การทูตแบบคู่ขนาน โชว์โลก

ทั้ง “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร และ “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ปรับโหมดตรงกันในกระดานการเมืองระหว่างประเทศ

ฟากหนึ่ง นายกฯหญิงต้อนรับ อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ทำเนียบฯ พูดคุยถึงความร่วมมือการค้าขาย การลงทุน การเชื่อมต่อระหว่างกัน แผนสร้างสันติสุขในพื้นที่ชายแดน

ตีธงแก้ปมความไม่สงบ เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า พ่วงการรับมือสงครามการค้าสหรัฐอเมริการ่วมกัน

เจรจาความเมืองอย่าง “เป็นทางการ”

อีกด้านหนึ่ง “ทักษิณ” คุยความเมือง “ไม่เป็นทางการ” เรียกเสียงฮือฮา กับการเปิดโรงแรมเลี้ยงดินเนอร์แขกเมืองวีไอพี ทั้งนายอันวาร์ และ พล.อ.อาวุโส

มิน อ่อง หล่าย ผู้นำทหารประเทศเมียนมา

หัวข้อพูดคุยรอบนี้ โฟกัสไปที่การแก้ปัญหาความขัดแย้ง สงครามกลางเมืองในเมียนมา ระหว่างรัฐบาล-กลุ่มต่อต้าน และกลุ่มชาติพันธุ์

แน่นอน “ทักษิณ” ในหมวก “ที่ปรึกษาประธานอาเซียน” ต้องนำเสนอ

“อันวาร์” แนะนำผู้นำทหารเมียนมา ในทำนองขันอาสาดีลทุกกลุ่ม เปิดพื้นที่เจรจาคู่ขัดแย้งต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศสันติภาพ ก่อนจัดเลือกตั้ง คืนสู่ประชาธิปไตย

ขอเท่บทโปรโมเตอร์สันติภาพ ท้าวมาลีวราช “หย่าศึก” ให้เพื่อนบ้าน

แต่แน่นอน คิวใหญ่ครั้งนี้จะปฏิเสธที่ถูกมองไม่ได้เช่นกันว่าเล่นเกินเบอร์ โดนค่อนขอดว่าเป็น “นายกฯตัวจริง” บดบังแสงลูกสาวไปโดยปริยาย

แต่แม้จะเจอแซะ แต่ทั้ง “นายกฯอิ๊งค์” และกุนซือ ก็ไม่สน

มั่นใจสูตรบริหารอำนาจคู่ “ชินวัตรสไตล์”

กระทั่งแนวทางบริหารการเมือง ปั่นดุลอำนาจในรัฐบาล พ่อ-ลูก ชินวัตร ก็เล่นบทนี้ ในปมบริหารอำนาจและยื้อชิงดุลกับพรรคภูมิใจไทย ที่กำลังหวานอม

...

ขมกลืนในการอยู่ร่วมกันในรัฐบาล

เขย่าหัวแล้วลูบหลัง สัมพันธ์ตบ-จูบ กระทั่งล่าสุดโดนขวางเรือธงกาสิโน

ถึงแม้ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ มท.1 จะเล่นบทเดิม โอ้โลมปฏิโลม ขอโทษขอโพย แต่ “เถ้าแก่ใหญ่” เริ่มไม่สนุกด้วยกับมหากาพย์ “ตีสองหน้า” รู้ทันเกมของ “ครูใหญ่” ที่บงการอยู่หลังฉาก

เมื่อ “ภูมิใจขวาง” ก็อาจต้องตัดสินใจแนะลูกสาว “เต็มใจเขี่ย”

ข่าวลือมาแรง รอจังหวะเวลาที่ผู้นำจะปรับ ครม. บ่งหนาม ยอกอก อัปเปหิค่ายสีน้ำเงินจากวงรัฐบาล

งานนี้ส่อแววเล่นทีละขยัก กดดัน ยึดโควตากระทรวงมหาดไทย ควบคู่ไปกับเปิดเกม “ตัดแขนตัดขา” ทลายแหล่งขุมทรัพย์ค่ายสีน้ำเงิน

เริ่มแล้ว ทั้งคิวยึดเก้าอี้ผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจใหญ่ๆ ทุบท่อน้ำเลี้ยงเก่าภูมิใจไทยในกระทรวงคมนาคม ทั้ง รฟท.-รฟม.-การท่าอากาศยานฯ ไปจนกระทั่งบี้งบฯจัดงานบิ๊กอีเวนต์ ฯลฯ

ประเภทอึดก็อยู่กันไป ถ้าหืออีก ทนไม่ได้ก็ต้อง “โละ”

เพื่อไทยพร้อมเป็นรัฐบาล “เสียงปริ่มน้ำ”

ลุ้นจังหวะ ชะตากรรมค่ายสีส้ม สส.โดนโทษคดีแก้ ก.ม.112 ลดสัดส่วนเสียงกึ่งหนึ่งของสภาฯ

ก็น่าจะลากต่อ กุมอำนาจคุมกลไกรัฐไปได้พักใหญ่

ฉะนั้นโอกาสสูง เร็วๆนี้จะมีรายการ “ปรับ ครม.” แต่ยังต้องวัดใจ เล่นเกมหนักดีกรีไหนกับภูมิใจไทย

และคิวปรับ ครม.รอบนี้ อีกทางหนึ่งก็ถือเป็นไฟต์บังคับ ยกเครื่องเพื่อเพิ่มความสดใหม่ ปั๊มผลงานรัฐบาล

นอกจากถึงรายการ “เก้าอี้ดนตรี” ในพรรคเพื่อไทย สับเปลี่ยนกันนั่ง ยังรวมถึงช่วงสำคัญ

ปรับโฉม “ทีมเศรษฐกิจรัฐบาล”

แว่วข่าวว่า มีทั้งผู้เสนอตัว และอยู่ระหว่างทาบทาม มือเศรษฐกิจในเครือข่าย “นายแบงก์ใหญ่” หลายรายมาเสริมทัพ นอกจากเพื่อแก้โจทย์ปากท้องชาวบ้าน ปั่นผลงาน นโยบาย และโครงการที่ติดขัด

ยังมีเป้าปรับเปลี่ยนทีมให้ทันต่อสถานการณ์ “สงครามการค้า” ที่ปั่นป่วนไปทั่วโลก

ถึงเวลาเติมมืออาชีพ รับมือวิกฤติที่จ่อถาโถมเข้ามา.

ทีมข่าวการเมือง รายงาน

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม