สุนทรพจน์ งานประกาศเจตนารมณ์ภาครัฐและเอกชน ในการต่อต้านการให้สินบนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่โรงแรม ดุสิตธานี นายกฯประยุทธ์ เรียกผู้ร่วมงาน...แต่ละท่าน เป็น “ลูกขุน”ท่านก็มั่นใจตัวเองว่า ไม่เคยมีข้อกล่าวหา จึงกล้าเงยหน้าพูดจาบนเวทีต่อหน้าลูกขุนการพูดจาแบบนายกฯ คนไทยก็คุ้นเคยจากหน้าจอทีวี แต่การได้ฟังจากปากตัวจริงๆ ซึ่งความจริงๆ ก็ลีลาเดิมๆ เพียงแต่ผมรู้สึกว่า ได้ความรู้สึกแปลกใหม่ผมเลือกจำเรื่องที่ท่านพูดได้บางเรื่อง เช่นเรื่อง ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ท่านไม่เคยออกไปใช้ชีวิตนอกที่ทำงาน นอกบ้าน สังสรรค์กับใครที่ไหนเลยเงินเดือนเริ่มเป็นทหาร พันกว่าบาท ดูแลลูกเมียให้อยู่ดีมีสุขได้จนกระทั่งบัดนี้แต่การไม่ได้ออกไปคุยกับใคร ก็ไม่ได้หมายความว่า ท่านไม่ได้เปิดหูฟัง...ทุกวัน ท่านฟังทุกเรื่องราวที่เป็นกระแสในสังคม ทั้งเรื่องที่เป็นสาระ ไม่เป็นสาระหลายเรื่องทางการเมือง โดยเฉพาะการเมืองฝ่ายตรงข้าม ฟังแล้วเสียน้ำใจ มีแต่เรื่องจับผิดกันไปได้ทุกแง่ทุกมุม ยิ่งผลงานรัฐบาล แทบจะไม่มีอะไรดี“ตอนนี้ มีเสียงบ่น คนไทยก็จะจนลงๆ คนรวยรวยขึ้นๆ โดยเฉพาะ สองตระกูล “เจริญ”“มุก...เจริญสองตระกูล” ผมเพิ่งได้ยินตอนแรกก็ตามไม่ทัน ค่อยคิดๆจึงเข้าใจ เจริญแรก ก็คือ “เจ้าสัวตระกูลโรงเหล้า...” เจริญสอง “ก็คือ เจริญโภคภัณฑ์” ซีพีเจ้าเก่าประเด็น คนจนจนลง ผมก็เห็นรัฐบาลท่านพยายามแจกเงิน ...ผ่านโครงการมากมายโครงการล่า...มีหมายเลข 9101 กำกับ เงินกว่าสองหมื่นล้าน มีข้อครหาว่า มีกลิ่นไม่ดีพูดอย่างไม่เข้าข้างใคร ตลอดชีวิตผมยังไม่เคยได้ยินว่าโครงการไหน โดยเฉพาะโครงการแบบ “เสี่ยสั่งลุย ลดแลกแจกแถม” ปลอดคอร์รัปชัน มีกลิ่นสะอาด ขนาดดมความสะอาดได้ผมกลับเห็นว่า โครงการรัฐบาลทหาร มีกลิ่นน้อยกว่า โครงการรัฐบาลพลเรือนก็พอเข้าใจ คนในรัฐบาลทหาร เข้ามาโดยไม่ได้ลงทุน คนรัฐบาล เลือกตั้งต้องลงทุนได้เวลาก็ต้องถอนทุนเรื่องคบคนรวยพอเข้าใจ หลายโครงการใหญ่ มีชื่อ คนในเจียรวนนท์ สิริวัฒนภักดี ยืนยันกลุ่มทุนกับทหารกลมกลืนไปกันได้ อีกข้อครหา...โครงการรับเหมาก่อสร้างใหญ่ๆ บริษัทที่ได้ ก็ชื่อเดิมหน้าเดิมๆ ท่านแย้มว่าโครงการเล็กๆหลายโครงการผู้รับเหมา ทิ้งงานทำให้รัฐเสียดาย เพราะความไม่พร้อมบริษัทใหญ่มักได้โครงการใหญ่ไป เพราะมีความพร้อมมากกว่าผมชอบนายกฯปากไวใจตรงอยู่แล้ว จึงยอมรับเหตุผลของท่านฟังได้ดึกคืนเดียวกัน ผมดูทีวีมีนักวิชาการบอกว่า ผลงานสามปีนายกฯประยุทธ์ไม่ผ่าน...การเมืองฟากคุณทักษิณ ไม่ต้องเร่ง แค่รอ เพราะไม่ช้ารัฐบาลประยุทธ์จะสะดุดขาตัวเองล้มเองผมนึกครึ้มๆ ที่นายกฯประยุทธ์เรียกพวกผมในงานว่า “ลูกขุน” จึงอุปโลกน์ตัวเองเป็น “หนึ่งเสียงลูกขุน” ยกมือให้ท่าน...ผ่านแต่ถ้า “ลูกขุนแบบผม” มีสิทธิ์เตือนได้ ก็จะเตือนว่า ตัวท่านผ่าน แต่ให้ระวังคนข้างๆโดยเฉพาะเรื่องเรือเหาะ เรื่องไม้ล้างป่าช้า ที่ซื้อมาเพื่อเซฟ ชีวิตทหาร...คนที่รักเขาทนฟังได้ แต่คนที่ชังเอาปากอมพระมาพูด พูดเท่าไหร่เขาก็ไม่เชื่อ.กิเลน ประลองเชิง