ปลุกศรัทธาพระพุทธศาสนาสังเวชนียสถานสถานที่ตั้งแห่งความสังเวช ได้แก่ สถานที่ประสูติ สถานที่ตรัสรู้ สถานที่แสดงปฐมเทศนา และสถานที่ดับขันธปรินิพพาน อันเป็นสถานที่สำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับ “พุทธประวัติ” ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมมหาศาสดาเอกของโลกทั้ง 4 สังเวชนียสถานตั้งอยู่ ณ ประเทศอินเดียและเนปาล จึงเป็นยอดแห่งความปรารถนาของชาวพุทธที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา อยากจะเดินทางไปให้เห็นกับตาตัวเองสักครั้งในชีวิตนับเป็นโชคดีอย่างยิ่งที่ “ทีมข่าวศาสนา” ได้มีโอกาสร่วมเส้นทางสายบุญกับ “โครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล” ประเทศอินเดีย-เนปาล ประจำปี 2562 โดยการสนับสนุนของ กองทุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่ตั้งขึ้นเพื่อสนองพระราชประสงค์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการสนับสนุนการเดินทางไปแสวงบุญของชาวพุทธ โดยการดูแลของกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม การเดินทางในครั้งนี้ พระธรรมกิตติเมธี (เกษม สัญญโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชาธิวาส ประธานศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นางศรีนวล ลัภกิตโร รองอธิบดีกรมการศาสนา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยมี พระครูปลัดเฉลิมชาติ ชาติวโร เลขานุการหัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล และหัวหน้ากองงานพระธรรมวิทยากร เป็นพระธรรมวิทยากรหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมคนไทยต้องไปสังเวชนียสถาน จึงขออาราธนา พระธรรมกิตติเมธี มาให้ความกระจ่าง “ในมหาปรินิพพานสูตร พระไตรปิฎกเล่ม 10 พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสตอบคำถามพระอานนท์ว่า สังเวชนียสถาน 4 แห่งคือ สถานที่ตถาคตประสูติ ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ทรงประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยม และเสด็จดับขันธปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ เป็นสถานที่ที่กุลบุตรผู้มีศรัทธา ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้มีศรัทธาควรไปดู ชนเหล่าใดจาริกไปยังเจดีย์จักมีจิตเลื่อมใส ชนเหล่านั้นหลังตายจากไปจะไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ดังนั้น นอกจากพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว ยังมีสถานที่ที่เป็นรูปธรรมคือ สังเวชนียสถานทั้ง 4 ซึ่งเป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้ด้วยตา ฟังเสียงด้วยหูจากพระธรรมวิทยากร ตลอดจนการสวดมนต์เจริญจิตภาวนา ณ สถานที่นั้นๆ เรียกว่าตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ได้สัมผัสของจริง จะเกิดความรู้สึกซาบซึ้ง ศรัทธา หนักแน่นยิ่งขึ้น ทำให้ส่งผลให้มีการปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เราในฐานะพุทธศาสนิกชนถ้าไม่ได้เห็นของจริงอาจสงสัยว่าพระพุทธเจ้ามีจริงหรือเปล่า สถานที่ที่ว่ามีจริงหรือเปล่า อาตมาเองเรียนจบเปรียญธรรม 9 ประโยค จบปริญญาโท ก่อนจะมาเห็นของจริงก็ยังมีความเคลือบแคลงสงสัย แต่เมื่อได้มาเห็น ความสงสัยก็หมดไป และเมื่อได้เห็นของจริง เวลากลับมาพูดให้ญาติโยมฟังก็เห็นภาพเลย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพระภิกษุสงฆ์และผู้ที่ทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา” พระธรรมกิตติเมธี พระครูปลัดเฉลิมชาติขณะที่ พระครูปลัดเฉลิมชาติ พระธรรมวิทยากรบอกว่า “อานิสงค์ที่เกิดขึ้นพระพุทธเจ้าตรัสรับรองด้วยพระองค์เองว่า บุคคลใดก็ตามที่เดินทางมาสู่สังเวชนียสถาน ได้เห็น ได้เกิดจิตเลื่อมใสและใจศรัทธา เบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตกย่อมเข้าสู่สุคติในโลกสวรรค์ได้ เรียกว่าเป็นการการันตีขั้นพื้นฐานว่าการมาสู่สังเวชนียสถานเมื่อเกิดความเลื่อมใสศรัทธาตายไปแล้วจะได้ไปสู่สุคติโลกสวรรค์ เสมือนหนึ่งเป็นการปิดอบายภูมิให้แก่ตัวเรา แต่ถ้ามีการพัฒนายกระดับจิตไปสู่ปัญญา เข้าถึงหลักธรรมของพระสัมมา-สัมพุทธเจ้า อย่างสถานที่ปรินิพาน ถ้าเรามองเห็นหลักธรรมว่า ขนาดพระพุทธเจ้าผู้เป็นเลิศที่สุดยังไม่พ้นความตาย แม้เราเองก็ต้องตายเช่นกัน หากเห็นสัจธรรมตรงนี้แล้วนอกจากจะเข้าสู่สุคติภูมิแล้ว ยังเป็นการยกตัวเองไปสู่อริยภูมิได้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก”หัวหน้ากองงานพระธรรมวิทยากรแดนพุทธภูมิยังบอกด้วยว่า มีคนที่กลัวความยากลำบากกับการมา 4 สังเวชนียสถาน โดยเฉพาะการเข้าห้องน้ำ ปตท. (ไปตามทุ่ง) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม กับพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล เปิดศูนย์อำนวยความสะดวกผู้ไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบล ปัจจุบันมีถึง 11 ศูนย์และกำลังจะสร้างเพิ่มเติมอีก 1 ศูนย์ ระหว่างเมืองกุสินาราไปพาราณสี ซึ่งจะครอบคลุมทุกเส้นทาง เพื่อดูแลผู้แสวงบุญให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังมีพระธรรมวิทยากรที่ผ่านการอบรมเข้มมาคอยให้คำแนะนำและบอกเล่าเรื่องราวของพระพุทธเจ้า พร้อมข้ออรรถ ข้อธรรมที่สอดคล้องกับสถานที่ ทำให้ผู้มาแสวงบุญเกิดความรู้ ความเลื่อมใสศรัทธามากยิ่งขึ้น จนนำไปต่อยอดและประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ “ทีมข่าวศาสนา” มองว่า การได้เดินทางสู่เส้นทางบุญใน 4 สังเวชนียสถาน และสถานที่ที่เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำคงคาอันศักดิ์สิทธิ์ แม่น้ำเนรัญชราที่ทรงอธิษฐานถอยถาดทองคำ บ้านนางสุชาดา เขาคิชฌกูฏ วัดเวฬุวนาราม วัดแห่งแรกของโลกที่พระเจ้าพิมพิสารสร้างถวาย และเชตวันมหาวิหาร สถานที่ที่พระพุทธองค์ประทับอยู่นานถึง 19 พรรษา ทำให้รู้ซึ้งว่าการเสด็จไปเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ยังสถานที่ต่างๆแสนยากลำบาก เพราะขนาดคณะของเรานั่งรถตระเวนไปสถานที่แต่ละแห่งใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 8-10 ชั่วโมง แต่พระพุทธเจ้าเสด็จด้วยสองพระบาทโดยไม่ทรงท้อพระทัย ใช้เวลาในการประกาศพระศาสนายาวนานถึง 45 พรรษาเป็นแรงศรัทธาให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่ได้มารู้ มาเห็น หมดความเคลือบแคลงสงสัย และทวีความเลื่อมใสศรัทธา อยากปฏิบัติศาสนกิจและเผยแผ่พระพุทธศาสนาเพื่อความดำรงมั่นคงสืบไป.ทีมข่าวศาสนา