อ่านเรื่องพิภพมัจจุราชในวรรณคดี ที่ ว.วินิจฉัยกุล เขียนไว้ในสืบตำนานสานประวัติ (สำนักพิมพ์ทรีบีส์ 2553) แล้ว พอมองเห็นว่า นรกแต่ละศาสนาเกิดจากจินตนาการและความเชื่อที่หลากหลายนรกของกรีกและโรมัน อยู่บาดาลใต้โลกลงไป มีทางติดต่อจากโลกได้โดยทางแม่น้ำแห่งความตาย มีชารอน ชายแจวเรือจ้างพาวิญญาณข้ามไปสู่ยมโลก ทางเข้ายมโลก มีสุนัขสามหัว เป็นยามทำหน้าที่ตรวจตราบรรยากาศยมโลก เยือกเย็น มืดมน ปกคลุมไปด้วยเงาของความตาย วิญญาณจะถูกนำไปเฝ้าพญายม กรีกเรียก เฮเตส (โรมัน เรียก พลูโต) เฮเตสเป็นประธาน ประชุมลูกขุนซึ่งเป็นเทพชั้นรอง พิจารณาคดีลูกขุนชี้ขาดแล้ว พญายมจะสั่งให้ลงโทษมากน้อยตามน้ำหนักความผิดเฮเตส เป็นอนุชาซีอุส ราชาแห่งทวยเทพ และโปซีดอล (เนพจูน) เทพสมุทร สามพี่น้องแบ่งกันปกครอง ซีอุสครองฟ้า โปซีดอน ครองมหาสมุทร เฮเตสปกครองดินแดนแห่งความตายนรกของคริสต์ศาสนา ไม่ปรากฏตำแหน่งแหล่งที่ชัดเหมือนกรีก ลักษณะคล้ายหุบเหวใต้บาดาล สว่างสะท้อนแสงแวววับด้วยเปลวไฟนรก ซึ่งจะเผาผลาญวิญญาณชั่วร้ายอยู่ชั่วนิรันดร์พญามัจจุราช ชื่อลูซิเฟอร์ เดิมเป็นเทวดาที่มีรูปร่างงามสง่า มีฝีมือการรบกว่าเทวดาทั้งปวง แต่เผลอกบฏต่อพระเจ้า จึงถูกลงโทษด้วยการส่งลงมาคุมนรกลูซิเฟอร์ มีสัญลักษณ์สายฟ้าฟาดยาวบนดวงหน้า สวรรค์ยังให้เกียรติมีปราสาทใหญ่โตโอ่อ่าให้พำนัก แม้เป็นเจ้าแห่งความตายแต่ไม่มีหน้าที่ตัดสินมนุษย์กลับคอยชักจูงมนุษย์ให้ทำบาป เพื่อที่จะคร่าวิญญาณลงนรกนรกของคริสต์ศาสนา เมื่อเข้าไปอยู่แล้วต้องอยู่ถาวร ไม่มีการขึ้นสวรรค์ได้อีกนรกของอินเดีย เป็นที่ทรมานผู้ทำความชั่ว ให้ทนทุกข์ทรมานใช้กรรม ในนรกขุมต่างๆ 21 ขุม ตามโทษหนักเบา ไปจนหมดกรรม จึงพ้นจากนรก นรกอินเดียจึงเป็นเพียงที่อยู่ชั่วคราวพระยมอินเดีย ยุคแรกๆมีสามขา แต่ยุคต่อมา เปลี่ยนขาเป็น ไม้เท้า ทรงพาหนะกระบือ มีหน้าที่ตัดสินความดีความชั่วของมนุษย์พระยมหรือพญามัจจุราชฉบับไทย ซึ่งก็คงเอามาจากอินเดีย ตามที่ปรากฏในไตรภูมิพระร่วง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับมนุษย์บนโลก ยกเว้นเวลาตายมีเลขาสองคน สุวรรณเลขา ทำหน้าที่ตามคำตัดสินของพญายม จดบันทึกความดีมนุษย์ลงในแผ่นทอง สุวาณเลขา (วาณ แปลว่าหมา) จดความชั่วมนุษย์ลงบนหนังหมานรกของพระพุทธศาสนามีพิเศษกว่า คือมีพระอรหันต์ อย่างพระมาลัย ลงไปโปรดได้ เมื่อพระมาลัยไปถึง ไฟนรกก็หมดร้อน น้ำในกระทะทองแดงก็เย็นสัตว์นรกสงบสุขตั้งสติฟังพระมาลัยเทศน์ พอพระมาลัยไป นรกก็ร้อนเหมือนเดิมว.วินิจฉัยกุล ให้แง่คิดว่า นรกของฝรั่ง ไม่มีการลดหย่อน ถ้าตกนรกก็ตกตลอดกาล ไม่มีการแก้ตัว ถ้าขึ้นสวรรค์ก็ขึ้นตลอดไป ไม่มีการเกิดใหม่มนุษย์ดูจะต้องระวังตอนตัดสินโทษ ว่าจะรอดไปข้างไหน ถ้าเป็นการสอบ มีแต่สอบได้กับสอบตก ไม่มีการแก้ตัว ไม่มีการทำคะแนนเพิ่มนรกในพุทธศาสนา ทรมานสยดสยองกว่า แต่ก็มีความหวังว่าจะได้พ้นทุกข์ มีช่องทางรับส่วนผลบุญ ที่ญาติพี่น้องส่งไปให้ได้ เป็นนรกที่แฝงความหวัง ความเมตตา และการให้อภัยนรกอีกมิติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า คือนรกในใจ คู่กับสวรรค์ในอกปรับ ครม.หนนี้ คนปล่อยวางเป็น ก็เบาสบาย คนปล่อยวางไม่เป็นก็โวยวาย แท้จริง เป็นความเปลี่ยนแปลงธรรมดาโลก ไม่ปรับไม่เปลี่ยนต่างหาก เป็นเรื่องแปลก.กิเลน ประลองเชิง