17 เม.ย.2568 ที่ประเทศไทย...จะเป็นสถานที่พบปะนัดหมายระหว่างผู้นำของประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งมีหลายเรื่องหลายราวที่จะปรึกษาหารือและหาทางออกร่วมกัน
“อันวาร์ อิบราฮิม” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประธานอาเซียน
“พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย” ผู้นำเมียนมา
“ทักษิณ ชินวัตร” พ่อนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน
จะได้พบปะพูดคุยกันแยกออกเป็น 2 ประเด็น โดยเฉพาะเรื่องที่กำลังฮอตๆในสถานการณ์โลกที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขึ้นภาษีประเทศต่างๆทั่วโลกเปิดฉากสงครามการค้า
ซึ่งประเด็นนี้จะพูดถึงแนวทางที่กลุ่มอาเซียนจะร่วมกันอย่างไรเพื่อต่อสู้กับสหรัฐฯ เนื่องจากแต่ละประเทศต่างก็โดนกำแพงภาษีนี้เช่นกัน
ซึ่งเรื่องนี้ไทยได้เตรียมการรับมือด้วยการตั้งทีมงานเพื่อเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯและจะเดินทางไปตกลงกันในอีกไม่นานนี้
“ทักษิณ” บอกว่าได้มีการพูดคุยกับทีมงานของ “ทรัมป์” ที่อยู่รอบๆ ตัวไว้บ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกับ “ทรัมป์” โดยตรง
ขอดูจังหวะก่อนและมีความจำเป็นแค่ไหนถึงจะคุยด้วย
ความจริงเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลไทยจะต้องวางแผนงานให้รอบคอบรัดกุม เพราะมันมีผลได้เสียกับประเทศไทยโดยตรง
“ทักษิณ” ก็ควรปล่อยให้รัฐบาลว่ากันตามระบบไม่ควรเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องโดยตรง เพราะไม่แน่ใจว่า “ทรัมป์” จะคิดอย่างไร
ถ้าถูกใจก็ดีไป!
ถ้าไม่ถูกใจอาจจะทำให้เกิดปัญหาได้
วิธีที่ดีที่สุดก็คือการให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะปล่อยให้รัฐบาลว่ากันไปตามวิถีทางอยู่ที่ข้อมูลและการพูดคุยกันน่าจะดีกว่า
เพราะบางเรื่องอาจจะได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ควร “สทร.” ไปทุกเรื่อง
...
อีกประเด็นการพูดคุยกับผู้นำเมียนมา ผู้นำมาเลเซียใน ฐานะประธานใหญ่นั้น “ทักษิณ” ในฐานะที่ปรึกษาสามารถร่วมเจรจาได้เต็มตัวเนื่องจากเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน
พูดง่ายๆเกี่ยวข้องโดยตรงและเป็นทางการ!
ถึงที่สุดการพูดคุยกันครั้งนี้น่าจะเป็นเรื่องของ “เมียนมา” โดยตรง เพราะชาติสมาชิกต่างเป็นกังวลกับความขัดแย้งในเมียนมาระหว่างรัฐบาลทหารกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ
ที่อาเซียนต้องการให้ยุติและเกิดความสงบ
เพราะหากปล่อยให้เป็นไปเช่นนี้ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ประเทศสมาชิกก็เกิดปัญหาขัดแย้งกัน
ฝ่ายหนึ่งหนุนรัฐบาลทหาร
ฝ่ายหนึ่งไม่พอใจรัฐบาลเมียนมา
ทุกชาติจึงต้องการให้แก้ไขเพื่อความเอกภาพของอาเซียนซึ่งเวลานี้มีประเด็นแผ่นดินไหวในเมียนมาที่ชาวเมียนมากำลังเดือดร้อนหนักแล้วรัฐบาลเมียนมาก็ยังถล่มกลุ่มชาติพันธุ์
ประเด็นก็คือประธานอาเซียนต้องการสร้างผลงาน ถ้าทำให้สงบศึกได้โดยมีเงื่อนไขถ้ารัฐบาลทหารยอมเจรจาสงบศึก
“อาเซียน” ก็พร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่!
สำหรับประเทศไทยนั้นหากทุกอย่างสงบได้โดยไทยมีส่วนสนับสนุนก็ต้องพูดกันถึงเรื่องยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ ค้ามนุษย์ที่สร้างปัญหาให้ไทยมาก
ประเด็นที่น่าพูดถึงก็คือบทบาทของ “ทักษิณ” นั้นต้องรู้ว่าอะไรควรแค่ไหนอย่างไรเพราะถ้ายุ่งทุกเรื่องมันก็อาจจะเกิดปัญหาและทำให้ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี มีปัญหาเช่นกัน
“ฮุน เซน” นั้นมีลูกชายเป็นนายกรัฐมนตรีเช่นกัน แต่เขารู้ว่าอะไรควรไม่ควร!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม