ทีมวิจัยเฟซบุ๊กออกโรง ชี้แจงกรณีเอไอคุยกันเอง อาจดูประหลาดสำหรับคนทั่วไป แต่ยืนยันเป็นเรื่องปกติ เกิดมาหลายสิบปีที่มีการทดลองเอไอแล้ว เผยการปิดโครงการก็เป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่ปิดเพราะกลัว แต่เป็นการปิดเพื่อเริ่มใหม่จากกรณีข่าวทีมวิจัยเอไอ (AI-Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์) ของเฟซบุ๊ก ได้ตัดสินใจยุติทดลองโครงการ “การซื้อขายโดยใช้แชตบอต” หรือให้ปัญญาประดิษฐ์สื่อสาร ซื้อขายสินค้ากันเอง หลังจากที่พบว่าแชตบอตเริ่มโต้ตอบกันด้วยภาษาของตัวเอง อันนำไปสู่ความหวาดระแวงว่าปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ ที่มนุษย์คิดค้นขึ้นนั้น อาจกลายเป็นหอกดาบกลับมาทิ่มแทงหมู่มวล มนุษยชาติเข้าสักวัน หากมันพัฒนาความฉลาดขึ้นเรื่อยๆความพยายามสร้างสถานการณ์ให้เกิดความหวั่นวิตก ไม่เพียงแต่มาจากการนำเสนอข่าวเพียงอย่างเดียว แต่มันยังกลายเป็นการตอกย้ำเสียงสะท้อนจากเหล่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นสตีเฟน ฮอว์กิ้ง (Stephen Hawking) นักฟิสิกส์และนักจักรวาลวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งแห่งยุค ที่เคยบอกเอาไว้ว่าเอไออาจเป็นต้นเหตุที่นำไปสู่จุดจบของมวลมนุษยชาติเช่นเดียวกับ อีลอน มัสก์ Elon Musk ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ฮอตฮิตที่สุด ที่ออกมาแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า เอไออาจครองโลกได้ หากไม่ได้รับการกำกับดูแล ควบคุมที่เหมาะสม ซึ่งตอนนั้น มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ยังออกมาตอบโต้ว่า เป็นการกล่าวอ้างที่เกินจริงก่อนจะเลยเถิดมากไปกว่านั้น นาย Dhruv Batra หนึ่งในทีมวิจัยของเฟซบุ๊ก ก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งสำนักข่าว The Independent นำออกมาเผยแพร่ ระบุ การคิดภาษาขึ้นมาใหม่ หรือการสื่อสารกันผ่านภาษาของเหล่าปัญญาประดิษฐ์ อาจดูเป็นเรื่องประหลาดและไม่คาดคิดของผู้คนที่อยู่นอกวงการ แต่สำหรับคนในแวดวงเอไอนั้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และเกิดขึ้นมาตลอดหลายสิบปีที่มีการทดลอง คิดค้นเอไอ“ภาษาที่เอไอคิดขึ้นมาเอง อาจฟังดูน่ากลัว แต่มันเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเกิด บางครั้งนักวิจัยกระตุ้นให้เอไอสื่อสารด้วยภาษาใหม่ด้วยซ้ำ แต่บางครั้งมันก็เกิดขึ้นเอง มันคุยกันเอง สิ่งนี้เคยเกิดขึ้นในโครงการวิจัยเอไอของกูเกิล รวมทั้งที่ OpenAI”“แต่สำหรับกรณีของเฟซบุ๊ก ล่าสุด มันเกิดขึ้นโดยไม่ได้ถูกกำหนดไว้ แต่ทีมวิจัยก็ไม่ได้สั่งให้เอไอสื่อสารเฉพาะภาษาที่ทีมวิจัยเข้าใจ จึงเป็นไปได้ว่า มันจะสื่อสารในรูปแบบอื่นๆ”“ภาษาของเอไออาจไม่เป็นที่เข้าใจนัก แต่นี่คือสิ่งที่ทีมวิจัยต้องศึกษาต่อไป ว่าความหมายของมันคืออะไร มันก็คล้ายๆกับการจดชวเลขหรือการช็อตโน้ต ที่รู้เองเพียงคนเดียวหรือในกลุ่ม ยากที่คนอื่นจะเข้าใจหรือรู้เรื่อง”Dhruv Batra ยังชี้แจงถึงกรณีการปิดโครงการด้วยว่า เป็นเรื่องที่แสนจะปกติ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ไม่ได้ปิดเพราะความหวาดกลัว และส่วนใหญ่เป็นการปิดโครงการ เพื่อเปิดการทดลองใหม่ ทุกครั้งที่การศึกษาเสร็จสิ้น หรือหากบางครั้งไม่เป็นไปตามโจทย์ที่ตั้งไว้ ทีมวิจัยจะปิดหรือฆ่าเอไอทิ้ง เพื่อเริ่มใหม่เสมอ.