เสรีภาพสื่อมวลชนกลายเป็นประเด็นปัญหาอีกครั้ง เมื่อคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี กล่าวหาว่ามีเนื้อหารายการก่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง ต่อมาวอยซ์ทีวีฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอความคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้เป็นจอดำพูดง่ายๆ ก็คือ กสทช.สั่งปิดวอยซ์ทีวี 15 วัน สมาคมวิชาชีพสื่อมวลชน อันประกอบด้วยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตรายการข่าวออนไลน์ ได้ร่วมกันแถลงการณ์คัดค้านคำสั่ง กสทช. เพราะขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ถ้าเห็นว่ารายการทีวีกระทบต่อความมั่นคง ก็ชอบที่จะดำเนินคดีตามปกติการสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ น่าจะไม่ใช่เพียง “ขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ” แต่น่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญเลย ทีเดียว เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 35 ระบุว่า “การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์ หรือสื่อมวลชนอื่น เพื่อลิดรอนเสรีภาพ” จะกระทำมิได้ หลักการนี้เขียนไว้เป็นครั้งแรกในรัฐธรรมนูญ 2492 เมื่อ 70 ปีมาแล้ว และสืบทอดมาจนถึงปัจจุบันต่างกันแต่เพียงว่ารัฐธรรมนูญ 2492 และ 2517 เขียนว่า “ห้ามปิดหนังสือพิมพ์” เพราะในยุคก่อนวิทยุกับโทรทัศน์เป็นกิจการของรัฐ จึงคุ้มครองแต่หนังสือพิมพ์ ต่อมารัฐธรรมนูญ 2540 ขยายการคุ้มครองมาถึงวิทยุและโทรทัศน์ อาจถือได้ว่าเป็นการปลดแอกวิทยุและโทรทัศน์เป็นครั้งแรก และเป็นรัฐธรรมนูญฉบับแรกที่ให้กำเนิด “กสทช.”องค์กรรัฐที่เป็นอิสระเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ตั้ง กสทช.ขึ้นมา เพื่อให้เป็นองค์กรรัฐที่เป็นอิสระ มีอำนาจหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับกิจการวิทยุและโทรทัศน์ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ไม่ใช่เพื่อลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการเสนอข่าว ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน ในสังคมประชาธิปไตย โดยอ้างกฎหมายคณะรัฐประหารพ.ร.บ.กิจการวิทยุและโทรทัศน์ที่ กสทช.อ้าง เพื่อสั่งปิดสถานีโทรทัศน์ออกมาตั้งแต่ปี 2551 ในรัฐบาลของคณะรัฐประหาร กฎหมายนี้ให้ กสทช.มีอำนาจสั่ง “ระงับการออกอากาศ” หรืออาจพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตได้ ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะเขียนไว้ชัดห้ามปิดหนังสือพิมพ์ “หรือสื่อมวลชน” เป็นหลักการที่ยึดถือมาเกือบศตวรรษการปิดกิจการสื่อมวลชน เป็นหลักการที่สืบทอดมาจากแนวความคิด “อำนาจนิยม” ขัดแย้งกับหลักการประชาธิปไตย น่าจะมีองค์กรใดร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วินิจฉัยว่าการสั่งปิดสื่อมวลชน ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน สืบไป ทุกคนต้องยอมรับว่า “รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด” กฎหมายใดขัดรัฐธรรมนูญเป็นโมฆะ.