“นิด้าโพล” ตั้งคำถามกระแทกใจ พรรคเพื่อไทยอย่างจัง

“นิด้าโพล” ถามความเห็นประชาชน กรณีนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร จะยึดกระทรวงมหาดไทยจากพรรคภูมิใจไทย

ปรากฏว่าประชาชนส่วนใหญ่ 66.18 เปอร์เซ็นต์ ไม่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะกล้ายึดเก้าอี้ รมว.มหาดไทย ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยไม่กล้ายึดเก้าอี้ รมว.มหาดไทย ซึ่งเป็นโควตาของพรรคภูมิใจไทย

เท่ากับพรรคเพื่อไทยยอมเป็นเบี้ยล่างพรรคภูมิใจไทยเพื่อประคองรัฐบาลให้อยู่ครบเทอม

ผลสำรวจ “นิด้าโพล” จะเป็นจริงหรือไม่? ต้องรอโผปรับ ครม.ชุดใหญ่ ซึ่งใกล้จะคลอดเต็มที

ถ้านายอนุทินยังปึ่กปั่กอยู่ที่กระทรวงมหาดไทยเหมือนเดิม แสดงว่าพรรคเพื่อไทยหมดน้ำยา ทางการเมือง

ไม่มีอำนาจต่อรองพรรคร่วมรัฐบาลอีกต่อไป!!

“แม่ลูกจันทร์” มองว่าโผปรับ ครม.ในพรรคเพื่อไทยเองก็ยังไม่ลงตัว

เพราะต้องเอาโควตารัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยไปแลกเปลี่ยนโควตารัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลกันชุลมุนวุ่นวาย

ข่าวว่าจะมีรัฐมนตรีสายเพื่อไทย โดนปรับออกหลายคน

เต็งหนึ่งที่มีข่าวจะหลุดจากรัฐมนตรีคือ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์

เพราะถูก สส.พรรคเพื่อไทยโจมตีว่าเอาแต่เดินทางไปต่างประเทศจนไม่มีเวลาแก้ปัญหาสินค้าขึ้นราคา

แต่ “แม่ลูกจันทร์” มองต่างมุม ว่า นายพิชัยเป็นรัฐมนตรีที่ลุยงานหนักที่สุดใน ครม.ชุดปัจจุบัน!!

ข้อสำคัญ หน้าที่ของ รมว.พาณิชย์ ต้องบุกไปขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยให้สุดลิ่มทิ่มประตู

การที่นายพิชัยเดินทางไปขยายตลาดสินค้าไทยทั่วโลก ย่อมเกิดผลดี กว่านั่งเกาสะดืออยู่ในกระทรวงแน่นอน

“แม่ลูกจันทร์” ชี้ว่าผลงานสำคัญของ “นายพิชัย” คือการลุยเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) 28 ประเทศกลุ่มอียู

...

การรื้อฟื้นเจรจาเอฟทีเอ กลุ่มอียู ซึ่งถูกแช่แข็งมา 10 ปีในยุครัฐบาล คสช. เป็นเรื่องสำคัญต่ออนาคตการส่งออกสินค้าไทย

เพราะตลาดอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของสินค้าไทย

กำลังอยู่ในสภาพลูกผีลูกคน

ปกติการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี กลุ่มอียูต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 4 ปี ถึง 5 ปี

แต่นายพิชัยเร่งเจรจาให้เสร็จก่อนสิ้นปีนี้ ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยส่งไปตลาดอียูไม่เสียเปรียบสินค้าเวียดนามอย่างที่ผ่านมา

“แม่ลูกจันทร์” มองว่า การที่ นายพิชัย ออกไปลุยตลาดแอฟริกาเพื่อดันข้าวไทยสู้กับข้าวอินเดียและข้าวเวียดนาม ทำให้ข้าวไทยส่งออกเพิ่มอีกเกือบ 5 แสนตัน

การตระเวนหาตลาดใหม่ๆเพื่อขยายโอกาสสินค้าไทยทำให้การส่งออกรอบ 7 เดือนล่าสุดโตขึ้นกว่า 12 เปอร์เซ็นต์

แต่การเมืองก็คือการเมือง...

รัฐมนตรีที่ขยันลุยงานหนักที่สุดในรัฐบาลดันเป็นเต็งหนึ่งที่จะถูกปรับออกจากรัฐมนตรี??

อืมม์...มันก็แปลกดีเหมือนกันนะโยม.

"แม่ลูกจันทร์"

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม