วัดวชิรธรรมาวาส ซึ่งเป็นวัดเฉลิมพระเกียรติพระบรมราชานุสรณ์ 200 ปี รัชกาลที่ 4 กำลังสร้างที่ถนนขุมทอง-ลำต้อยติ่ง เขตลาดลาดกระบัง กทม. จัดทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนสร้างทุกเดือนอาทิตย์ 22 กรกฎาคม 2561 เวลา 13.00 น. ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย เป็นประธานในการทอดผ้าฯ ท่านใดจะร่วมเป็นเจ้าภาพเชิญที่วัด หากมาด้วยตนเองไม่ได้ เชิญร่วมทำบุญได้ที่ธนาคาร กสิกรไทย สาขาลาดกระบัง เลขที่บัญชี 037-1-86728-7 ในวันดังกล่าวยังมีการบวชพระภิกษุ 69 รูปอีกด้วยครับมีการเล่นข้อมูลปลอมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของพม่าในโซเชียล มีเดียภาษาไทยกันจนเละ แต่ละฝ่ายเล่าประวัติศาสตร์พม่าปลอมเพื่อให้เป็นประโยชน์กับการปกครองในปัจจุบันของตนเอง เปิดฟ้าส่องโลกขอทำหน้าที่เล่าความจริงของแท้แน่นอนให้ได้อ่านกันครับพม่าตกจากประเทศที่เคยส่งออกข้าวได้เป็นอันดับ 1 ของโลกมาเป็นประเทศที่ผู้คนอดอยากยากแค้น ต้องออกมาขายแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะนโยบายเศรษฐกิจของคณะปฏิวัติที่ปฏิวัติเมื่อ พ.ศ.2505 ทหารพวกนี้บ้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่มากกว่าส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศในสมัยนั้นก่อนปฏิวัติ รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งให้งบส่งเสริมการเกษตรมากเกินร้อยละ 10 ของงบประมาณในแต่ละปี พอทหารขึ้นมา พวกนี้ตัดงบส่งเสริมการเกษตรลงเหลือเพียงไม่ถึงร้อยละ 5 ต่อปี แต่ไปเพิ่มงบสนับสนุนอุตสาหกรรมเป็นเกือบร้อยละ 40 (เช่น พ.ศ.2513/14 ได้มากถึงร้อยละ 39.5) ทุ่มเทไปเท่าใดก็ถูกพวกปฏิวัติสูบเงินเอาไปใช้ในเรื่องส่วนตัวเกือบหมด จนผลผลิตทางอุตสาหกรรมที่รัฐบาลนายพลเนวินหวังไว้ไม่ได้ผลพอผู้คนไม่มีกินมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะไปเล่นงานรัฐบาลทหาร รัฐบาลทหารก็ถ่ายเทความผิดนี้ไปให้คนจีนที่ทำมาหากินอยู่ในพม่า ทหารปฏิบัติการจิตวิทยาด้วยการไปจับพ่อค้าจีนที่กักตุนสินค้าไว้ขายในราคาสูง จากนั้นก็ไปจัดตั้งในคนพม่าให้ไปทำร้ายฆ่าฟันคนจีน โดยโยนข้อหาทำลายเศรษฐกิจพม่า คนจีนทำให้พม่ายากจน ผู้คนอดอยากพอคนจีนหนีออกนอกประเทศไปจนหมดแล้ว รัฐบาลเผด็จการทหารปฏิวัติก็เร่งเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจเสียใหม่ เร่งร่างรัฐธรรมนูญออกมาลวงโลกและประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ.2517 และก็ยุบสภาปฏิวัติตัวการที่ทำให้ประเทศยากจนใน พ.ศ.เดียวกันเมื่อมีใครบ่นว่าประเทศอดอยาก พวกนี้ก็โยนความผิดไปให้สภาปฏิวัติและคนจีน พวกทหารให้ความหวังใหม่กับประชาชนด้วยพรรคโครงการสังคมนิยมพม่า แต่แท้ที่จริงก็คือเหล้าใหม่ในขวดเก่า ในพรรคมีแต่ทหาร พอใครด่าว่าเป็นเผด็จการ พวกนี้ก็จะแก้ตัวว่า เรามีรัฐธรรมนูญ เราเป็นผู้ปกครองที่มาตามรัฐธรรมนูญ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ.2517-2531 นี่คือ ยุคเผด็จการที่อ้างรัฐธรรมนูญอาจจะมีผู้คนในบางประเทศไปลอกวิธีการของพม่ามาใช้ ทหารพม่าผู้ปกครองที่อ้างรัฐธรรมนูญมาประชุมสุมหัวกันและตั้งแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ชื่อว่า The Long Tern Economic Policies of Burma Socialist Programme เอกสารนี้กำหนดนโยบายเศรษฐกิจใหม่ของพม่า โดยยอมให้เอกชนเป็นเจ้าของธุรกิจได้มากขึ้น และรัฐบาลทหารสัญญาว่าจะไม่ยึดมาเป็นของรัฐ จากนั้นก็ให้ความสำคัญต่อการผลิตทางการเกษตร การประมง ปศุสัตว์ และป่าไม้เป็นอันดับหนึ่ง อันดับสองคือการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ อันดับสามคือเหมืองแร่พอถูกต่างประเทศโจมตี พวกทหารพม่าก็บอกกับประชาชนว่าอย่าไปฟัง เราจะพัฒนาประเทศของเราไม่ให้เหมือนใครและไม่มี ใครเหมือน เป้าหมายของเรานะครับ พี่น้องเอ๋ย พอครบ 20 ปีเมื่อใด เราจะเป็นรัฐสังคมนิยมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแล้วเป็นยังไงครับ พอหมดแผน 20 ปี พม่ากลายเป็นรัฐล้าหลังของโลก ผู้คนอดอยากไม่มีงานทำ ต้องหอบลูกจูงหลานมาหางานทำนอกประเทศ เรื่องนี้ผมไม่ได้พูดเอง เขียนเอง ผู้อ่านท่านที่เคารพ พิสูจน์ด้วยตัวเองได้ง่ายดายมาก ด้วยการออกไปที่ปั๊มน้ำมัน หรือที่โรงงานที่ไหนสักแห่ง จะต้องพบคนพม่าใช้แรงงานในบ้านเรา.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.com