ชื่อชั้น “นฤนารถ พระปัญญา” ไม่ว่าจะอ่านในหนังสือเล่มไหน เล่มนั้นลุ่มลึกชวนอ่านเล่มเอนโจ โคไซ โลกมุมมืดของญี่ปุ่นวัยแรกแย้ม...(สำนักพิมพ์ศยาม ก.ค.58) ผมอ่านจบไปนาน วันนี้เจอเรื่องที่ 9 ถึงตรอกเต๊า เยาวราช ไม่นึกว่าเรื่องโสเภณีไทยก็มียังอยู่ในกลิ่นอายอยุธยา บรรยากาศบุพเพสันนิวาส...สมัยพระเจ้าอู่ทอง ทรงตรากฎหมายเมื่อปี พ.ศ.1908มาตราหนึ่ง ชายใดสู่ขอเอาหญิงคนขับคนรำเที่ยวขอทานเลี้ยงชีวิต และหญิงนครโสเภณีมาเลี้ยงเป็นเมีย ทำชั่วเหนือผัวก็ดี...ผู้รู้ด้วยประการใดๆ พิจารณาเป็นสัจไซ้ท่านให้ผจานหญิงชายนั้นด้วยไถนาส่วนหญิงอันร้ายให้เอาเฉลวปะหน้า ทัดดอกฉบาทั้งสองหู ร้อยดอกกบาลเป็นมาไลยใส่ศีศะ ใส่คอ แล้วให้เอาหญิงนั้นเทียมแอกข้างหนึ่ง ชายชู้เข้าเทียมแอกข้างหนึ่ง ผจานด้วยไถนาสามวันฟังดู สังคมลุ่มเจ้าพระยา น่าจะมีโสเภณีมาก่อนหน้าการออกกฎหมายปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ก่อนกรุงแตก พ.ศ.2310 คำให้การของขุนหลวงวัดประดู่ทรงธรรมตอนหนึ่งว่ามีตลาดบนบกนอกกำแพงพระนคร ตามขานพระนครบ้าง ตามฝั่งฟากกรุงบ้าง ติดแต่ในรอบบริเวณขนอนใหญ่ทั้งสี่ทิศรอบกรุง ข้ามมาจนฟากฝั่งแม่น้ำตามกรุง แลชายกำแพงกรุงนั้นมี 30 ตลาด คือตลาดบ้านจีน ปากคลองขุนละครไชย มีนครหญิงโสเภณีตั้งโรงอยู่ท้ายตลาดสี่โรง รับจ้างทำชำเราแก่บุรุษสมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ.2451 มีการตราพระราชบัญญัติป้องกันสัญจรโรค รัตนโกสินทร์ศก 127ทุกวันนี้หญิงบางจำพวกประพฤติตนอย่างที่เรียกว่านครโสเภณี มีหัวหน้ารวมกันตั้งโรงหาเงินขึ้นหลายตำบลแต่ก่อนการมาตั้งโรงนครโสเภณี นายโรงช่วยถ่ายหญิงมาเป็นทาส รับตั๋วจากเจ้าภาษีแล้วตั้งเป็นโรงขึ้น ครั้นต่อมาได้ทรงพระกรุณาเลิกทาสเสีย หญิงบางพวกที่สมัครเข้ามาเป็นหญิงนครโสเภณี ก็รับตั๋วจากเจ้าภาษี แล้วมีหัวหน้ารวมกันตั้งขึ้นโรงอันควรบ้าง ไม่บังควรบ้างกระทำให้มีเหตุการณ์วิวาทขึ้นเนืองๆ“กาญจนาคพันธุ์” เขียนว่า หลังวัดสามจีนมีโรงแม่สุดเป็นโรงเด่น ตรอกโพธิ์ ตรอกญวน มีโสเภณีชาวญวนและเขมร ทั้งตรอกหน้าโรงหวยก็มีอีใบ้เป็นดารายอดนิยมค่าจ้างกระทำชำเราชายในยุคนั้น ราคาชั่วคราวคือครั้งเดียวคิดเพียงสองสลึง ถ้าเป็นชั้นสูงรูปร่างหน้าตาดี มีบริการที่ดี ห้องและที่สอนสะอาด ราคาหนึ่งบาทถ้าเป็นผู้หญิงญี่ปุ่น ราคาจะแพงขึ้นเป็นสองบาท เหมาตลอดคืนสี่บาทยุคที่กาญจนาคพันธุ์เล่า ข้าวสารถังละสองสลึงถึงหนึ่งบาทนฤนารถบอกว่า ตรอกเต๊าเยาวราช เป็นย่านซ่องโสเภณี ราวกับย่านโยชิวาระในกรุงโตเกียวปัจจุบันผมจงใจเอาเรื่องโสเภณีสมัยโบราณมาเล่าต่อ ก็เพราะคิดมานาน อาชีพอะไรๆ กระทั่งตำรวจ ก็ปฏิรูปกันไปหมดแล้ว ปัญหาที่ทำให้ตำรวจเสียชื่อตลอดมา ก็เรื่องส่วยโสเภณีอดีต ผบ.ตร.เจอข้อหายืมเงินเจ้าของซ่องโสเภณีถึง 300 ล้าน ยังเคลียร์กันไม่ชัดเจนตำรวจปฏิรูปแล้วปฏิรูปอีก น่าจะได้เวลาปฏิรูปโสเภณีกันสักที ที่นิวซีแลนด์ เพิ่งยกระดับเป็นอาชีพมาตรฐาน แต่ในเมืองไทยยังไม่ได้ยินท่านผู้ใหญ่ ไม่ว่าจากฟากรัฐ เอกชน เอ็นจีโอ หลุดปากออกมาสักคำถ้าไม่ปฏิรูประบบโสเภณี เราจะต้องเสียตำรวจดีๆไปกับเรื่องส่วยโสเภณีต่อไป ผมได้ยินข่าวเมื่อไหร่ ทั้งอาย ทั้งเสียดาย.กิเลน ประลองเชิง