นๆ หรือมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่