ก้าวข้ามความขัดแย้ง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) บอกกับทีมข่าวการเมือง เน้นย้ำถึงมอตโต้สะท้อนให้เห็นถึงชัยชนะที่ไม่ก่อความร้าวฉาน เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญเดินหน้าประเทศเพราะที่ผ่านมาพยายามชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อน-จุดแข็งของฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ชินกับการจัดการด้วยอำนาจ และฝ่ายเสรีนิยมที่มีธรรมชาติเปิดรับความคิดเห็นที่แตกต่างได้มากกว่าทั้งสองฝ่ายไม่มีทางทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามพ่ายแพ้อย่างราบคาบ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงตัดสินใจใช้เวลาของชีวิตที่เหลืออยู่ หาทางทำให้ประเทศมีทางออกจากวงจรอันสิ้นหวังเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสุขสงบถึงเวลาทำให้อนุรักษ์นิยมที่เป็นแก่นของความเป็นชาติอยู่ด้วย และร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาไปด้วยเสรีนิยม ซึ่งมีความคล่องตัว ได้รับการสนับสนุนจากนานาชาติมากกว่า ฉะนั้นเชื่อมั่นว่าผมทำได้นอกจากนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ยังมีนโยบายก้าวข้ามความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสวัสดิการเข้มแข็ง พลิกฟื้นเศรษฐกิจ สร้างความเป็นธรรมของสังคม และพลิกโฉมการบริหารงานภาครัฐ ตรงนี้เป็นการบริหารประเทศของรัฐบาล อยากฝากประชาชนว่าความเป็นหนึ่งเดียวมีความสำคัญมาก ที่สร้างความเจริญให้กับประเทศต่อไปความขัดแย้งระหว่างรุ่นอายุ ทุกคนเป็นคนไทยทั้งนั้น ถึงเวลาที่ต้องยุติความขัดแย้ง ต้องมีความรักใคร่ มีความเป็นหนึ่งเดียว พวกเราก้าวข้ามความขัดแย้งสำเร็จ มั่นใจว่าคนไทยกว่า 60 ล้านคน......สามารถก้าวข้ามความยากจนไปด้วยกันฉะนั้นการเมืองใครคิดอย่างไร อยู่พรรคไหน อยู่ไป ไม่ว่าอะไร แต่เมื่อเลือก ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนเข้ามาทั้งหมดแล้ว ให้ไปว่ากันในสภา ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องแคนดิเดตนายกฯ พปชร. ยังให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน มุ่งหวังแก้ปัญหาให้ประชาชนอยู่ดีกินดี และประเทศสามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้เห็นได้จาก “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” มีทั้งรัฐมนตรีในปัจจุบัน อดีตรัฐมนตรี และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง-อดีต รมว.อุตสาหกรรมนายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายวราเทพ รัตนากร อดีต รมช.คลัง นายคณิศ แสงสุพรรณ อดีตที่ปรึกษา สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.)นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตผู้ช่วย รมว.คลัง-อดีต รมช.แรงงาน ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน และนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ อดีต ผช.รมต.ประจำสำนักนายกฯ ปฏิบัติงานกระทรวงการคลัง ทุกคนเป็นตัวจริงด้านเศรษฐกิจ ร่วมผลักดันนโยบายเศรษฐกิจพลิกโฉมประเทศไทย 360 องศา ตอบโจทย์เชิงบริหารเศรษฐกิจ เดินหน้าบริหารประเทศได้ทันทีชนิดไร้รอยต่อ แม้รัฐบาลชุดนี้ต้องเผชิญภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังผันผวนเปิดหน้าสรุปนโยบายโค้งสุดท้ายสู่การเลือกตั้งเป็นรัฐบาล พปชร. อาทิ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เน้นย้ำถึงการสนับสนุนเงินกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ภายใต้กองทุนประชารัฐ กองทุนละไม่เกิน 2 แสนบาท เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจระดับหมู่บ้านให้ขับเคลื่อนหมุนขึ้นมาข้างบนยังมีกองทุนปุ๋ยประชารัฐ หรือปุ๋ยคนละครึ่ง เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาปุ๋ย ช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรทั่วประเทศ 8 ล้านครัวเรือนรวมถึงสมาร์ทฟาร์มมิ่ง และเขตเศรษฐกิจพิเศษปาล์มน้ำมัน นำร่องในแต่ละจังหวัด แยกตามรายพืช ภายใต้องค์ประกอบสำคัญ คือครอบคลุมเขตที่มีการปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ เป็นเขตส่งเสริมการใช้ระบบเกษตรอัจฉริยะ ทำให้มีต้นทุนต่ำ มีผลผลิตสูง มีอุตสาหกรรมแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เพื่อส่งออกด้านนโยบายด้านสาธารณสุข พปชร. ยังมีเป้าหมายปฏิรูประบบสาธารณสุขอย่างครบวงจร ใช้เทคโนโลยีดูแลสุขภาพคนไทย กระจายให้ทั่วถึง เท่าเทียมหรือเรียกว่า นโยบาย “ลุงป้อมพาไปหาหมอ” โดยไม่เดินทาง ไม่ต้องรอคิว เข้าถึงการรักษายากลำบาก พปชร.นำระบบ Telemedicine Telepharmacy หรือการแพทย์ทางไกลมาใช้บริการในพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศ ทำให้พี่น้องประชาชนไม่ว่าอยู่แห่งหนตำบลใดก็สามารถพบแพทย์ได้ อยู่ไกลแค่ไหนคนไทยก็ใกล้หมอ จะพบแพทย์ จ่ายยา ดูแลรักษา ย่อมสามารถเข้าถึงบ้านของคนไทยทั่วประเทศ ได้ใกล้ชิดหมอมากกว่าเดิม คนไทยจะใกล้หมอแค่ปลายนิ้ว เจ็บป่วยจัดการได้ด้วยโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียวขณะเดียวกันนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เปิดให้เห็นภาพนโยบายเศรษฐกิจใน กทม. อาทิ เริ่มจากการพัฒนาคุณภาพชีวิตผ่านโครงการบ้านประชารัฐ 360 องศา ภายใต้ธีมเข้าใจ เข้าถึง ทำได้จริง มีพื้นที่ต้นแบบชุมชนลีลานุช เอกมัย 19 เพื่อทำให้ความเป็นอยู่ของชาวบ้านมีความเท่าเทียม คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ดีขึ้นการแก้จนผ่านแก้ปัญหาที่ทำกินให้เกษตรกร จุดนี้เป็นนโยบายที่ชาวบ้านชอบมาก โดยเฉพาะนโยบาย สปก.4.0 เพื่อแก้ปัญหาการใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ไม่ตรงต่อสภาพความเป็นจริง เป็นไปตามความต้องการของประชาชน ซึ่งสามารถทำได้ทันทีนโยบายเหล่านี้ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ต้องยอมรับว่า โอ้โห!! ประชาชนชื่นชอบ เพราะ พปชร.มุ่งมั่นทำเพื่อประชาชน และกลุ่มเปราะบางให้อยู่ดีกินดีแคนดิเดตนายกฯ พปชร.เดินสายทั่วประเทศ สัมผัสประชาชนมีความมั่นใจอย่างไรว่า พปชร.ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.ประวิตร บอกว่า ยังไม่คิด เพราะไม่รู้ตัวเลขเป็นหน้าที่ของผู้สมัคร ส.ส. พปชร.ทั่วประเทศ ต้องช่วยกันรณรงค์หาเสียงให้ประชาชนเห็นว่า พปชร.มุ่งมั่นแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาเศรษฐกิจ โดยเริ่มจากก้าวข้ามความขัดแย้งวันนี้มั่นใจแค่ไหนที่จะเป็นผู้นำเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง พล.อ.ประวิตร บอกว่า ถ้าหาเสียงโดยไม่มั่นใจ คงไม่เหนื่อยขนาดนี้ ต้องมั่นใจ ถ้าผมได้เป็น ก็ขอพูดกับประชาชนว่า ความรัก ความสามัคคีของคนไทยต้องเป็นหนึ่งเดียวก่อน เพื่อทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าถ้าไม่เป็นหนึ่งเดียวประเทศไทยไปไม่ได้ตอนนี้ทุกพรรคขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือด เริ่มพูดคุยสูตรตั้งรัฐบาลล่วงหน้าอย่างไร หรือหลังเวลา 22.00 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการออกมา ถึงเริ่มเปิดฉากคุย พล.อ.ประวิตร บอกว่า ไม่มีไม่ได้คุยกับใคร ไม่คุยสักพรรคเดียว!! ปัดโธ่ถามจัง รอเลือกตั้งเสร็จผลออกมาเมื่อไหร่ อาจจะเวลา 23.00 น. ก็ได้ พปชร.ได้ ส.ส.เท่าไหร่ รอตัวเลขออกมาก่อนถึงคุยกัน สมมติต่างพรรคต่างได้ ส.ส. ขึ้นอยู่กับจำนวน ส.ส. ถ้าเราได้พรรคเดียวก็ตั้งพรรคเดียว“ลุงป้อม” สื่อถึง ส.ว.ได้รู้เรื่อง เพราะเป็นคนมีบารมี และเครือข่ายกว้างขวาง พล.อ.ประวิตร บอกว่า ผมสื่อกับใครรู้เรื่องทั้งนั้น เพราะไม่ได้ทะเลาะกับใครเป็นคนที่ไม่มีเครือข่าย แต่มีคนไปพูดว่าผมมีบารมี ผมไม่เคยบอกเลยว่าเป็นคนมีบารมีตรงไหน ไม่อยากนึกอย่างนั้น ผมอยากทำงานกับทุกคน ไม่ต้องห่วง ไม่ทะเลาะกับใครในฐานะดูแลความมั่นคงมายาวนานและมีประสบการณ์การเมืองสูง หลังการเลือกตั้งวิกฤติการเมืองมีโอกาสเกิดขึ้นอย่างไร พล.อ.ประวิตร ย้ำว่า นโยบายก้าวข้ามความขัดแย้ง ผมเป็นคนคิดมา ถ้าทำตามข้อเสนอของผมรับรองไม่เกิดวิกฤติปัญหาต่างๆ อาทิ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็นำเข้าสู่สภา เพื่อให้ ส.ส.พิจารณา ส่วนรัฐบาลมีหน้าที่บริหารประเทศ อำนาจตุลาการก็ว่ากันไป แยกแยะชัดเจน เชื่อมั่นสังคมจะเกิดความรัก ความสามัคคี รับรองประเทศเจริญกว่านี้พปชร.เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายวันที่ 12 พ.ค. มีทีเด็ดอะไรปล่อยออกมา เพื่อให้พลังเงียบออกมาเลือกเข้าไปเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ พล.อ.ประวิตร บอกว่า ประชาชนอยากเลือกใครไม่ขัดข้องขอให้เลือกคนที่ตั้งใจทำงานให้ประชาชนและประเทศชาติ ผมได้เป็นหรือไม่อยู่ที่ประชาชนเลือกหากเลือก พปชร.รับรองสมหวัง ทำทันทีในทุกนโยบายพร้อมเป็นหัวจักรตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีผมเป็นนายกฯ.ทีมการเมือง