แม้จะอยู่ไกลและหนาวเหน็บ แต่ เกาะกรีนแลนด์ ได้กลายเป็นจุดสนใจที่เพิ่มขึ้นในการศึกษาวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านๆมามีงานวิจัยมากมายเผยถึงภาวะวิกฤติของกรีนแลนด์ โดยเฉพาะน้ำแข็งที่ละลายลงอย่างรวดเร็ว บรรดานักวิจัยจึงมุ่งศึกษาด้านสภาพภูมิอากาศและธรณีวิทยา แต่ก็มีเรื่องการขุดค้นซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตในยุคโบราณแทรกแซมให้รู้บ้างเป็นครั้งคราว เช่น การพบซากฟอสซิลสัตว์อายุนับพันล้านปี ที่บ่งชี้ว่าเกาะแห่งนี้มีความลับซ่อนอยู่อย่างมากมายและหลากหลายล่าสุด นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ในญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยออสโล ในนอร์เวย์ เผยว่า อาจพบแม่น้ำซ่อนตัวอยู่ใต้ธารน้ำแข็งในเกาะกรีนแลนด์ และนี่อาจเป็นสิ่งที่ช่วยพยากรณ์ความแตกต่างของการเปลี่ยนระดับน้ำแข็งของโลกในอนาคตก็เป็นได้นักวิทยาศาสตร์กลุ่มดังกล่าวเผยว่า จากการใช้ข้อมูลเรดาร์ในการวิเคราะห์ความสูงของพื้นผิวหินใต้น้ำแข็ง เพื่อมาสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์แสดงพื้นที่ที่น่าจะเป็นสิ่งที่พวกเขาค้นพบก็คือหุบเขายาวที่เต็มไปด้วยน้ำซึ่งเป็นของเหลวไหลออกสู่ชายฝั่ง โดยช่วยในการตั้งสมมติฐานว่านี่คือการค้นพบแม่น้ำที่อาจมีขนาดยาวประมาณ 1,600 กิโลเมตรไหลลึกอยู่ข้างใต้เกาะกรีนแลนด์แม้จะยังต้องค้นหาข้อมูลที่แม่นยำเพื่อยืนยันการมีอยู่จริงของแม่น้ำที่ซ่อนตัวอยู่นี้แต่ทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ตั้งชื่อแม่น้ำสายนี้ว่า “ดาร์ก ริเวอร์” (Dark river) ในช่วงที่นำเสนอสิ่งที่พวกเขาค้นพบต่อที่ประชุมของสหภาพธรณีวิทยาอเมริกา (American Geophysical Union)มีการคาดคะเนว่าสิ่งที่ค้นพบนี้จะช่วยให้นักวิจัยในอนาคตเกิดความเข้าใจได้ดีขึ้นว่าสสารในน้ำแข็งกรีนแลนด์นั้นอาจถูกถ่ายโอนจากระบบของสิ่งมีชีวิตเข้าสู่สิ่งแวดล้อม หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของสารหนึ่งไปอีกสารหนึ่ง อันเป็นกระบวนการที่รู้จักในชื่อ “วัฏจักรชีวธรณีเคมี” (biogeochemical)ซึ่งหมายความว่าแม่น้ำอาจมีอิทธิพลต่อการไหลของน้ำแข็ง และทำให้ตะกอนก๊าซและสารอาหารถูกเคลื่อนย้ายจากภายในแผ่นน้ำแข็งไปสู่มหาสมุทรอย่างรวดเร็ว.ภัค เศารยะ