เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ 21 ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น สหรัฐฯ ตำรวจนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ใช้เวลานานราว 3 ชม. ปิดล้อมซุปเปอร์มาร์เก็ต เทรดเดอร์ โจ’ส์ ย่านซิลเวอร์ เลค ซึ่งห้วงเวลานั้นลูกค้าภายในร้านพลุกพล่านราว 40 คน โดยตำรวจยิงต่อสู้กับมือปืนรายหนึ่งที่ขับรถหนีการไล่ล่าของตำรวจและมาจอดรถหนีเข้าไปภายในห้างดังกล่าว กระทั่งคนร้ายซึ่งทราบภายหลังเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-อัฟกัน วัย 28 ปี ยอมมอบตัวต่อตำรวจ หลังยิงพนักงานภายในร้านเสียชีวิต 1 ราย เป็นผู้จัดการร้านและทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย นายเอริค การ์เซตติ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส แถลงระบุคนร้ายรายนี้ก่อเหตุยิงยายตัวเองกับผู้หญิงอีกคนที่บ้านหลังหนึ่งก่อนโดยไม่ทราบสาเหตุที่ย่านเซาท์ลอสแอนเจลิส ตอนใต้ของนครลอสแอนเจลิส แล้วขับรถหนีจากจุดเกิดเหตุ กระทั่งเจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยของคนร้ายใกล้ย่านฮอลลีวูด จึงพยายามให้คนร้ายจอดรถข้างทาง แต่คนร้ายกลับขับหนีแล้วยิงใส่เจ้าหน้าที่หลายนัด ก่อนพุ่งชนเสาไฟฟ้าหน้าซุปเปอร์มาร์เก็ตดังกล่าวแล้วหลบเข้าไปข้างในเพื่อใช้ลูกค้าเป็นตัวประกันในเวลาต่อมา คนร้ายมือปืนยิงต่อสู้กับตำรวจแล้วยอมมอบตัวผ่านการเจรจาต่อรอง โดยคนร้ายมือปืนถูกยิงบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย เจ้าหน้าที่ทยอยช่วยเหลือตัวประกันอย่างเร่งด่วน ส่วนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ทวีตข้อความระบุอยู่ระหว่างเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สาเหตุหรือมูลเหตุจูงใจคนร้ายมือปืนก่อความรุนแรงครั้งนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน คาดว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนตัว ไม่ใช่เหตุก่อการร้าย วันเดียวกันนี้ ที่แอฟริกาใต้ เกิดเหตุกลุ่มมือปืนยิงถล่มรถบัสขนาดเล็กที่มีผู้โดยสารเป็นกลุ่มคนขับแท็กซี่ เหตุเกิดที่เมืองโคเลนโซ จังหวัดกัวเต็ง ทำให้ผู้โดยสารบนรถบัสเสียชีวิต 11 ราย บาดเจ็บสาหัสอีก 4 ราย สาเหตุความรุนแรงคาดว่า เป็นเรื่องขัดแย้งผลประโยชน์ของแท็กซี่ 2 กลุ่ม แย่งครอบครองเส้นทางทำมาหากิน.