เข้าสู่โหมดความเมือง ความบ้านติดเบรกไว้ก่อน ดีเดย์การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก เอเปก 2022 ถึงไฮไลต์ประชุมสุดยอดระดับผู้นำวันที่ 19 พ.ย.เป็นวันสุดท้าย การประชุมระดับโลกรอบนี้ ถือว่ารัฐบาลโชว์หน้าตาของประเทศได้ครบ ทั้งการจัดอีเวนต์การประชุม อาหารการกินแห่งอนาคต กิจกรรมโชว์ ของที่ระลึก ประยุกต์รูปแบบไทยสู่สากลให้คนทั้งโลกรับรู้และการประชุมตามธีมหลัก “Open-Connect-Balance ” สอดคล้องกับสถานการณ์หลังโรคระบาดใหญ่“เปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล”ในสถานการณ์แกว่งๆของประเทศไทย ที่มีแรงกระเพื่อมบ้าง จากกิจกรรมของกลุ่มต้านผู้นำ และค้านการจัดประชุมเอเปก แต่ถ้ามองในมุมสีสันของความแตกต่าง ความสวยงามของประชาธิปไตยก็มองได้และก็ไม่ควรให้คำนิยามว่า ต่อต้านผู้นำแล้วจะเท่ากับชังชาติ เพราะนายกฯไม่ใช่ประเทศ ไม่ใช่ชาติ การประชุมระดับโลกในหลายประเทศ ก็มีคนเห็นต่างและเปิดการแสดงออกแบบนี้ เอาเป็นว่า ถ้าให้คะแนนตั้งแต่เตรียมงานจนจบประชุม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ทำได้เข้าเป้า ถึงหมุดหมายที่ปักไว้ในเรื่อง “ความเมือง”แต่ในระดับ “ความบ้าน” ว่าด้วยการเมืองภายใน “บิ๊กตู่” ยื้อมาได้ แต่ต้องเข้าสู่ห้วงตัดสินใจหลังจากนี้ตามปฏิทินการเมืองที่รอผู้นำ “เคาะ” อยู่ นอกจากดีเดย์โหราฤกษ์ 21 พ.ย.นี้ ที่ว่าจะตัดสินใจย้ายไปเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติหรือไม่ไม่เท่านั้นยังโยงไปอีกหลายคิว ทั้งเรื่องกฎหมายสำคัญอย่าง พ.ร.บ.กัญชากัญชง โปรแกรมปรับ ครม. รวมทั้งกติกาเลือกตั้ง บัตรใบเดียว สูตรหาร 100 ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ต้องรอผลสรุปการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นที่ต้องคุยให้จบ ระหว่าง “2 ลุง” จะอยู่หรือแยกย้ายทั้ง “ลุงตู่” และ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ “อำนาจคู่” จะถึงตอนจบ หรือหันมากอดคอกอดเอว “ถือดุลร่วม” กันต่อไปในน้ำหนัก อัตราต่อรอง ณ วันนี้ เทมาที่ฝั่ง “พี่ใหญ่” ถือแต้มได้เปรียบหลังจากที่โดนเกมขู่จากปฏิบัติการไล่ทุบทุนจีนสีเทา สะท้าน “กบฏผู้กอง” และสะเทือนพลังประชารัฐ ถึงขั้นมีมืองานไปยื่น กกต. “ยุบพรรค”แต่แนวต้านของ “พี่ใหญ่” ยังยันแนวอยู่ที่ กกต. และแน่นอนที่หนักหน่วงเช่นกัน คือเกมโต้กลับ อดีตกุนซือคนใกล้ชิดลุงบ้านป่าฯออกมา “ตะเพิดนิ่มๆ” ให้ “บิ๊กตู่” ไปรวมไทยสร้างชาติต่อด้วยพี่ใหญ่ออกมาเล่นบทไม่แยแส เย้ยข่าว ป. น้องเล็ก จ่อตีจาก “จะไปไหนก็ไป”นาทีนี้ว่ากันว่า นอกจากรังใหม่ รวมไทยสร้างชาติแม้จะปั่นฟู แต่บวกลบคูณหาร ทั้งตกปลาในบ่อเพื่อนจากประชาธิปัตย์หรือใช้พลังดูดตึกไทยคู่ฟ้าช่วยนับนิ้วดูแล้วเป้าหมายปั่นแต้ม ส.ส.ให้ได้ 25 เสียงขึ้นเพื่อเสนอแคนดิเดตนายกฯรองรับ “บิ๊กตู่” ได้ไม่ยากแต่จะให้พุ่งทะลุพรวดพราด เพิ่มน้ำหนักความชอบธรรมเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลรอบหน้า ยังเหนื่อยวันนี้ท่านผู้นำจึงอยู่ในช่วงลังเล ยังไม่ปิดประตูตายที่จะกลับสู่อ้อมอกพี่ใหญ่ ขึ้นบัญชีแคนดิเดตนายกฯในพรรคพลังประชารัฐแต่นั่นก็หมายความว่า พี่-น้องต้องเจรจากันอีกหลายยกโดยเฉพาะโควตาเก้าอี้ รมต.ในคิวปรับ ครม. ในสูตรอำนาจคู่ที่ไม่เหมือนเดิม “บิ๊กตู่” ที่เคยยึดดุลอำนาจพี่ใหญ่มาหลายระลอก รอบนี้ถ้าตัดสินใจจะกลับมาสู่อ้อมอกพี่ใหญ่ ก็ต้องลดโทนกร้าวยอมอ่อนข้อให้พี่ใหญ่บ้างเหมือนกันเอาเป็นว่าเป็นสถานการณ์ที่พี่-น้อง อยู่กันมาครึ่งค่อนศตวรรษ แต่สถานการณ์ที่ผันผ่าน พบเจออะไรๆหลายอย่าง จนสายสัมพันธ์แปรปรวนผันผวนเป็นตัวแปรเงื่อนไขสำคัญทำให้การเจรจาต่อรองในแผนอำนาจคู่ ไม่ง่ายเหมือนครั้งก่อนมาเปรียบไปก็ถือว่าอยู่ในโหมด “ทุบไป เจรจาไป”เป็นเกม “รบระหว่างรัก” ระหว่างพี่–น้อง ที่ยังดำรงต่อเนื่อง และต่อๆไป.ทีมข่าวการเมือง