วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปติดตาม การลงมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ 10 รัฐมนตรี กันดีกว่านะครับ “พลังกล้วย” ในสภาจะช่วยให้คะแนนเสียงไม่ไว้วางใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ในสภาดูดีขึ้นกว่าครั้งก่อนหรือไม่ หลังจากที่โดนอภิปรายถล่มเรื่อง การทุจริตคอร์รัปชัน และ ความล้มเหลวในการบริหารประเทศ มาสี่วันสี่คืนจนสะบักสะบอม การลงมติไม่ไว้วางใจเดือนกันยายนปีที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ เสียรังวัดอย่างมาก ได้คะแนนไม่ไว้วางใจสูงสุด และ ได้คะแนนไว้วางใจต่ำรองบ๊วยทำให้การเป็นนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ ด้อยความสง่างามไปเลยการลงมติไม่ไว้วางใจ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ และ 10 รัฐมนตรี วันนี้ เกจิการเมืองเห็นตรงกันว่า 11 รัฐมนตรีจะรอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจได้อีกครั้ง เพราะ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลมีเสียงมากกว่าฝ่ายค้าน ตัวเลขล่าสุดจากการเปิดเผยของ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า ส.ส.ในสภามี 477 เสียง ฝ่ายค้านมี 206-207 เสียง บางคนยังมีฝากเลี้ยง มีงูเห่า การลงมติไม่ไว้วางใจต้องใช้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง 238 คะแนนครึ่ง ถ้ารัฐมนตรีคนไหนได้คะแนนไม่ไว้วางใจ 239 เสียงก็สอบตกคะแนนเสียง พรรคร่วมฝ่ายค้านมี 209 เสียง ประเมินกันว่า มี ส.ส.งูเห่าอยู่ราว 11–12 เสียง ถ้าหัก ส.ส.งูเห่าออกไป ฝ่ายค้านจะเหลือ 197–198 เสียง สู้ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้แน่นอนแต่ที่คนให้ความสนใจมากก็คือ คะแนนเสียงไม่ไว้วางใจและคะแนนเสียงไว้วางใจ ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ครั้งนี้จะออกมาเท่าไหร่ จะหน้าแตกเสียรังวัดได้คะแนนไม่ไว้วางใจสูงสุด และ ได้คะแนนไว้วางใจรองบ๊วยน้อยกว่ารัฐมนตรี อย่างที่เกิดขึ้นในการลงมติไม่ไว้วางใจปีก่อนหรือไม่เท่าที่ได้ฟังการอภิปรายบางช่วงในสองวันแรก ต้องชมว่า พรรคก้าวไกลมีการพัฒนาทักษะและคุณภาพการอภิปรายดีขึ้นมาก ดีกว่า พรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ที่ยังใช้วิธีการอภิปรายแบบเดิมๆ ใช้ลีลาโวหารกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ แทนที่จะร้อยเรียงจับการทุจริตให้ประชาชนเห็น เหมือนพรรคก้าวไกลการอภิปรายของ ส.ส.พรรคก้าวไกล หลายคน แสดงถึงการทำการบ้านในเชิงลึก มีความรู้จริงในข้อมูลที่อภิปราย สามารถร้อยเรียงจนทำ ให้เห็นภาพ “การทุจริตเชิงนโยบาย” ได้ชัดเจนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน การทุจริตเชิงนโยบาย เป็นหนึ่งในข้อหาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้เป็นเหตุผลปฏิวัติ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ฟังการอภิปรายอย่างตั้งใจ คงจะเห็นภาพการทุจริตเชิงนโยบายที่มีการกล่าวหาในรัฐบาลของท่าน โดยที่ท่านอาจไม่รู้ตัวเลยก็ได้ มันเป็นนโยบายที่ซ้อนกันหลายชั้นจนยากที่จะเข้าใจถ้าเห็นข้อมูลเพียงชุดเดียวการตอบโต้ของนายกฯ วันแรก ยังคุมอารมณ์ของขุนนางผู้มีอำนาจไม่ได้ แม้ท่านจะบอกว่าไม่ได้โมโห แต่มีการเอาคืนฝ่ายค้านเพราะไม่พอใจคำพูด “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” ว่า “มีคำหนึ่งที่ติดค้างมาตั้งแต่วันแรก ทำลายนั่งร้านรัฐบาล สองเด็ดหัว ควรใช้ในสภาหรือในสื่อหรือไม่ ที่บอกว่าผมมีนั่งร้าน ผมเป็นหัว ท่านก็มีนั่งร้าน แต่ท่านไม่มีหัว หัวขาดไปแล้ว”เกมการตอบโต้ของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา พี่น้อง 3 ป. ใช้กลยุทธ์ พูดในสิ่งที่เตรียมไว้ เพื่อโชว์ผลงานของรัฐบาล ผสานไปกับ การตอบโต้ในบางเรื่องแบบผิวเผิน เป็นข้อมูลทั่วไป แต่ไม่ตอบโต้ในเชิงลึกตามข้อมูลที่ฝ่ายค้านนำมาอภิปราย อาจลึกจนบาดเข้าเนื้อตัวเอง ส่วนใหญ่จะทำเป็นหูทวนลมไม่รู้ไม่พูดถึง ถือเป็นสิทธิของฝ่ายรัฐบาลที่จะทำได้ หรืออย่างมากก็ชี้แจงเพียงบางประเด็นคะแนนวันนี้ รู้ล่วงหน้าแล้วว่าฝ่ายรัฐบาลชนะ แต่ที่อยากรู้คือ จะมีใครเสียหน้าเจ็บลึกอีกหรือไม่ วันนี้ จะมีการลงมติไม่ไว้วางใจของประชาชนนอกสภาคู่ขนานไปกับ ส.ส.ในสภา ด้วย คะแนนเสียงประชาชน จะมีผลต่อการเลือกตั้ง ผู้แทนประชาชน ในสภาครั้งหน้า.“ลม เปลี่ยนทิศ”