ทำาท่าจะเป็นศึกต่างสีที่มีเดิมพันสูงเวลานี้ “สีนํ้าเงิน” กำลังถูกรุกไล่เกือบติดกำแพงแล้ว อยู่ที่ว่าจะพลิกเกมคืนได้หรือไม่
นี่แวดวงการเมืองบอกว่าต้องรอดูตอนจบ
เพราะตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงสัประยุทธ์ ใครมีข้อมูลหลักฐานที่เหนือกว่าก็จะใช้เป็นจุดแข็งเพื่อรุกไล่ฝ่ายตรงข้าม
ว่ากันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะ สว.ที่จะถูกไล่บี้เท่านั้น แต่ลึกลงแล้วด้วยข้อมูลหลักฐานที่อยู่ในมือคู่ต่อสู้นั้น
พาดพิงไปถึงรัฐมนตรีและเจ้าสำนักที่วางแผนเรื่องนี้ด้วย
เรื่องใหญ่มันอยู่ตรงนี้
ก็ไม่รู้ว่าทำงานกันอย่างไรทำให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถ
ไล่เก็บหลักฐาน ทำให้ต้อง “ติดบ่วง” ที่ดิ้นหลุดยาก
จึงต้องใช้เวทมนต์คาถาปัดเป่าถึงจะหลุดรอดไปได้
ทางเดียวคือการเจรจาต่อรอง!
มิฉะนั้นอนาคตหมดแน่ทางด้านการเมือง และอาจถึงขั้นต้อง “ติดคุก” ด้วย ที่สำคัญคือจะใช้กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจก็คงยากแล้ว
เพราะกำลังเป็นข่าวฉาวโฉ่ที่อยู่ในภาวะลำบากต้องอาศัยช่องทางพิเศษทำนองเดียวกัน เพราะเป็นวิธีเดียวเท่านั้น
ที่ชะตาฟ้าลิขิตกำหนดไว้
วันนี้ กกต.ต้องทำหน้าที่ตามกฎหมายโดยมีดีเอสไอ
เป็นฐานข้อมูลที่ได้มาจากการสอบสวนจนได้ข้อเท็จจริงแบบกระจ่างตา
กกต.ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงต้องดำเนินการตามกฎหมายด้วยการแจ้งข้อหา 55 สว.เป็นเบื้องต้น “มงคล สุระสัจจะ” ประธาน สว. “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” รองประธาน สว.ด้วย
นอกนั้นก็เป็นระดับตัวตึงเกือบทั้งสิ้น
นี่เป็นแค่ลอตแรกยังมีลอตที่ 2 ตามมาอีก!
ประเด็นคือสหบาทาที่รุมกินโต๊ะนั้นไม่ใช่แค่ดีเอสไอ กกต. เท่านั้น แม้แต่ สว.พวกเดียวกันแต่คนละสายก็ร่วมละเลงด้วย
...
เพราะจากพยานหลักฐานที่ดีเอสไอนำมาเปิดเผยนั้นค่อนข้างน่าเชื่อถือ จนทำให้สังคมก็เรียกร้องให้จัดการเอาผิดเพื่อลงโทษ
ด้วยสภาพความเป็นไปที่เกิดขึ้นทำให้บรรดา สว.ที่ออกมาตอบโต้ดีเอสไอ ต้องเบาเสียงเพราะจำนนด้วยพยานหลักฐาน
อยู่ที่ว่าจะชี้แจงด้วยเหตุผลจนทำให้รับฟังได้ว่าไม่ได้กระทำผิด
ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล
ที่สำคัญก็คือ กกต.ก็คงไม่กล้าบิดคดีได้ เพราะน่าจะจำนนด้วยพยานหลักฐานของดีเอสไอ เพราะมิฉะนั้น
กกต.ก็จะทำผิดด้วย
ทว่ากลเกมการเมืองที่ต้องสู้กันระหว่าง “แดง”-“นํ้าเงิน” นั้นไม่ใช่มีแค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ต่างฝ่ายต่างก็สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องต่อรองได้
อีกทั้งหลัง กกต.สอบสวนแล้วก็ต้องยื่นคำร้องให้ศาลตัดสินขั้นสุดท้าย
พูดง่ายๆว่ายังมีช่องพอที่จะเล็ดลอดได้อยู่
สถานการณ์การเมือง ณ วันนี้จึงมี 2 เรื่องใหญ่คือ สว.ฮั้ว เลือกตั้ง และชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่คู่ขนานกันโดยมี “แดง”-“นํ้าเงิน”
ต่างก็มีส่วนได้เสียกันอยู่
แต่ละฝ่ายต่างก็มีพลังภายในพอกัน
จึงยังไม่สามารถชี้ไปข้างใดข้างหนึ่งได้!
"สายล่อฟ้า"
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม