ตำราเทวดาฝรั่ง กรีก–โรมัน (สำนักพิมพ์อมรินทร์ พิมพ์ครั้งที่ 9 พ.ศ.2549) อ.สายสุวรรณ ใช้คำ ปกรณัมอมตะแห่งเหล่าเทวะและวีรบุรุษ ทำให้เข้าใจว่า ระหว่างเทพที่อยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้ากับเจ้าที่เป็นใหญ่อยู่ในแผ่นดิน คบค้าเสวนากันเป็นอันดีแต่การคบหาเทพนั้น เจ้าต้องระมัดระวัง โชคดีก็ขอพรวิเศษ อะไรก็ได้ โชคร้ายก็ถูกสาปเรื่องของท้าวไมดัส เจ้าครองแคว้นฟริเจีย ในเอเซียไมเนอร์ มีตัวตนจริงอยู่ในสมัยไล่หลังอีสป เป็นตัวอย่างวันหนึ่งมีคนชนบทนำคนประหลาดรูปร่างพิกล ส่วนบนเป็นคน ส่วนขาเป็นแพะ มีเขาสั้นบนหัว ขนดกปกคลุมทั่วกาย ชื่อเซไลนัส สภาพเมามายไร้สติ มาถวายเจ้าไมดัสรู้ว่าเป็นทิพมานุษเจ้าวิชาการ ก็ดูแลไว้อย่างดีสิบวันต่อมา เทพแบกคัส เทพน้ำเมรัย ก็ตามมาบอกเจ้าไมดัสว่าเมาอยู่ด้วยกัน จนพลัดหลงกับอาจารย์ซาบซึ้งน้ำใจเจ้าไมดัสมาก ออกปาก “ขออะไรมา ข้าจะให้”เจ้าไมดัสเป็นเจ้านครร่ำรวยแต่ก็ยังคิดว่ารวยไม่พอ หลุดปากขอ จะจับต้องสิ่งใด ขอให้เป็นทอง เทพแบกคัสให้เจ้าไมดัสยื่นมือมาแล้วประสิทธิ์ให้ เทพเมรัยลาไป เจ้าไมดัสก็ลองของหักกิ่งไม้ได้กิ่งหนึ่ง กิ่งไม้กิ่งนั้นเป็นทองคำ เพื่อความแน่ใจ ลองเก็บก้อนหิน ก้อนหินก็กลายเป็นทองเจ้านครฟริเจียสนุกเพลินอยู่กับการจับสิ่งของเป็นทอง จนถึงเวลาเสวยกระยาหาร มือมหัศจรรย์คู่เดิมจับอาหารหรือน้ำก็เป็นทอง... เป็นอันว่า เสวยอะไรไม่ได้หันรีหันขวางพักใหญ่ก็ภาวนาถึงเทพแบกคัส...เทพเธอปรากฏกายตรงหน้า สีหน้าเวทนาบอกว่าพรที่ให้แล้วไม่อาจเอาคืนได้ แต่ก็แนะทางแก้ ให้ไปที่ต้นแม่น้ำแพกโทลัส ลงสรงสนาน น้ำจะชำระมลทิน คือเครื่องทองประดับกาย ให้เลื่อนไหลไปกับสายน้ำผลพรวิเศษ ทรายในแม่น้ำแพกโทลัสกลายเป็นทรายทอง เล่าขานกันอยู่ที่แคว้นลิเดีย จนถึงวันนี้นับแต่วันนั้นเจ้าไมดัสก็เปลี่ยนนิสัยกลายเป็นเจ้าสันโดษ สนใจในธรรมชาติและเสียงเพลงในชนบท จนกลายเป็นผู้เลื่อมใสบูชาเทพแพน เทพเจ้าประจำทุ่ง ซึ่งเชี่ยวชาญในการบรรเลงเพลงคราวหนึ่งเทพแพนเหิมเกริมในฝีมือหาญกล้าไปท้าประลองกับเทพอพอลโล เทพอพอลโลรับคำท้า ขอเลือกทโมลัส เจ้าครองภูเขาเป็นกรรมการตัดสิน เทพแพนบรรเลงเพลงปี่ เทพอพอลโลบรรเลงเพลงพิณกรรมการตัดสินให้เทพอพอลโลชนะเจ้าไมดัสฟังการประลองเพลงอยู่ด้วย ทักกรรมการ เพลงพิณเทพอพอลโลไพเราะตรงไหน เทพพิโรธ มนุษย์อย่างไมดัสฟังเพลงอย่างไรก็ไม่รู้ว่าไพเราะ มีหูเสียเปล่า เหมือนหูลา สาปเจ้าไมดัส ให้มีหูงอกยาวเหมือนลาเจ้าไมดัสอาย สั่งช่างตัดผมแต่งผมกลบหูให้มิดชิด และสำทับ “นี่เป็นความลับ แพร่งพรายไป โทษถึงตาย”ช่างตัดผมเก็บเป็นความลับคับอกไว้นานจนทนไม่ไหว วันหนึ่งก็ออกไปกลางทุ่ง ขุดหลุมให้ลึก แล้วก้มตะโกนลงไป “เจ้าไมดัสมีหูเหมือนลา” โล่งสบายใจ แล้วก็กลับนอนบ้าน ฝันดีต่อมาไม่นาน หลุมลึกนั้นก็เกิดต้นอ้อกอใหญ่ แพร่พันธุ์ขยายไปเต็มทุ่ง เมื่อลมพัดผ่านต้นอ้อก็ไหว มีเสียงเหมือนกระซิบ “เจ้าไมดัส มีหูเป็นลา” ออกมาให้ผู้คนได้ยิน นับแต่นั้นความลับเจ้าไมดัสก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไปผมอ่านเรื่องเทพเจ้าฝรั่ง..แล้วคิดถึงปัญหาการเมืองไทย นายกฯประยุทธ์ถวายสัตย์ฯ อาจารย์วิษณุ เครืองาม เคยตอบคำถามนักข่าวครั้งหนึ่ง บางเรื่องเป็นความลับที่ไม่ควรรู้แต่ก็พอได้อุทาหรณ์ นิทานฝรั่งเรื่องนี้สอนให้มนุษย์รู้ว่า กับเทพเจ้านั้นต้องระวัง...ไม่ควรขอก็อย่าขอ ถ้าขอไม่ดี พลาดพลั้ง... อาจถูกสาปให้หูยาวเหมือนลา อับอายขายหน้าไปชั่วฟ้าดิน.กิเลน ประลองเชิง