ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ล้างสต๊อกลอตสุดท้าย 47 จังหวัด มีทั้งพลิกล็อกและไม่พลิกล็อกทั้ง 2 ประตู นายก อบจ.แชมป์เก่าสามารถป้องกันแชมป์ได้เกิน 80 เปอร์เซ็นต์
โดยเฉพาะ “กลุ่มบ้านใหญ่ 27 จังหวัด” ที่ลงสมัครเลือกตั้งแบบไม่สังกัดพรรคเพราะมี สส.หลายพรรคร่วมด้วยช่วยกันดัน
ปรากฏว่าบ้านใหญ่ซึ่งผูกขาดเก้าอี้นายก อบจ.มายาวนาน สามารถชนะเลือกตั้งได้ถึง 22 จังหวัด
เป็นใบเสร็จยืนยันว่าเครือข่ายบ้านใหญ่ยังแข็งโป๊กเหมือนเดิม!
“แม่ลูกจันทร์” โฟกัสไปที่พรรคเพื่อไทย ส่งตัวแทนพรรคลงชิงนายก อบจ. 16 จังหวัด
ตั้งเป้าจะยึดเก้าอี้ อบจ.ได้ 13 จังหวัด
แต่สุดท้ายเข้าวินมาได้ 10 จังหวัด ต่ำกว่าเป้าไป 3 จังหวัด
เริ่มจาก “จังหวัดลำพูน” นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ แชมป์เก่าพรรคเพื่อไทย โดน นายวีระเดช ภู่พิสิฐ ตัวแทนพลังสีส้มพรรคประชาชน แซงเข้าป้ายไปนิ่มๆ 6,000 คะแนน จังหวัดเชียงราย นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช พรรคเพื่อไทย หวังโค่นแชมป์เก่า นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ พรรคภูมิใจไทย
แต่สุดท้ายโดนแชมป์เก่าสปรินต์เข้าเส้นชัย ชนะไปเกือบ 2 หมื่นคะแนน
จังหวัดศรีสะเกษ “ทักษิณ” นำทัพไปเปิดยุทธการ “ไล่หนูตีงูเห่า” ส่งนาย วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ อดีต สส.เพื่อไทย หวังเจาะยางแชมป์เก่า นายวิชิต ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย
แต่สุดท้ายแพ้แชมป์เก่าขาดกระจุยไปกว่าหนึ่งแสนคะแนน
“แม่ลูกจันทร์” ย้ายโฟกัสมาที่พรรคภูมิใจไทย ของ นายอนุทิน ชาญวีรกูลเปิดยุทธการมุดใต้ดิน ลับลวงพรางไม่ให้คู่ต่อสู้รู้ตัว
พรรคภูมิใจไทยตั้งเป้าจะยึดเก้าอี้นายก อบจ. 7 จังหวัด ปรากฏว่าคว้าเก้าอี้นายก อบจ.ได้ถึง 9 จังหวัด
ผลประกอบการได้กำไรเพิ่มอีก 2 จังหวัด
...
สรุปว่าพรรคเพื่อไทยโค่นอดีตนายก อบจ.นครพนม แชมป์เก่าพรรคภูมิใจไทยได้ 1 จังหวัด และเจาะยางอดีตนายก อบจ. หนองคาย แชมป์เก่าสายลุงบ้านป่าได้อีก 1 จังหวัด
ส่วนพรรคภูมิใจไทยสามารถป้องกันแชมป์ไม่ให้ถูกพรรคเพื่อไทยเจาะยางได้ 3 จังหวัด
“แม่ลูกจันทร์” เปลี่ยนไปโฟกัสพรรคประชาชน ซึ่งส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ. 17 จังหวัด หวังจะชนะเลือกตั้งได้ 5 จังหวัด
สุดท้ายตีไข่แตกคว้าเก้าอี้นายก อบจ.ลำพูน ได้จังหวัดเดียว!!
แม้จะปักหมุดได้แค่จังหวัดเดียว แต่พรรคพลังสีส้มจะเติบโตแข็งแกร่งยิ่งขึ้นทุกวัน
แต่โอกาสที่พรรคประชาชนจะครองเสียงข้างมากเป็นรัฐบาลพรรคเดียวคงต้องรอไปอีกหลายปี!!
“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่าผลเลือกตั้งนายก อบจ. 47 จังหวัด ชี้ว่าคู่แข่งที่น่ากลัวของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่พรรคประชาชน
แต่เป็นพรรคภูมิใจไทยของครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ ที่ได้รับการถ่ายทอดคัมภีร์เซี่ยวลี้ปวยตอ (มีดบินไม่พลาดเป้า) จากนายใหญ่โดยตรง
แถมช่วงที่ “นายใหญ่” ต้องหลบลี้หนีภัยไป 17 ปี พรรคภูมิใจไทยได้ดึงอดีตขุนพลพรรคเพื่อไทยที่กระจัดกระจายให้มารวมอยู่ในพรรคภูมิใจไทย
ดังนั้น การที่พรรคเพื่อไทยต้องสู้รบกับพรรคภูมิใจไทย
จึงเสมือนพรรคเพื่อไทยต่อสู้กับตัวเอง
และส่งผลให้ยุทธการ “ไล่หนูตีงูเห่า” ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
ไม่โดนงูเห่ากัดตายก็บุญหลายแล้วละโยม.
"แม่ลูกจันทร์"
คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม