“แพทองธาร” พร้อมพ่อและ ครอบครัว ร่วมงาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองสันกำแพง” สระเกล้าดำหัวคุณย่าน้อยพร้อมผู้สูงอายุชื่นมื่น ปราชญ์กวีล้านนาให้พรสองพ่อลูกพ้นเคราะห์ มีแต่โชคดี เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน นำบ้านเมืองไปสู่ความเจริญก้าวหน้า “ทักษิณ” เผย 17 เม.ย. “อันวาร์” เยือนไทย ยกวาระอาเซียนผนึกกำลังรับมือภาษี “ทรัมป์” มาหารือ เล็งคุยกันแบบพันธมิตร ไม่กดดันต่อรอง เชื่อมั่นทีมไทยแลนด์น่าจะรับไหว ไม่ทำให้ประเทศไทยลำบาก “ขุนคลัง” หารือทีมที่ปรึกษานายกฯ วางยุทธศาสตร์-ล็อกเป้าเจรจา ปลายสัปดาห์ “2 พิชัย” บินถกตัวแทนสหรัฐฯ “สรวงศ์” ย้ำไทยขาดที่ท่องเที่ยวดึงดูดนักลงทุน เร่งเคลียร์ข้อข้องใจ “ประชาชน-พรรคร่วมฯ-ฝ่ายค้าน” เดินหน้าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บิดาและครอบครัวร่วมงาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองสันกำแพง” รดน้ำดำหัวขอพรคุณย่าทองสุทธิ โครชาติเยร์ (ชินวัตร) และผู้สูงอายุในพื้นที่ โดยนายทักษิณ ระบุวันที่ 17 เม.ย.ที่ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย ประธานอาเซียน จะเดินทางเยือนประเทศไทยในวันที่ 17 เม.ย. จะหยิบยกวาระอาเซียนรับมือภาษีทรัมป์มาหารือกัน
“อิ๊งค์-ทักษิณ” ร่วมสระเกล้าดำหัว
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 เม.ย. ที่ชุมชนโหล่งฮิมคาว ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ พร้อมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ร่วมงาน “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองสันกำแพง” มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผวจ. เชียงใหม่ เข้าร่วม มีการแสดงรำฟ้อนต้อนรับ จากนั้น นายกฯถวายพวงมาลัยและสรงน้ำองค์หลวงพ่อสมปรารถนา พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองชาวสันกำแพง แล้วรดน้ำดำหัวแบบล้านนา หรือสระเกล้าดำหัวคุณย่าทองสุทธิ โครชาติเยร์ (ชินวัตร) คุณย่าน้อย (น้องสาวของย่าแท้ๆ) ของนายกฯ ตามด้วยนายทักษิณ นายปิฎก ก่อนนายกฯปักตุงล้านนาประจำปีเกิด โดยนายประดิษฐ์ เป็งเรือน ปราชญ์ชมรมกวีล้านนาให้พรเป็นคำเมืองว่า ขอให้นายกฯ และนายทักษิณ พ้นเคราะห์ โยกย้ายไปไหนมาไหน ขอให้มีแต่โชคดี เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน นำประเทศชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญก้าวหน้าในเร็ววัน
...
ย้อนวัยเด็กแฮปปี้กลับสันกำแพง
นายกฯกล่าวเปิดงานทักทายออกตัวว่า “อู้บ่จ้าง” ก่อนกล่าวต่อว่า ดีใจที่ได้มาสันกำแพงที่คุณพ่อโตมา เคยมาตั้งแต่เด็กๆได้ยินเรื่องเล่าเสมอ พ่ออยู่ตึกแถวขายกาแฟ ทำหวานเย็นขายห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ราคา 2 บาท ตอนอยู่เมืองนอกจะทำทานบ่อยๆ จึงผูกพันกับสันกำแพงตั้งแต่เด็ก ปีใหม่ไทยขอให้จิตใจแจ่มใสเบิกบาน ชาร์จแบตให้เต็มที่ พร้อมกลับมาทำงานให้เต็มพลังอีกครั้ง ประสบความสำเร็จร่ำรวยเงินทอง จากนั้นนายกฯ และนายทักษิณเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านร้านค้าต่างๆในงาน “10 โหม้งโหล่งผญา” ที่ผู้ประกอบการ ภาคเอกชน 10 ตำบล มารวมตัวกัน และร่วมอุดหนุนทุกร้านค้า นายกฯ ซื้องานหัตถกรรมโมบาย ก่อนกลับนายกฯ กล่าวว่า “รู้สึกดีได้กลับมาและคุณพ่อแฮปปี้มาก” เมื่อถามว่าช่วงเทศกาลเศรษฐกิจจะดีทุกพื้นที่ครึกครื้น นายกฯกล่าวว่าเศรษฐกิจดี การนำซอฟต์พาวเวอร์เข้ามาช่วยได้เยอะ ทั้งนี้ ก่อนนายกฯจะขึ้นรถกลับ กทม. มีชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า “ไม่เอาภูมิใจไทย”
แวะจุดอาชีวะ-ขนส่งอาสาดูแล ปชช.
ต่อมาเวลา 12.23 น. น.ส.แพทองธาร ทวีต ข้อความผ่านเอ็กซ์ เป็นภาพเดินเยี่ยมจุดอาชีวะ- ขนส่ง อาสาช่วยประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ที่ อ.แม่ริม ร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงข้อความว่า “แวะจุดอาชีวะ-ขนส่ง อาสาช่วยประชาชน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2568 เป็นการร่วมมือกัน ระหว่างสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ และกองพลทหารราบที่ 7 เพื่อให้พี่น้องแวะมาพักรถ ตรวจซ่อม เช็กความปลอดภัยรถยนต์ หรือแวะพักเพื่อความปลอดภัย เมาไม่ขับและง่วงไม่ขับ เป็นนโยบายที่รัฐบาลได้ประกาศให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวง อว.ร่วมมือหาอาสาสมัคร มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทุกคนพร้อมทำหน้าที่เพื่อให้วันหยุดยาวทุกคนได้พักผ่อน เต็มที่ รัฐบาลรับใช้พี่น้องประชาชนอย่างแข็งขัน”
“ทักษิณ” เล็งถกเมียนมาสางปัญหา
ที่ชุมชนโหล่งฮิมคาว จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีการพบสารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกก ไหลผ่านพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ว่า จ.เชียงใหม่ ต้องแก้ไขเยอะเลย ทั้ง PM 2.5 ความสะอาด การสู้รบในประเทศเพื่อนบ้าน ทางเมียนมากับเราต้องคุยกันมากขึ้น เพื่อไม่ให้เรา ได้รับผลกระทบจากยาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ PM 2.5 และสารหนู หลายอำเภอใน จ.เชียงใหม่ ติดชายแดน ได้รับผลกระทบให้ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่เป็นชาวเชียงใหม่ช่วยดูเรื่องนี้ เมื่ออยู่ในความรับรู้ ของรัฐบาลแล้ว รัฐบาลจะไปช่วยแก้ไขปัญหา
ผนึกอาเซียนรับมือภาษี “ทรัมป์”
นายทักษิณกล่าวถึงกรณีดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซีย ประธานอาเซียน จะเดินทาง เยือนประเทศไทยวันที่ 17 เม.ย. เวลา 14.00 น. ว่า มาเพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) กับรัฐบาล และนายกฯ มีการชวนที่ปรึกษาประธานอาเซียนจากประเทศต่างๆหลายคนมาพูดคุยปัญหาภายในอาเซียน เรื่องฐานกำลังผลิตภายในอาเซียน การผนึก กำลังอาเซียนเพื่อให้มีบทบาทสำคัญในการพูดคุยกับ สหรัฐฯมากขึ้น รวมถึงพูดคุยเรื่องสันติภาพในเมียนมา เมื่อถามว่าการรวมพลังในกลุ่มชาติอาเซียน เพื่อไป คุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เรื่อง มาตรการกำแพงภาษี มีแนวโน้มที่ดีหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เราจะไม่ไปในลักษณะที่เป็นแบบต่อรอง เพื่อแลกโน่นแลกนี่ แต่จะคุยกันลักษณะว่ากลุ่มประเทศอาเซียนส่วนใหญ่เป็นประเทศต้องการการพัฒนา ต้องการเม็ดเงินจากประเทศที่พัฒนาแล้วอีก จำนวนมากที่จะทำให้เราแข็งแรง
คุยแบบพันธมิตรมากกว่าต่อรอง
นายทักษิณกล่าวว่า อยากให้เขาเข้าใจบทบาทอาเซียน โดยเฉพาะอาเซียนกับภูมิภาคนี้ที่มีความ สำคัญกับสหรัฐฯพอสมควร เราจะคุยกันแบบเป็นพันธมิตรมากกว่าการต่อรองกดดัน เมื่อถามว่าการไป พูดคุยครั้งนี้แสดงว่าเดาใจนายโดนัลด์ ทรัมป์ และคนรอบตัวได้แล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ส่วนใหญ่รู้จักกันดี คนรอบตัวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เคยเจอกันมาก่อน เมื่อถามว่าพูดให้ประชาชนคลายกังวลได้หรือไม่ว่าการเจรจาของทีมไทยแลนด์ครั้งนี้ ผลออกมาน่าจะเป็นบวก นายทักษิณกล่าวว่า น่าจะไหว คงไม่ทำให้ประเทศไทยลำบาก
ปลายสัปดาห์ “2 พิชัย” บินไปเจรจา
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า วันที่ 15 เม.ย. คณะกรรมการติดตามมาตรการ ภาษีสหรัฐฯ จะสรุปผลทั้งหมด เพื่อวิเคราะห์ผลได้ผลเสียและความเป็นไปได้ เตรียมข้อมูลเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง พร้อมคณะผู้เจรจา จะเดินทางล่วงหน้า ไปที่นครซีแอตเทิล สหรัฐฯ วันที่ 17 เม.ย. ไปพบกับ นักธุรกิจกลุ่มต่างๆ จากนั้นวันที่ 20 เม.ย. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ จะไปร่วมคณะเพื่อเป็น “ทีมไทยแลนด์” และทั้งคณะจะเดินทางถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เตรียมเข้าพบกับผู้แทนรัฐบาลสหรัฐฯ คาดว่า จะเป็นวันที่ 21 เม.ย. รัฐบาลไทยพร้อมพูดคุย ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมมาตั้งแต่เดือน ม.ค. ผ่านการประชุมหารือทั้งรัฐบาลและทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน อาทิ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย ผู้แทนบริษัทธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ภาคการเกษตร ภายใต้ยุทธศาสตร์การเจรจาที่เน้นสร้าง ความสมดุลทางการค้าและเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เชื่อว่าจะปูทางสู่การเจรจาเชิงลึกระหว่างไทย-สหรัฐฯในระดับต่างๆต่อไป
วาง 5 แนวทางสร้างการค้าเป็นธรรม
นายจิรายุกล่าวว่า คณะเจรจามั่นใจว่าไทยจะมี ทางออกดีที่สุดในการค้าระหว่างประเทศครั้งนี้แน่นอน ภายใต้ 5 หลักการ คือ 1.การเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมที่ไทยและสหรัฐฯ เกื้อหนุนกัน 2.การเปิดตลาดและลดภาษี ลดอุปสรรคทางการค้าตาม National Trade Estimate 2025 ของสหรัฐฯ 3.การเพิ่มการนำเข้าจากสหรัฐฯ ในสินค้า ที่ไทยจำเป็นต้องใช้ ไทยเตรียมพิจารณานำเข้าพลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติ และวัตถุดิบที่ภาคอุตสาหกรรม ต้องใช้แต่ผลิตไม่ได้เพียงพอ 4.การตรวจสอบเพิ่ม ความเข้มงวดสินค้าส่งออกไปสหรัฐฯ ป้องกันการสวม สิทธิ์จากประเทศที่สาม และ 5.การส่งเสริมการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ นอกจากนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ แล้ว ไทยยังมีแผนผลักดันให้ภาคเอกชนไทยลงทุนในอุตสาหกรรมแปรรูปในสหรัฐฯ โดยใช้วัตถุดิบ ท้องถิ่น ผลิตสินค้าส่งออกจากฐานการผลิตในอเมริกาไปยังตลาดโลก นายกฯกำชับให้คณะเจรจาดำเนินการ ให้เต็มที่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
ถกทีม ทปษ.นายกฯลิสต์คู่เจรจาสำคัญ
ช่วงบ่าย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง เชิญคณะทำงานการเจรจาเรื่องภาษีของสหรัฐฯ หารือร่วมกับทีมที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจ นำโดยนายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกฯและนายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายเศรษฐกิจ ที่บ้านพิษณุโลก ทั้งนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า เป็นการประเมินสถานการณ์ล่าสุด และวางกรอบยุทธศาสตร์การเจรจาอย่างรอบด้าน ทั้งมิติด้านการค้า การลงทุนและภาคการเงิน โดยเฉพาะกลุ่มสินค้ายุทธศาสตร์ของไทย เช่น เกษตร พลังงาน และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ทีมที่ปรึกษายังร่วมกันพิจารณารายชื่อคู่เจรจาสำคัญจากภาครัฐ เอกชน และสมาคมธุรกิจต่างๆของสหรัฐฯที่จะเข้าพบครั้งนี้ เพื่อเสริมความพร้อมให้การเจรจามีน้ำหนัก มีเป้าหมายชัดเจน และสามารถตอบโจทย์ความคาดหวังของฝ่ายสหรัฐฯได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันที่ 15 เม.ย. คณะทำงานจะประชุมหารือภาคอุตสาหกรรมอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง
“นพดล” โต้ รบ.รอบคอบไม่ได้ล่าช้า
นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเจรจาการค้าของทีมไทยแลนด์ว่า รัฐบาลเตรียมการอย่างรอบคอบ ไม่ได้ล่าช้าเกินไป ที่มีคนกล่าวหาว่ารัฐบาลล่าช้า ยืนยันว่าไม่ล่าช้า การเจรจาทวิภาคีคงยาก ปกติจะไม่สำเร็จในครั้งเดียว เพราะสหรัฐฯต้องการบรรลุวัตถุประสงค์การสร้างรายได้ เพื่อปิดหีบงบประมาณเขาส่วนหนึ่ง และต้องการดึงฐานการผลิตกลับประเทศ ต้องกลับมาแข็งแกร่งสู้กับจีน ต้องดูว่าข้อเสนอของเรา ต้องไม่ทำให้ยุทธศาสตร์ใหญ่ของเขาเสียหาย คิดว่าไม่ง่าย แต่เมื่อคำนึงถึงความเป็นพันธมิตรเก่าแก่ที่สุดในเอเชีย รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ดีมาต่อเนื่อง ทีมเจรจาของไทยคงมีความคืบหน้า
“สุวัจน์” หวังกล่อมผลกระทบน้อยสุด
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) กล่าวถึงวันครอบครัว 14 เม.ย.ว่า นึกถึงรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกฯ ที่มีมติ ครม.เมื่อวันที่ 31 ต.ค.32 ให้วันที่ 14 เม.ย. เป็นวันครอบครัว เป็นวันหยุด ให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว มีโอกาสอยู่ด้วยกัน สร้างความรักความอบอุ่น ทำบุญร่วมกัน ขอพลังของความรักความสามัคคีของครอบครัว ช่วยฝ่าวิกฤติต่างๆ ที่เกิดขึ้นขณะนี้ โดยเฉพาะสถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ ผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสงครามการค้าจากการขึ้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ประเทศไทยได้รับผลกระทบโดยตรง รัฐบาลแต่งตั้งคณะผู้แทนของไทยจะไปเจรจาเรื่องกำแพงภาษีกับสหรัฐฯ ขณะนี้มีการเพิ่มขึ้น 10% แล้ว และอาจเพิ่มถึง 36% ภายในอีก 90 วันข้างหน้า จึงต้องเจรจาให้มีผลกระทบด้านเศรษฐกิจต่อไทยให้น้อยที่สุด ที่ผ่านมาไทยกับสหรัฐฯมีความสัมพันธ์ทางการทูตมากกว่า 190 ปี และมีสัมพันธ์ที่ดีมาทุกด้าน ถือว่าเป็นพื้นฐานที่ดี ที่จะทำให้การเจรจามีผลสำเร็จ
“ชวน” ต่อสายตรง “นฤมล” ดูยางตกต่ำ
นายนิพนธ์ บุญญามณี สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อดีต รมช.มหาดไทย เปิดเผยว่า ราคายางพาราตกต่ำต่อเนื่องจากแรงกดดันมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ แม้ขยายเวลาการบังคับใช้ออกไปอีก 90 วัน แต่ราคายางยังทรุดตัวลง ชาวสวนยางขาดทุนสะสม ขาดเสถียรภาพรายได้รุนแรง นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.และอดีตนายกฯ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวสวนยางจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคใต้ จึงต่อสายตรงโทร.ถึงนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ และนายเพิก เลิศวังพง ประธานคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ขอให้เร่งคลี่คลายปัญหาราคายางตกต่ำอย่างเป็นระบบโดยเร็ว กยท.เตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องหารือเร่งด่วน กำหนดแนวทางรับมือและจัดทำมาตรการรองรับทั้งระยะสั้นและระยะยาว เบื้องต้นที่ประธานบอร์ดกยท.เสนอใช้กลไกตาม พ.ร.บ.ยางพารา พ.ศ.2542 รักษาเสถียรภาพราคายางในตลาด นายชวนจะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด พร้อมให้การสนับสนุนทุกมาตรการที่มุ่งช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางอย่างแท้จริง
“สรวงศ์” ย้ำไทยขาดที่เที่ยวดึงดูดทุน
อีกเรื่อง นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาฯพรรค พท. ให้สัมภาษณ์กรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ หัวหน้าพรรค พท. กำชับ สส.ของพรรคให้ช่วยกันทำความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า เราต้องทำความเข้าใจกับประชาชนขอความร่วมมือสื่อมวลชนต้องเลิกดึงว่าเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์เป็นกฎหมายกาสิโน การให้มีกาสิโนเป็นแค่การดึงดูดนักลงทุน หากลงทุนอย่างอื่นมีกฎหมายอื่นรองรับอยู่แล้ว แต่เป็นกรอบกฎหมายพิเศษ ดึงดูดนักลงทุน สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการและประเทศไทย ภาคการท่องเที่ยวสิ่งเดียวที่เราขาดคือสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น ต้องยอมรับเรากินสมบัติเก่า ถึงต้องแยกเป็นกฎหมายพิเศษให้ง่ายสำหรับดูแล สิ่งที่รัฐบาลต้องทำควบคู่คือปราบปรามพนันผิดกฎหมาย
เร่งชี้แจง ปชช. พรรคร่วมฯ–ฝ่ายค้าน
นายสรวงศ์กล่าวอีกว่า เท่าที่ลงพื้นที่มาไม่มีประชาชนคัดค้าน ทุกคนเข้าใจหมด อย่าง จ.สระแก้วเคยผ่านตรงนี้มาตอนกัมพูชาตั้งบ่อนริมชายแดน ดึงดูดคนไทยได้ส่วนหนึ่ง แต่สุดท้ายคนไทยไปทำงานฝั่งโน้นได้งานทำด้วยซ้ำ การจ้างงานเหล่านี้จะอยู่ในรายละเอียดกฎหมาย จะมีอีเวนต์หรือคอนเสิร์ตระดับโลก วันนี้สถานที่ใหญ่สุดของเราคือสนามราชมังคลากีฬาสถาน แต่เป็นพื้นที่เปิดเสี่ยงทั้งฝน ความร้อน หากมีสถานที่จัดงานใหญ่ๆ จะช่วยได้มาก เพราะเราเสียโอกาสตรงนี้มาเยอะ ส่วนที่จะบั่นทอนสังคมเราต้องมาช่วยกันสร้างกฎป้องกัน ส่วนในมุมการเมือง ต้องทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายค้าน ถ้าฟังพรรคประชาชนเขาไม่ได้ติดใจ แค่บอกว่าช่วงเวลานี้ยังไม่เหมาะสม จากนี้ต้องช่วยกันทั้งหัวหน้าพรรค พท.และเลขาธิการพรรคต้องเดินหน้าพูดคุย
“อนุสรณ์”เชื่อเดินหน้าคอมเพล็กซ์ได้
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท. กล่าวว่า นายกฯยืนยันชัดเจนว่าแค่เลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ไม่ได้ยกเลิก แต่จนถึงขณะนี้ยังมีความพยายามบิดเบือนให้สังคมเข้าใจผิดเป็นการเปิดบ่อนเสรี ปิดสมัยประชุมนี้ สส.ไปอยู่กับชาวบ้านจะทำความเข้าใจว่าเป็นสถานบันเทิงครบวงจร มีโรงแรมขนาดใหญ่ ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ สถานที่จัดคอนเสิร์ตรองรับศิลปินระดับโลก สวนสนุก ใช้พื้นที่รวมกัน 90% ส่วนกาสิโนมีแค่ 10% จะดึงทุนต่างชาติมาลงทุน เสนอสิทธิประโยชน์ให้ประเทศไทย ไม่มีการตั้งธงล็อกสเปก ข้อกล่าวหามอมเมาประชาชนผิดเพี้ยนมาก คณะกรรมการกฤษฎีกาบอกว่าคนไทยที่จะเล่นได้ ต้องมีเงิน 50 ล้านบาท ที่บอกว่าต่างชาติจะมาฟอกเงินก็ไม่สมเหตุสมผล โมเดลนี้เราคิดได้ก่อนสิงคโปร์แต่บิดเบือนจนเริ่มต้นไม่ได้ หากกฎหมายนี้ผ่านวาระแรกในชั้น กมธ. สส.ทุกฝ่ายมาร่วมวางมาตรการป้องกันได้ ในโซเชียลมีเดียเริ่มมีคนเห็นด้วยกับกฎหมายนี้มากขึ้น ตอนนี้ยังมีเวลาและช่องทางสื่อสาร ถ้าประชาชนเห็นประโยชน์พื้นที่ 90% สุดท้ายเรื่องนี้จะเดินหน้าได้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่