ชนักปักกลางหลังคาไว้อยู่ในสภาพเสือลำบาก ตามวิบากกรรมที่ค่ายพลังประชารัฐสุ่มเสี่ยงรับเงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาท จากนายทุนต่างด้าวสัญชาติไทยที่นัวเนียกับธุรกิจมืด ผับฉาวกลางเมืองกรุงคนที่สะดุ้งกว่าใครก็คือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต้องอุ้มเผือกร้อนไว้เต็มมือ เจอราคีพัวพันช่วงราศีจับ “นายกฯดีลข้ามขั้ว” กับพรรคเพื่อไทยในจังหวะสถานการณ์เกมอำนาจกำลังไหลเข้าเหลี่ยม “บิ๊กบราเธอร์” กระตุกเกมบีบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ต้องอพยพลูกหาบไปปักหลักกับค่ายรวมไทยสร้างชาติ รวมพลก๊วน กปปส. แห่ขบวน “รวมไทยสร้างตู่”แต่หากจับพลัดจับผลูค่าย พปชร.สะดุดปมยุบพรรค ตีลังกาหัวคะมำมิสชันอิมพอสซิเบิล นายกฯดีลข้ามขั้วของ “พี่ใหญ่” มีอันต้องแท้งก่อนคลอด พวกที่ตัดกระบอกไม้ไผ่รอตั้งแต่ยังไม่เห็นลำธารน้ำ มีหวังกินแห้ว ฟาวล์ตามๆกันเกมยุบพรรค “ดัดหลัง” เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ตราบใดที่ “บิ๊กตู่” แขวน “พระรอด” คุ้มหัวแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสถานการณ์ ณ จุดนี้ การเมืองยังอึมครึม คลุมเครือ ในเมื่อกติกาเลือกตั้งยังไม่ชัด ทั้ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง และกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองยังค้างเติ่งอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญไม่รู้ออกหัวออกก้อยสูตรเลือกตั้งหาร 100 หาร 500 ยังไม่ชัวร์ กระแสที่ว่าจะยุบสภากันวันนั้น ล้มกระดานเดือนนี้ ก็เป็นการตีปี๊บ ตีขลุมเอาเองของฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ที่เดาอยู่วงนอกเท่านั้นคนที่มีอำนาจกดปุ่มตัวจริงคือ “บิ๊กตู่” ไม่เคยปริปากแม้แต่แอะเดียวตามรูปการณ์ผู้นำทหารเฒ่าจะลากไปจนครบเทอม เดือนมีนาคมปีหน้าก็ไม่ผิดกติกา หรือจะติดปัญหาทางเทคนิคยังเลือกตั้งไม่ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้กับการเมืองแบบไทยๆที่แน่ๆหลอกล่อให้ป้อมค่ายการเมืองขยับหาเสียงเลือกตั้ง แห่กันตั้งแต่ไก่โห่ไปแล้วรำจนเปลี้ยไปตามๆกัน ถึงวันเลือกตั้งจริงหมดแรงพอดีโดยเฉพาะป้อมค่ายใหม่ พรรคการเมืองป้ายแดงที่ไม่มีอำนาจรัฐ ไร้ฐาน ส.ส.เก่า ปราศจากกล้วยเป็นโกดัง ไม่มีไดโว่พลังดูดผีโม่แป้ง ต้องสู้ด้วยลำแข้งตัวเองเพียวๆโดนยื้อเลือกตั้ง ลากทางยาวๆยิ่งเสียเปรียบ โอกาสเดียวคือต้องโชว์ “จุดขาย” ชัดๆ เน้นภาพความเป็นไปได้ในเชิงปฏิบัติ แสดงถึงคุณสมบัติเชิงบริหารที่เหนือกว่า “นักเลือกตั้งอาชีพ” แก่งแย่งอำนาจ ทำให้ประชาชนเปรียบเทียบความแตกต่างได้ เพื่อที่จะลุ้นยืนระยะ สู้กับอำนาจรัฐ ฟัดกับพลังกล้วย และกระแสอุปาทานหมู่แลนด์สไลด์แน่นอนว่า มันไม่ง่าย แต่ก็ไม่ได้ยากเกินจนเป็นไปไม่ได้เอาเป็นว่า ประเมินจากรูปมวย หลังผ่านยกแรก พรรคสร้างอนาคตไทยอยู่ในสถานะพร้อมกว่าใคร กับจุดขายและภาพของทีมงาน “มือบริหารเศรษฐกิจอาชีพ” ที่นำโดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ที่เชี่ยวชาญอยู่กับระบบเศรษฐกิจไทยยาวนานเกิน 10 ปีไม่เปรี้ยงปร้าง ไม่หวือหวา แต่แน่นในเนื้อหาเชิงบริหารตามวิสัยทัศน์ที่นายสมคิดและทีมงาน “ปล่อยของ” ออกมาในการเดินสายเวทีภาคใต้ ฉายภาพการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในพื้นที่ท่องเที่ยวจังหวัดอันดามัน ภูเก็ต กระบี่ การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจอีอีซีเชื่อมกับเขตเศรษฐกิจภาคใต้ โชว์วิธีหาเงิน เพิ่มรายได้เข้าประเทศ โดยไม่พูดถึงขั้วขัดแย้ง ชิงตีตั๋วร่วมรัฐบาลเน้น “การบ้าน” มาก่อน “การเมือง” โดยการขับเคลื่อนต่อเนื่อง ล่าสุดก็เป็นโปรแกรมไฮไลต์ นายสมคิด พร้อมด้วยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรค หัวขบวนทีมเมืองกรุง ประเดิมลงสนามพื้นที่ กทม.เป็นครั้งแรก จัดคิวคัมแบ็ก “เยาวราช” บ้านเกิด “จอมยุทธ์กวง”ฝากตัวกับเถ้าแก่ใหญ่ เถ้าแก่เนี้ย นักธุรกิจเชื้อสายมังกรปักหมุดพื้นที่เศรษฐกิจกลางเมืองหลวง ลุ้นเจาะไข่แดงกรุงเทพฯแน่นอน มันคือยุทธศาสตร์ “ย้ำภาพ” ทีม “สมคิด” ที่มีจุดขายทีมเศรษฐกิจ เชี่ยวเชิงบริหาร ชัดเจนกว่าค่ายอื่น เน้นเป้าหมายพื้นที่ประชาชนเลือกการเมืองเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ กล้วย อำนาจรัฐไม่มีผลค่ายใหม่ เลือกรบในชัยภูมิที่ตัวเองมีโอกาสชนะ ไม่มั่วลุยถั่วดะ.ทีมข่าวการเมือง