ศาลไฟเขียว “ทักษิณ” บินไปประชุมที่มาเลเซีย 2-3 ก.พ. สั่งวางหลักประกัน 5 ล้านบาท และให้รายงานตัวภายใน 3 วันหลังกลับไทย “วิญญัติ” ชี้ไปทำประโยชน์ต่อประเทศชาติ ไม่มีผลผูกพันรัฐบาลไทย “ภูมิธรรม” ชี้ลมปากนายใหญ่ไม่สั่นคลอนพรรคร่วมฯ “เสี่ยหนู” เข้าใจอดีตนายกฯอึดอัดขัดใจ คงไม่ชินการเมืองเปลี่ยนไปมาก “วราวุธ” ยันไม่บั่นทอนพยายามทำงานเร็วที่สุด “อ้วน” โบ้ยโยนกลองตัดไฟหนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยันเคยมีมติ ครม.ทำมาแล้ว 2 ครั้งยุค “เศรษฐา” ด้าน“มาริษ” รอ สมช.ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนชงเข้า สมช.ชุดใหญ่เคาะใน 1 เดือน เลขาฯ สมช.ชิ่งไร้อำนาจชี้ขาดรอถก กฟภ. “อนุทิน” ยกคำตอบ ป.ป.ส.แจงบริษัทรับซื้อไฟโปร่งใส ถ้าสมช.ชี้มาตรงไหนผิดกฎหมายชงเรื่องมา พร้อมตั้งแท่นเสนอนายกฯสั่งการทันที
จากกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียน ล่าสุดนายทักษิณได้ยื่นคำร้องต่อศาล ขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไปประชุมที่มาเลเซียระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ.68 โดยศาลไต่สวนแล้วมีคำสั่งอนุญาต ให้วางหลักประกัน 5 ล้านบาท และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย
ศาลให้ “ทักษิณ” ไปประชุมมาเลย์
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ม.ค. ศาลอาญานัดไต่สวนคำร้องขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีความผิดตาม กฎหมายอาญามาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร โดยจำเลยขออนุญาตเดินทางไปประชุมที่มาเลเซีย โดยนายทักษิณได้เดินทางมาไต่สวนการยื่นคำร้องด้วยตัวเองที่ศาลอาญา ศาลไม่อนุญาตให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ารับฟัง และมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในบริเวณหน้าห้องพิจารณา ต่อมาเวลา 10.50 น. รถยนต์เบนซ์ สีบรอนซ์-ดำ ทะเบียน ธษ 267 กรุงเทพมหานครของนายทักษิณได้ขับออกไปจากพื้นที่ศาลอาญา และใช้ทางออกฝั่งอาคารศาลแพ่ง
...
มีเหตุเป็นประโยชน์ต่อประเทศ
ต่อมาเวลา 14.50 น. ศาลอาญามีคำสั่งว่า พิเคราะห์ข้อเท็จจริงในทางไต่สวนแล้ว จำเลยอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมี รมว.ต่างประเทศมาเบิกความสนับสนุน พร้อมพยานเอกสารยืนยันให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ 2-3 ก.พ.68 เห็นว่าช่วงเวลาที่จำเลยขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไม่กระทบต่อวันนัดพิจารณาคดี เหตุผลและความจำเป็นที่จำเลยอ้างเป็นประโยชน์ต่อประเทศและเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐ กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ตามที่ขอ โดยวางหลักประกัน 5 ล้านบาท และให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ
ทนายยันไม่มีผลผูกพันรัฐบาล
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ เปิดเผยว่า ขอบคุณศาลอาญาหลังจากยื่นคำร้องขอออกนอกราชอาณาจักร ได้นัดไต่สวนพยาน 2 ปาก คือนายทักษิณและนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ โดยได้รับคำเชิญจากประธานอาเซียนคนปัจจุบันให้ไปร่วมประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ศาลเห็นว่าการเดินทางออกนอกประเทศของนายทักษิณไม่กระทบต่อการพิจารณาคดีของศาลและนายทักษิณแสดงเหตุผลและเหตุจำเป็นในการร่วมประชุมที่ต่างประเทศ ไม่ว่าหนังสือเชิญของประธานอาเซียน ระเบียบต่างๆที่ได้มีการพูดคุยกัน และการเดินทางไปครั้งนี้เป็นการไปทำเพื่อประเทศชาติด้วย แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเป็นตัวแทนของรัฐบาล และไม่มีผลผูกพันกับรัฐบาลแน่นอน
“ทวี” บอกไม่มีอะไรเกี่ยวกับ ยธ.
ที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมกล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางออกนอกประเทศ ไปยังประเทศมาเลเซีย ว่า เป็นดุลพินิจของศาล ไม่เกี่ยวกับกระทรวงยุติธรรม และไม่ทราบในรายละเอียด ขณะนี้นายทักษิณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับกระทรวงยุติธรรมแล้ว
“อ้วน” เชื่อพรรคร่วมฯไม่สั่นคลอน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวบนเวทีปราศรัยหาเสียงนายก อบจ.เชียงใหม่ ว่า มีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ทำให้ทำงานล่าช้าว่า ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ยังไม่ได้ฟังการปราศรัยทั้งหมด ขอไปดูในรายละเอียดก่อนว่าเป็นอย่างไร จริงๆ ร่วมมือกัน แต่ความล่าช้าในแต่ละส่วนเกิดขึ้น เมื่อถามว่าจะทำให้ความสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาลสั่นคลอนหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่สั่นคลอน ทำงานร่วมกันไป อะไรที่เป็นสิ่งที่ร่วมกันได้ ทำไปตามนั้น
“เสี่ยหนู” เข้าใจ “ทักษิณ” อึดอัดขัดใจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึง กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุรัฐบาลทำงานยาก ล่าช้าเพราะมีพรรคร่วมหลายพรรคว่า เป็นธรรมดารัฐบาลผสม นายทักษิณถึงปราศรัยว่าถ้าจะขับเคลื่อนได้รวดเร็ว ต้องเลือกพรรคเพื่อไทย (พท.) เยอะๆ ถ้าประชาชนเลือกพรรค พท.เยอะ การเมืองเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง สมัยที่นายทักษิณเป็นนายกฯ เป็นรัฐบาลพรรคเดียวทำอะไรก็เร็ว คงอยากให้รัฐบาลทำงานเหมือนสมัยที่ท่านกำด้ามไว้หมด แต่วันนี้มันไม่ใช่ ต้องแข่งขันกันทำงาน หากทำงานให้ดีอาจเกิดเหตุการณ์รัฐบาลพรรคเดียวเกิดขึ้นอีกก็ได้ เราไม่มีปัญหาว่าไปตามสถานการณ์ เมื่อถามว่าประเมินสถานการณ์นายทักษิณมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ใครก็มีโอกาสเป็น แต่สำคัญอยู่ได้นานหรือไม่ ดังนั้น อะไรที่อยู่ในจุดที่สมดุล เกิดความสามัคคีปรองดอง ไม่เกิดความแตกแยก เอาช้อยส์นั้นดีกว่า
ไม่ชินการเมืองไทยเปลี่ยนไปเยอะ
“รัฐบาลปัจจุบันความสัมพันธ์ ความสามัคคี การยอมรับในตัวนายกฯมีอยู่แล้ว ให้ความร่วมมือกันเต็มที่อยู่แล้ว ไม่มีอะไรช้า แต่ตอนนี้การตรวจสอบเยอะ ฝ่ายค้านเข้มแข็ง การทำงานต้องระมัดระวัง เราต้องปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ด้วย เราอยู่ตรงนี้มา นายทักษิณบอกว่าไม่ได้อยู่ในประเทศไทยมา 17 ปี แต่พวกเราอยู่การเมืองมาโดยตลอด เราจึงรู้สึกชินว่าต้องมีการปรับเปลี่ยนตามสภาวการณ์ทางการเมือง แต่นายทักษิณเพิ่งกลับมาอาจยังไม่ทันใจ เพราะท่านเป็นคนทำงานเร็ว ตัดสินใจเร็ว อีกสักพักทุกคนต้องปรับตัว” นายอนุทินกล่าว เมื่อถามว่ามีปัญหาการทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่มี ที่เป็นนโยบายของนายกฯได้ทุกอย่าง ไม่มีอะไรที่พรรคร่วมต้องการแล้วไม่เคยได้ อย่างเช่นเงินเยียวยาน้ำท่วมกว่าหมื่นล้านบาท กระทรวงมหาดไทยเป็นคนขอ นายกฯอนุมัติทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชน ฉะนั้นการดำเนินงานเพื่อพี่น้องประชาชน เรามีหน้าที่สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน อะไรที่ไม่ถูกต้องมีหน้าที่ช่วยกันกระตุกขากันไว้ อย่าให้เลยเถิดไป นี่คือการอยู่ร่วมกัน” นายอนุทินกล่าว
“วราวุธ” บอกพยายามทำงานเร็วสุด
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมฯ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ระบุรัฐบาลทำงานล่าช้าและยาก เพราะมีพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคว่า ไม่แปลกใจ การทำงานในพรรคร่วมเวลามีอะไรจะคุยกันหลายฝ่าย อดีตสมัยพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลพรรคเดียวจะคล่องตัวกว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าคงจะเห็นการหาเสียงที่ค่อนข้างดุเด็ดเผ็ดมัน แต่ไม่บั่นทอนอะไร เป็นเรื่องปกติของการทำงาน เปรียบมีผู้เล่นหลายคน ไม่เหมือนมีผู้เล่นคนเดียว นายทักษิณเป็นคนทำงานรวดเร็ว มีไอเดียมาก อาจเห็นว่าสมัยที่ยังทำงานอยู่อาจรวดเร็วกว่า ทุกพรรคร่วมรัฐบาลทำงานเต็มที่ นโยบายนายกฯและรัฐบาลชัดเจน จะพูดคุยกันนอกรอบ งานเอกสารบางครั้งต้องใช้เวลา เราต้องพยายามทำงานให้เร็วที่สุด หากบางเรื่องเปลี่ยนแปลงให้เป็นรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เชื่อว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้รวดเร็วมากขึ้นไป
“มาริษ” กำชับคุมเข้มชายแดน
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ (กต.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจบริหารสถานการณ์อันเนื่องมาจากความไม่สงบในเมียนมา ครั้งที่ 1/2568 มีนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม จากนั้นเวลา 13.00 น. นายมาริษให้สัมภาษณ์ว่าได้เน้นย้ำให้บูรณาการทำงาน เพื่อบรรลุเป้าหมายให้เกิดความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ป้องกันปราบปรามปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งยาเสพติดและออนไลน์สแกม จึงเน้นย้ำจัดระเบียบตามแนวชายแดนโดยเฉพาะ จ.ตาก ให้ความสำคัญการควบคุมไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายคน สิ่งของและสินค้าทรัพยากรต่างๆที่จะนำไปสู่กิจกรรมการก่อให้เกิดอาชญากรรมข้ามชาติ และติดตามไม่ให้บุคคลต้องสงสัยเข้าไปในพื้นที่ชายแดน เพื่อไปใช้ประโยชน์ในประเทศไทยหรือไปก่ออาชญากรรมและกิจกรรมไม่พึงประสงค์ รวมถึงคนต่างชาติ หากพบมีบุคคลต้องสงสัยต้องควบคุมตามมาตรการอย่างเข้มงวด
ขึงขังไม่ให้จีนทำอะไรที่ไม่อนุญาต
นายมาริษกล่าวต่อว่า กรณีผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านความมั่นคงของจีน เดินทางมาตรวจและติดตามการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย ไม่ทราบ เรื่องนี้ไม่ได้ผ่านกระทรวงต่างประเทศ เป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรม ที่เขาติดต่อกัน ท้ายที่สุดคงมีการคุยกันในภาพรวม ตนอยากเห็นการบูรณาการร่วมกัน กระทรวงต่างประเทศดูเรื่องต่างประเทศ แต่ด้านการปฏิบัติเป็นเรื่องของกระทรวงยุติธรรม ตำรวจและทหารจะช่วยเหลือกันอย่างไรคงมีการพูดคุยกัน ยืนยันว่า กต.ไม่ยอมให้จีนเข้ามาทำอะไรโดยที่เราไม่ให้เขาทำได้อยู่แล้ว
รอ สมช.ชุดใหญ่เคาะตัดไฟแก๊งคอลฯ
นายมาริษกล่าวอีกว่า ในที่ประชุมได้หารือเรื่องการตัดไฟในเมียนมา จะตัดสินใจอะไรออกไป อยากให้ส่วนที่เกี่ยวข้องได้หารือในรายละเอียดก่อน มอบให้นายฉัตรชัยไปรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายก่อนตัดสินใจ เมื่อถามว่าหน่วยงานใดเป็นเจ้าภาพหลักเพราะโยนกันไปมา นายมาริษกล่าวว่า เลขาธิการสมช.จะไปประชุมก่อนนำความเห็นให้ที่ประชุมสมช.คณะใหญ่ตัดสินใจ เร็วที่สุดวางไทม์ไลน์ไว้ไม่เกิน 1 เดือน เมื่อถามว่า กฟภ.ส่งทำหนังสือไปยังกรมเอเชียตะวันออก แต่ไม่ได้รับการตอบรับ นายมาริษกล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันเรื่องนี้ ขอนำเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อให้ชัดเจนก่อน เมื่อถามว่ามีการเปิดเผยข้อมูลมีนายพลตำรวจ อักษรย่อ ต.ไปเป็นหุ้นส่วนกับบ่อนการพนัน จะตรวจสอบหรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่าต้องมีการตรวจสอบ ทุกอย่างต้องโปร่งใส
“ภูมิธรรม” โบ้ยโยนกลองกันไปมา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการตัดจ่ายไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังถูกมองโยนความรับผิดชอบกันไปมาว่า ไม่ใช่โยนกันไปมา การตัดไฟฟ้ามีมาตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ ได้มีมติ ครม.เพื่อแก้ไขปัญหา ถ้าพบจ่ายไฟเข้าถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ตัดไฟได้เลย เป็นเรื่องที่ดำเนินการอยู่แล้ว เมื่อเดือน มิ.ย.66 ตัดไปแล้ว 2 ส่วน ที่ อ.แม่ระมาด และ อ.แม่สอด จ.ตาก ตรงข้ามชเวก๊กโกและเคเคปาร์ค ประเทศเมียนมา ส่วนที่ยังไม่ตัดคือทางเมืองเมียวดี มีทั้งนักเรียนและโรงพยาบาล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เมื่อถามว่า รมว.ต่างประเทศ ระบุต้องเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตัดสินใจ นายภูมิธรรมกล่าวว่า แล้วแต่หน่วยงานใดเจอมา ใครพบเจอก็บอก หน่วยงานด้านความมั่นคงมีหลายหน่วย ทุกคนทำหน้าที่อยู่แล้ว
“ทวี” เผยจีนมอบหลักฐานบางอย่าง
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายหลิว จงอี้ ผู้ช่วย รมต.กระทรวงความมั่นคง สาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางลงพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก ว่า ได้ทำหนังสือผ่านทูตจีน มายังกระทรวงยุติธรรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) รวมไปถึงพื้นที่ โดยในส่วนของกระทรวงยุติธรรมได้พบปะแลกเปลี่ยนเรื่องของคดี เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ การหลอกลวงออนไลน์ ท่านก็มารับฟังและมอบหลักฐานบางอย่างให้
เลขาฯ สมช.ปัดไร้อำนาจรอคุย กฟภ.
นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า กฟภ.จะนำเรื่องการตัดไฟไปหารือกับคู่สัญญา ทุกอย่างต้องยึดตามหลักกฎหมาย โดยจะนำข้อมูลทั้งหมดส่งให้ กฟภ.และ กฟภ.จะนำเรื่องมาพิจารณาและหารือกับคู่สัญญา เมื่อถามว่าใครมีอำนาจสั่งตัดไฟ เลขาธิการ สมช.ตอบว่า ต้องไปดูข้อกฎหมายระหว่าง กฟภ.กับคู่สัญญาที่ร่วมกันลงนามไว้ แต่เดิม สมช.ไม่มีอำนาจไปบอกว่าจุดไหนเป็นอันตรายกับประเทศไทย เป็นไปตามข้อกฎหมาย เมื่อถามว่าจะนำประเด็นการตัดไฟฟ้าเสนอต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้เลยหรือไม่ นายฉัตรชัยกล่าวว่า ต้องดูข้อกฎหมาย และรายละเอียดต่างๆรวมถึงต้องหารือกับ กฟภ.อีกครั้ง
มท.1 ชี้ ป.ป.ส.ตอบบริษัทซื้อไฟโปร่งใส
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย (มท.) กล่าวถึงข้อเสนอให้กฟภ.ตัดไฟฟ้าที่ส่งไปเมียนมาว่า มท.เป็นผู้ปฏิบัติ กฟภ.ถูกสั่งขายไฟให้ประเทศเพื่อนบ้านด้วยเหตุผลทางสิทธิมนุษยชน หากมีเหตุหยุดจ่ายไฟ ผู้สั่งให้ขายต้องแจ้งให้เราหยุด หากทางการเมียนมาแจ้งขอให้ตัดไฟเป็นเรื่องง่าย แจ้ง ครม.ดำเนินการได้เลย หรือหากเร่งด่วนแจ้งให้นายกฯมีข้อสั่งการโดยเร่งด่วน ส่วนทางการไทยผู้จะมีอำนาจสั่งการต้องเป็นตามเอกสาร กฟภ.ที่ทำถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ตอบจดหมายกลับมายัง กฟภ.แจ้งว่าได้ไปสำรวจแล้วว่า บริษัทที่รับซื้อไฟฟ้าจากกฟภ.เพื่อจำหน่ายต่อยังชายแดนเมียนมา ไม่มีการกระทำใดผิดกฎหมาย คณะกรรมการบริหารบริษัทไม่มีประวัติทำผิดกฎหมาย กฟภ.เอาอำนาจตรงไหนไปตัดไฟ แต่หาก สมช.มีหนังสือตอบกลับมาพบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงเห็นสมควรให้หยุดตัดไฟ กฟภ.จะทำเรื่องมาที่ตนเพื่อส่งเรื่องไปถึงนายกฯให้พิจารณาสั่งการ ต้องมีการพิสูจน์และยืนยันก็ดำเนินการได้ทันที
ถ้าเมียนมาขอมาไทยปิดสวิตช์ทันที
นายอนุทินกล่าวอีกว่า กรณีที่ระบุว่านำไฟฟ้าไปใช้ในการสแกมหลอกหลวง คอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด ตอนนี้เป็นข้อมูลทางวาจา ยังไม่ได้พิสูจน์ ไม่รู้ว่าทำตรงไหน หากไปตัดไฟโรงเรียน โรงพยาบาล หมู่บ้าน วัด ไม่มีไฟใช้ทั้งหมด หากทำแล้วเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ อาจถูกฟ้องกลับมาได้ ส่วนกรณีระบุว่า รมว.มท.สั่งตัดไฟได้ ต้องเข้าใจ กฟภ.เป็นรัฐวิสาหกิจ มีบอร์ดและคณะกรรมการบริหาร รมว.มท.สั่งการได้แต่เชิงนโยบาย เมื่อถามว่าทางการเมียนมาโหมข่าวไทยสนับสนุนไฟให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายอนุทินตอบว่า โหมทำไม ทำไมไม่เขียนจดหมายมาถึงทางการไทยว่าไม่จำเป็นต้องใช้ไฟจากไทยแล้ว ขอให้หยุดจ่ายไฟ เพราะไปทำให้เกิดความเดือดร้อนในเมียนมา
ร่อนหนังสือจี้ สมช.ส่งข้อมูลจีนเทา
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงมหาดไทย (มท.) ว่า เมื่อวันที่ 31 ม.ค.นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มท.ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงเลขาธิการ สมช. เรื่องขอสอบถามข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงในพื้นที่การจำหน่ายพลังงานให้กับเมียนมา เป็นไปตามที่ประชุม ครม. 14 พ.ค.67 ให้มท.ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการระงับการให้บริการสาธารณูปโภคข้ามพรมแดน ที่มีการตรวจพบว่าได้นำสาธารณูปโภคไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ กฟภ.มีจุดซื้อขายไฟฟ้า 5 จุด คือ 1.บ้านเจดีย์สามองค์ เมืองพญาตองชู 2.บ้านเหมืองแดง เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน 3.บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า เมืองท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน 4.บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และ 5.บริเวณบ้านห้วยม่วง อ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง มท.จึงเรียนสอบถาม สมช.มีจุดใดบ้าง มีเครือข่ายยาเสพติด การฟอกเงิน แก๊งคอลเซ็นเตอร์การค้ามนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศหรือไม่ อย่างไร เพื่อนำมาใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณางดจ่ายกระแสไฟฟ้าต่อไป
กกต.รับมีผู้ร้อง “ทักษิณ” ปราศรัย
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงาน กกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.แถลงความพร้อมการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ว่าการเลือกตั้ง อบจ.ทั้ง 76 จังหวัด รวม 90,715 หน่วยเลือกตั้ง ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. ในพื้นที่จะนับคะแนนเอง กกต.กลางจะรวมลิงก์มาเผยแพร่ให้สื่อมวลชนและประชาชนติดตามผล มั่นใจระบบรายงานจะไม่ล่ม และไม่สามารถแฮ็กข้อมูลได้ คาดว่าจะรู้ผลอย่างไม่เป็นทางการเวลาประมาณ 22.00 น. ล่าสุดมีเรื่องร้องเรียน 153 เรื่อง กรณีคลิปซื้อสิทธิขายเสียงที่ จ.มหาสารคาม สำนักงานกกต.รับเป็นสำนวนแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน รวมทั้งคลิปเงิน 20 ล้านบาท ที่ จ.ปราจีนบุรี เรารับเรื่องไว้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานของคณะกรรมการไต่สวน รวมทั้งกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ปราศรัยช่วงตรุษจีนตอนหนึ่งระบุจะมีการแจกเงิน 1 หมื่นบาท เข้าข่ายสัญญาว่าจะให้หรือไม่ ต้องรอการรวบรวมพยานหลักฐานอีกครั้ง
นายกฯปลูกต้นไม้วัน “สมมงคล”
เมื่อเวลา 15.30 น. ที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯเป็นประธานกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในพระราชพิธีสมมงคล พระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราชแห่งพระราชวงศ์จักรี มีประธานองค์กรอิสระ ครม.พร้อมคู่สมรสและหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วม โดยนายกฯและคู่สมรส ร่วมกันปลูกต้นขนุนไพศาลทักษิณ ส่วนผู้ร่วมกิจกรรมร่วมกันปลูกต้นไม้ชนิดต่างๆ รวมทั้งสิ้น 173 ต้น
ก่อนหน้านี้ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายกฯต้อนรับ นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รองประธานมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลในพระบรมราชูปถัมภ์ นำนายโทนี ฮันเตอร์ ผู้ค้นพบเอนไซม์ไทโรซีนไคเนส นำไปสู่การพัฒนาการรักษาโรคมะเร็งแบบเจาะจงเป้าหมายและ (targeted therapy) พัฒนายายับยั้งเซลล์มะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ และนายโจนาธาน พี.เชฟเพิร์ด ที่พัฒนาคาร์ดิฟฟ์โมเดลป้องกันเหตุความรุนแรง ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2567 และเอกอัครราชทูตสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร เข้าเยี่ยมคารวะ โดยนายกฯกล่าวว่า รัฐบาลพร้อม ส่งเสริมความร่วมมือพัฒนาและวิจัยด้านการแพทย์และสาธารณสุขร่วมกับสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรต่อไป
ศาลยกฟ้อง “โรม” หมิ่นฯ สว.ทรงเอ
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกเมื่อเวลา 09.30 น. ศาลอาญานัดฟังคำพิพากษา คดีดำ อ468/2566 ที่นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีต สว.เป็นโจทก์ฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน (ปชน.) เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา เรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท กรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ได้อภิปรายทั่วไปพาดพิงถึงโจทก์ว่า สว.ทรงเอ การเช็กบิลไทยดำ-จีนเทา มีเนื้อหาเข้าข่ายหมิ่นประมาทนายอุปกิต ให้เสื่อมเสียชื่อ เรียกค่าเสียหาย จำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว โดยศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ภายหลังนายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า ยืนยันว่าข้อเท็จจริงที่ได้พูดออกไปเป็นไปตามสำนวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือว่าหลังจากนี้คดีความที่เกี่ยวข้องกับนายอุปกิตถือว่าจบไปอีกเรื่อง แต่จะต้องดูต่อไปว่าเมื่อคำพิพากษาออกมาแบบนี้นายอุปกิตจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่