ในยุคสมัยก่อน คนเป็นโรคมีพยาธิในตัวกันเยอะ สาเหตุเป็นเพราะชอบกินอาหารดิบๆอย่างแพร่หลาย เมื่อเป็นแล้วจะทำให้ร่างกายซูบผอมผิวซีดเหลืองดูไม่ได้ ใครพบเห็นจะรู้ทันทีว่าคนนี้ต้องมีโรคประจำตัวอย่างแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าเป็นโรคอะไรเท่านั้นในทางสมุนไพรให้เอารากหรือหัวของต้น “หนอนตายหยาก” ชนิดแห้งจำนวน 2 หัวต้มกับน้ำท่วมยาหรือมากหน่อยจนเดือดดื่มขณะอุ่น ครั้งละครึ่งแก้ว 3 เวลาก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ เช้า กลางวัน และเย็น ต้มดื่มติดต่อกัน 15–20 วัน หรือจนกว่าตัวพยาธิในตัวจะตายหรือออกมาจนหมด จึงหยุดต้มดื่ม ตัวยาที่ต้มดื่มดังกล่าวจะช่วยฆ่าตัวพยาธิหรือขับพยาธิที่มีอยู่ในตัวจนออกหมด ไม่ว่าจะเป็นพยาธิตัวกลม ตัวแบน ตัวจี๊ด พยาธิเส้นด้ายและพยาธิใบไม้ในตับตายเกลี้ยงและออกจนหมด จากนั้นร่างกายที่เคยซูบผอม ผิวเหลืองดูไม่มีน้ำมีนวลจะกลับมาดีขึ้นเองอย่างชัดเจนแบบเหลือเชื่อหนอนตายหยาก หรือ STEMONA TUBEROSA LOUR อยู่ในวงศ์ STAMONACEAE เป็นไม้เถาเลื้อยขนาดเล็ก ลำต้นกลม เลื้อยได้ไกลเกือบ 5 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้าม ก้านใบยาว ใบเป็นรูปหัวใจ ปลายแหลม โคนใบกว้างและเว้าลึกเป็นรูปหัวใจดังกล่าว มีเส้นแขนงใบแทงขึ้นจากโคนใบอย่างชัดเจน รากหรือหัวของต้น “หนอนตายหยาก” เป็นกระจุกหรือรูปกระสวย เนื้อในหัวเป็นสีขาวมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวซึ่งรากหรือหัวดังกล่าวชาวบ้านนิยมเอาแบบสด จำนวนตามต้องการทุบพอแตกหมักกับน้ำฆ่าหนอนในอาหารฆ่าตัวหิตและตัวเหาบนศีรษะได้ดีมาก สมัยก่อนนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ กลีบดอกเป็นสีเขียวแกมสีแดง “ผล” รูปกลมรี ผลแห้งแตกได้ ภายในมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก มีดอกและติดผลเกือบทั้งปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและปักชำต้น มีชื่อเรียกอีกคือ “กะเพียด”มีต้นขายทั่วไป ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ แต่ละแผงราคาไม่เท่ากัน จะต้องเดินสอบถามราคาและดูต้นจริงก่อนตัดสินใจซื้อไปปลูก ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ตามที่กล่าวข้างต้นคุ้มค่ามากครับ.“นายเกษตร”