การเลือกตั้ง นายก อบจ. 47 จังหวัด และสมาชิกสภา อบจ. 76 จังหวัดทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2568 ผลการนับคะแนนที่เสร็จสิ้นไปแล้วอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า พรรคเพื่อไทย ส่งผู้สมัครนายก อบจ. 16 จังหวัด ได้รับเลือกตั้งเพียง 10 จังหวัด หลายจังหวัดเพื่อไทยถูกล้มแชมป์ แม้ “นายใหญ่” คุณทักษิณ ชินวัตร จะไปช่วยหาเสียงเองก็ตาม ที่มาเงียบๆ คือ ค่ายสีน้ำเงินพรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู” คุณอนุทิน ชาญวีรกูล ที่มี “ครูใหญ่บุรีรัมย์” คุณเนวิน ชิดชอบ หนุนหลัง คว้าเก้าอี้นายก อบจ.ไปครองถึง 9 จังหวัด และยังมี “ผู้สมัครอิสระ” ที่เป็น แนวร่วมค่ายสีน้ำเงิน ได้รับเลือกเป็น นายก อบจ. อีก 5 จังหวัด รวมแล้วฝ่ายสีน้ำเงินชนะฝ่ายสีแดงไป 14 ต่อ 10
การเลือกตั้ง นายก อบจ. 47 จังหวัด ครั้งนี้ เกจิการเมืองวิเคราะห์กันว่า เป็นความพ่ายแพ้อีกครั้งของพรรคเพื่อไทย หลังจากที่แพ้ค่ายสีส้มพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2566 ครั้งนี้ แม้จะมี “นายใหญ่” ช่วยหาเสียงแบบทุ่มสุดตัว หวังผลไปถึงการเลือกทั่วไปครั้งหน้า จะกวาด สส. ให้ได้ถึง 200 เสียงขึ้นไป เพื่อ ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ไม่ต้องง้อรัฐบาลผสม
แต่ดูเหมือน มนต์ขลัง ของ “นายใหญ่” คุณทักษิณ ชินวัตร จะไม่ขลังเหมือนเก่า โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือที่พรรคเพื่อไทยเคยครองอำนาจมายาวนานแม้ คุณทักษิณ จะขึ้นไปช่วยผู้สมัครเพื่อไทยหาเสียงด้วยตัวเองหลายครั้งแต่ผลการเลือกตั้ง นายก อบจ.ลำพูน ปรากฏว่า บ้านใหญ่ คุณอนุสรณ์ วงศ์วรรณ ผู้สมัครนายก อบจ.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กลับพ่ายแพ้ให้กับ คุณวีระเดช ภู่พิสิฐ ผู้สมัครจาก ค่ายสีส้ม พรรคประชาชน และค่ายสีส้มยังพ่วงเอา สมาชิกสภา อบจ. ลำพูน เข้าไปอีก 17 ที่นั่ง จาก 24 เขต ส่วนพรรคเพื่อไทยได้ไปเพียง 15 เขต เหมือนแพ้ทั้งจังหวัด
...
เชียงใหม่ บ้านเกิด คุณทักษิณ ชินวัตร เจ้าตัวก็ขึ้นไปช่วยหาเสียงหลายครั้ง ผลการเลือกตั้งไม่พลิกโผ สว.ก๊อง คุณพิชัย เลิศพงศ์อดิศร พรรคเพื่อไทย ได้รับเลือกเป็น นายก อบจ.เชียงใหม่ ด้วยคะแนน 386,599 คะแนน ชนะ คุณพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้สมัครจาก ค่ายสีส้มพรรคประชาชน ที่ได้ 364,385 คะแนน แต่ก็ต้องเสียที่นั่งสมาชิกสภา อบจ.เชียงใหม่ให้พรรคสีส้มถึง 15 เขต จาก 42 เขต โดยเฉพาะ อ.เมืองเชียงใหม่ 5 เขต พรรคสีส้มชนะไปถึง 4 เขต
เชียงราย เป็นอีกจังหวัดใหญ่ในภาคเหนือที่ คุณทักษิณ ชินวัตร ขึ้นไปช่วยผู้สมัครหาเสียงหลายครั้ง ที่ต้องไปช่วยหาเสียงหลายครั้ง วิเคราะห์กันว่าคงไม่ค่อยมั่นใจผลการเลือกตั้งก็ออกมาตามนั้น คุณอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ผู้สมัครอิสระ (แนวร่วมค่ายสีน้ำเงิน) ก็สามารถคว้าเก้าอี้ นายก อบจ.เชียงราย ไปครองได้อีกสมัยด้วย 249,845 คะแนน ชนะ คุณสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช อดีตนายก อบจ.บ้านใหญ่ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยที่ได้ 230,262 คะแนน เป็นอีกความพ่ายแพ้ของนายใหญ่ในภาคเหนือ
คุณทักษิณ ไปช่วยลูกพรรคหาเสียง 8 จังหวัด ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า ชนะแค่ 4 จังหวัด แพ้ไป 4 จังหวัด ครึ่งต่อครึ่ง ภาคเหนือส่งผู้สมัคร 6 จังหวัด ชนะ 4 จังหวัด แพ้ 2 จังหวัด ภาคอีสาน ส่ง 9 จังหวัด ชนะ 5 จังหวัด แพ้ 4 จังหวัด ภาคตะวันออก ส่ง 1 จังหวัด ชนะ 1
อีสานก็น่าสนใจโดยเฉพาะ บ้านใหญ่บุรีรัมย์ ที่มี คุณเนวิน ชิดชอบ เป็นครูใหญ่ ส่ง คุณภูษิต เล็กอุดากร หลานชายลงสมัคร นายก อบจ.บุรีรัมย์ ได้รับเลือกด้วยคะแนนท่วมท้น สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ 42 เขต ผู้สมัคร “กลุ่มคนบุรีรัมย์” ของ คุณภูษิต ก็ชนะยกทีม 42 เขต ครองบุรีรัมย์ทั้งจังหวัด นครราชสีมา บ้านใหญ่ คุณยลดา หวังศุภกิจโกศล รักษาหน้าพรรคเพื่อไทยไว้ได้ คว้าชัย นายก อบจ.โคราช อีกสมัยด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น ได้สมาชิกสภา อบจ.โคราชไปอีก 40 ที่นั่ง จาก 48 ที่นั่ง พรรคชาติพัฒนา ของ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้ไป 6 ที่นั่ง พรรคประชาชน ได้ไป 2 ที่นั่ง
เมื่อวิเคราะห์จาก “ผลการเลือกตั้งท้องถิ่น” ครั้งนี้แล้ว โอกาสที่ พรรคเพื่อไทย จะกวาดเก้าอี้ สส. เกิน 200 เสียง เป็น รัฐบาลพรรคเดียว ในอีกสองปีข้างหน้าหืดขึ้นคอแน่นอน.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม