สรุปว่า กระแสการปรับ ครม. มีอยู่ 2 กระแส คือ มีการเจรจาแลกเปลี่ยนโควตารัฐมนตรีกับ พรรคภูมิใจไทย โดยที่ เพื่อไทย ต้องการกำกับดูแล กระทรวงมหาดไทย เอง โดยแลกกับสาธารณสุขบ้าง ดิจิทัลฯบ้าง หรือจะให้ อนุทิน ชาญวีรกูล จากมหาดไทย ไปนั่งศึกษาธิการบ้าง โดยที่ อนุทิน ยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า ยังไม่มีการเจรจาต่อรองใดๆเป็นแค่การเขียนโผ ครม.ของคนที่อยากจะเป็น รมต. และ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ก็ยังไม่เคยคุยเรื่องนี้ โดยหลักการแล้ว ตามข้อตกลงในการร่วมรัฐบาลเป็นอย่างไรก็ต้องยึดหลักการนั้น
คำถามที่ตามมา เมื่อแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลปฏิเสธว่า ไม่มีการคุยเรื่องปรับ ครม.กับนายกฯแพทองธาร แล้วใครเป็นคนเจรจาหรือยื่นเงื่อนไขการปรับ ครม.เที่ยวนี้ เดิมทีคนก็จะมองว่าการปรับ ครม.แต่ละครั้ง มีบ้านจันทร์ส่องหล้าเข้ามาเอี่ยวด้วย แต่ครั้งนี้ก็เงียบสนิท ดังนั้นใครคือผู้จัดการตัวจริงกันแน่ อยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ
ในยามหน้าสิ่วหน้าขวาน ข้าศึกมาประชิดชายแดน ถ้าคนไทยยังแตกสามัคคีกัน ประเทศมีแต่ความขัดแย้ง จะไปสู้รบตบมือกับใครได้ กรณี ข้อพิพาทแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา มีข้อสงสัยตามมาเป็นกระบุง สงสัยถึงภาวะผู้นำ สงสัยถึงดีลผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา สงสัยถึงความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ กลาโหมกับกองทัพ สงสัยในนโยบายด้านต่างประเทศและความรู้ความสามารถของผู้ปฏิบัติ
ผู้นำกัมพูชา พ่อ–ลูก ออกมามีบทบาทในการนำข้อพิพาทแนวชายแดนบริเวณสามเหลี่ยมมรกต ขึ้นฟ้องศาลโลก ประตูเดียว ไม่รับข้อเสนอ ไม่เจรจา ไม่มีข้อตกลงใดๆ ไม่ถอนทหาร คงมีหลายเหตุผล เช่น สร้างความเชื่อมั่นในรัฐบาลกัมพูชา และขวัญกำลังใจกับกองทัพและประชาชนกัมพูชาเนื่องจากการปะทะกับทหารไทย กัมพูชาเป็นฝ่ายสูญเสีย และถือโอกาสนี้ทวงดินแดนข้อพิพาทให้เป็นของกัมพูชาอย่างถาวร เช่นเดียวกับกรณีเขาพระวิหาร
...
เพราะฉะนั้นการที่ไทยยังอ้ำอึ้งไม่เด็ดขาด อ้างแต่สันติภาพและการเจรจาอย่างเดียวโดยไม่มีการตอบโต้บ้าง ทำให้เกิดความคลางแคลงใจต่อท่าทีของผู้นำประเทศ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลชุดนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะข้อต่อสู้ในชั้นศาลโลก ที่กัมพูชาได้เปรียบเต็มประตู
และจะลามเป็นเรื่องของ การบริหารประเทศ เป็นเหตุไล่รัฐบาลจากความสามารถในการแข่งขันทุกด้านของไทยลดลงไปมากทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและคุณภาพของคนเป็นปัจจัยหลัก
การที่ ผบ.เหล่าทัพ ลุกขึ้นมาประกาศมาตรการที่พร้อมจะตอบโต้กับภัยความมั่นคงของประเทศทุกรูปแบบ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศเอาไว้ ในขณะที่ รัฐบาล ต้องการนำปัญหาไปเจรจาในวง JBC อย่างเดียว
คงไม่ต้องอธิบายอะไรให้เมื่อยตุ้ม.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
คลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม