"ไอติม" ย้ำจุดยืนเดิม ประกาศขอลาออก ประชาธิปัตย์ หลังจับขั้วพลังประชารัฐ พร้อมยันที่อยากจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น...
จากกรณี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกรรมการบริหารพรรค ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุม มีมติ 61 เสียงเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ส่วนที่ออกเสียงไม่ร่วมรัฐบาล 16 เสียง งดออกเสียง 2 บัตรเสีย 1 โดยใช้เวลาหารือกันอย่างยาวนาน 5 ชั่วโมง ส่งผลให้ลูกพรรคทยอยลาออก ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก ว่า ณ วันนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้ว ว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ผมเชื่อว่ามีทั้งคนที่เสียใจและดีใจกับผลลัพธ์นี้ เพราะการตัดสินใจของพรรค ส่งผลกระทบต่อทิศทางของประเทศ
ในฐานะอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ผมขอแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่ผมได้พูดไว้กับประชาชนตลอดชีวิตทางการเมืองของผมที่ผ่านมา สำหรับใครก็ตามใน 3.9 ล้านเสียง ที่เลือกเราเพราะหวังว่าเราจะรักษาคำพูดของหัวหน้าพรรคในช่วงเลือกตั้ง
สำหรับใครก็ตามใน 3.9 ล้านเสียง ที่เลือกเราเพราะหวังว่าเราจะเป็นหนึ่งกำลังสำคัญในการหยุดการสืบทอดอำนาจ สำหรับใครก็ตามใน 3.9 ล้านเสียง ที่เลือกเราเพราะหวังว่าเราจะต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ สำหรับคุณลุงในชุมชนลาดพร้าว 101, คุณอาในหมู่บ้านสวนริมคลอง และอีกหลายๆ คนในเขตบางกะปิ-วังทองหลาง ที่บอกผมว่า จะตัดสินใจเลือกผมและพรรค ถ้าผมสัญญาว่าเราจะเอาจริงตามที่ประกาศไว้ว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ผมไม่มีคำอื่นที่จะบอกพวกท่านได้นอกจากคำว่า “ขอโทษ”
...
ในวันที่อุดมการณ์ของผมและอุดมการณ์ของพรรคแตกต่างกัน เพื่อรักษาหลักการว่าพรรคการเมืองควรเป็นพื้นที่ที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน เพื่อลดความเสียหายที่คำพูดในอนาคตของผมอาจจะทำให้สังคมมองว่าพรรคไม่ชัดเจน และเพื่อให้พรรคถูกขับเคลื่อนโดยบุคลากรเก่งๆ หลายคนที่พร้อมเป็นตัวแทนของชุดความคิดพรรคในวันนี้ ผมขอเคารพการตัดสินใจของพรรค ด้วยการยุติทุกบทบาททางการเมืองในนามพรรค และลาออกจากสมาชิกพรรค
ผมขอขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้โอกาสผมมาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่พรรคเป็นครูให้ผมในฐานะเด็กฝึกงานที่ไม่มีอะไรมากกว่าแค่ความสนใจในงานการเมือง จนมาถึงวันที่พรรคให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในฐานะผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค พรรคมีหลายอย่างที่ผมยังนับถือ ไม่ว่าจะเป็นการพร้อมรับฟังความเห็นที่หลากหลาย หรือความสามารถของหลายๆ คนในพรรค ในเมื่อพรรคตัดสินใจอย่างนี้แล้ว ผมได้แต่เพียงหวังว่า ส.ส.ของพรรคจะสามารถผลักดันนโยบายของพรรคให้เป็นจริงได้ตามที่ท่านคาดหวังไว้ ทุกมิตรภาพและความสันพันธ์ที่ดีที่ผมได้รับจากแทบทุกคนในพรรค ผมจะไม่มีวันลืม
อย่างไรก็ตาม อนาคตผมจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญในวันนี้ แต่ผมยังขอยืนยันว่าความมุ่งมั่นที่อยากจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้นและซื่อตรงต่อความต้องการของประชาชน เป็นความตั้งใจที่จะไม่มีวันจางหาย.
ข่าวเกี่ยวข้อง
(ขอบคุณเฟซบุ๊ก พริษฐ์ วัชรสินธุ)