กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะเล็ดจากการไอ จาม เจ็บแสบกับอาการช่องคลอดแห้ง อวัยวะเพศคล้ำ หย่อนคล้อย ช่องคลอดหลวม เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์.....ล้วนเป็นปัญหาของคุณผู้หญิงที่อายุมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเริ่มเข้าสู่วัย 40 กะรัต ที่ส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ความเสื่อมตามวัย และฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง
สมัยก่อนเมื่อมาถึงจุดนี้...ผู้หญิงหลายคนต้องยอมจำนนกับความเปลี่ยนแปลงและความเจ็บปวด แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้ามากขึ้น ปัญหาที่เคยเป็นเรื่องใหญ่ กลับกลายเป็นเรื่องเล็กที่สามารถแก้ไขได้
พญ.อรวี ฉินทกานันท์ นรีเวชทางเดินปัสสาวะและผ่าตัดซ่อมเสริม ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลกรุงเทพ บอกว่า เทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบัน สามารถนำมาใช้เพื่อแก้ไขสารพัดอาการของคุณผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นอาการปัสสาวะเล็ด ช่องคลอดแห้ง หย่อนคล้อย ช่องคลอดหลวม เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ
“จากความรู้ทางการแพทย์ที่ก้าวหน้ามากขึ้น ได้มีการนำเทคโนโลยีเลเซอร์ฟื้นฟูจุดซ่อนเร้นที่เรียกว่า Fractional Co2 Laser มาใช้แก้ปัญหาภายในจุดซ่อนเร้นให้กับคุณผู้หญิงได้”
...
คุณหมออรวี บอกว่า Fractional Co2 Laser เป็นเทคโนโลยีแสงเลเซอร์ 360 องศา และ 90 องศาที่มาพร้อมสแกนเนอร์ ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูช่องคลอดผู้หญิงได้โดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีการคือ ให้แสงเลเซอร์ผ่านสแกนเนอร์ไปยังผนังช่องคลอดเพื่อกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ ให้ผลิตและจัดเรียงเส้นคอลลาเจนตรงบริเวณเยื่อบุผิวได้เพิ่มมากขึ้น เป็นการเพิ่มความยืดหยุ่น ปรับสมดุลให้กับผนังช่องคลอด ทำให้ผนังช่องคลอดชุ่มชื้นขึ้น ช่วยแก้ปัญหาเรื่องปัสสาวะเล็ดเวลาที่ไอ หรือจาม นอกจากนี้ ยังมีสแกนเนอร์สำหรับผิวด้านนอกอวัยวะเพศหญิงที่จะเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวและผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไปด้วย
“ถ้าถามว่าประโยชน์ของเทคโนโลยีเลเซอร์ฟื้นฟูจุดซ่อนเร้น Fractional Co2 มีอะไรบ้าง อย่างแรกเลย คือ ทำให้ช่องคลอดชุ่มชื้นขึ้น ปรับสมดุลในช่องคลอด เป็นทางเลือกในการรักษาอาการปัสสาวะเล็ดจากการไอ หรือจาม แก้ปัญหาความ เจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ เพิ่มความรู้สึกกระชับขณะมีเพศสัมพันธ์ และทำให้ผิวด้านนอกอวัยวะเพศขาว นุ่ม อวบอิ่ม เรียบเนียนขึ้น” แพทย์นรีเวชทางเดินปัสสาวะและผ่าตัดซ่อมเสริมบอก
คุณหมออรวี ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ของคุณผู้หญิง ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการโดยละเอียดก่อน ซึ่งแพทย์จะทำการตรวจภายในเพื่อดูระดับอาการของโรค ข้อพึงระวังสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ควรเข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์ คือ มีประจำเดือน มีการอักเสบติดเชื้อในช่องคลอด หรือกำลังตั้งครรภ์ หรือถ้ามีประวัติเป็นโรคเริม หรือต้องมีการใช้ยาเกี่ยวกับโรคประจำตัวเพื่อลดการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาแพทย์และแจ้งแพทย์
“ในการทำเลเซอร์เพื่อรักษา แพทย์จะทำการสอดเครื่องมือ คือ หัวเลเซอร์เข้าไปยังช่องคลอด แล้วปล่อยแสงเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่นที่เหมาะสมเข้าไปตลอดแนวความลึกในช่องคลอด แสงเลเซอร์จะเข้าไปกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ ทำให้เยื่อบุผนังช่องคลอดมีความหนาและชุ่มชื้นขึ้น กระชับขึ้น ระหว่างการรักษาผู้ป่วยอาจ รู้สึกอุ่นๆภายในช่องคลอดเพียงเล็กน้อย ไม่เจ็บปวดแต่อย่างใด” คุณหมออรวีบอกและว่า การทำเลเซอร์ฟื้นฟูจุดซ่อนเร้นใช้เวลาทำเพียงไม่กี่นาที ถ้าจะให้เห็นผลควรทำการรักษา อย่างต่อเนื่อง 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์ แม้ว่าจริงๆแล้วผู้ป่วยสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ แต่ไม่จำเป็นต้องทำบ่อยและควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้ชำนาญการเท่านั้น
“การรักษาด้วยเทคโนโลยีเลเซอร์ฟื้นฟูจุดซ่อนเร้น Fractional Co2 จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ทำครั้งแรก ที่สามารถรู้สึกได้เลยคือช่องคลอดมีความชุ่มชื้นขึ้น แต่กระบวนการของการสร้างคอลลาเจนจะค่อยๆเกิดขึ้นต่อเนื่องประมาณ 2 เดือน”
แพทย์นรีเวชทางเดินปัสสาวะและผ่าตัดซ่อมเสริม ยืนยันว่า หลังการรักษา ผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ ควรงดเว้นการยกของหนัก หลีกเลี่ยงการเสียดสีบริเวณที่ได้รับการรักษา และควรงดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 7 วัน ที่สำคัญคือ ต้องดูแลจุดซ่อนเร้นให้สะอาด ไม่ควรสวมใส่กางเกงในที่รัดจนเกินไป
สำหรับคนที่กลัวการผ่าตัด สูตินรีแพทย์ด้านทางเดินปัสสาวะและการผ่าตัดผ่านกล้อง ศูนย์สุขภาพสตรี รพ.กรุงเทพ บอกว่า ข้อดีของการเลเซอร์ฟื้นฟูจุดซ่อนเร้นคือ เป็นทางเลือกในการรักษาโดยที่ไม่เจ็บ ลดโอกาสติดเชื้อ ใช้เวลาไม่นานในการทำแต่ละครั้ง ฟื้นตัวเร็ว ไร้รอยแผลเพราะไม่ต้องผ่าตัด
อาจกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีเลเซอร์ฟื้นฟูจุดซ่อนเร้น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยจัดการปัญหาที่สร้างความกังวลใจบริเวณช่องคลอดและอาการปัสสาวะเล็ดของคุณผู้หญิงได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้หญิงทุกคนต้องการให้ความสาวคงอยู่กับตัวเองให้ได้นานที่สุด ซึ่งเทคโนโลยีนี้นอกจากจะช่วยกระชับจุดซ่อนเร้นที่เป็นกังวลแล้ว ยังเป็นการคืนความสาวให้กับคุณผู้หญิง ช่วยเพิ่มความมั่นใจ สุขภาพภายในแข็งแรง มีความสุขมากขึ้นอีกด้วย.