“บิ๊กตู่” ชิ่งตอบละเลงงบฯ 30 ล.จัดอีเวนต์ถาม-ตอบ โฆษก รบ.อ้างเอกชนออกเงินทั้งหมด รัฐไม่เสียสักบาท “นิโรธ” ฉุนถูกสะกิดปมรัฐประหาร “ปุ้ม” ชูจุดยืน สอท.ไม่สังฆกรรม “ลุงตู่” ในทุกกรณี ไม่หนุนเป็นนายกฯ ไม่ร่วมรัฐบาล ปัดไม่มีดีลลับกับทหาร ภท.ขอเหมาศรีสะเกษทั้งจังหวัด “วันชัย” เย้ย พท.ฝันลมๆแล้งๆแลนด์สไลด์ แนะประนอมอำนาจดีกว่า กทม.จัดเจ้าหน้าที่ 1.7 แสนคนรับมือเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก. ตั้งเป้าคนออกมาใช้สิทธิร้อยละ 70 นศ.ร้องเลิกขังม็อบ ลั่น ก.ม.ล้าหลังขังผู้บริสุทธิ์ “สมยศ” นำคาร์ม็อบ ครย.112 “พิธา” ยื่นประกันรอบสอง “ทานตะวัน”

บรรยากาศการเมืองคึกคักสุดๆกับการนับถอยหลังหย่อนบัตรเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ส.ก. รวมถึงนายกเมืองพัทยา ชิมลางก่อนถึงศึกใหญ่เลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ ขณะที่นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย ประกาศชัดเจนไม่มีทางร่วมสังฆกรรมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในทุกกรณี

...

“บิ๊กตู่” โยน กก.สอบท่อส่งน้ำอีอีซี

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 20 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออก (โครงการท่อส่งน้ำอีอีซี) ของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังว่า รับทราบว่าเขาหารือกันอยู่ เป็นเรื่องของคณะกรรมการตรวจสอบ เพียงย้ำเตือนให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายและให้ความเป็นธรรม กรอบอำนาจของนายกฯไปสั่งใครไม่ได้ เป็นเรื่องของคณะกรรมการฯ ถ้ามีการฟ้องร้องก็เป็นเรื่องของศาลให้ตัดสินมา ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น และให้ความเป็นธรรมกับทุกคน

ชิ่งตอบใช้ 30 ล. จัดเวทีถาม–ตอบ

ผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์การใช้งบประมาณ 30 ล้านบาท ในการจัดงาน “ถามมา- ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” (Better Thailand Open Dialogue) ว่าเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ตอบคำถามได้แต่เดินส่ายหัวกลับขึ้นตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามวาระครบรอบ 8 ปีรัฐประหาร วันที่ 22 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ได้แต่นิ่ง

โฆษก รบ.อ้างเอกชนออกเงิน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การจัดงานเสวนา “ถามมา ตอบไปฯ” ไม่ได้ใช้งบประมาณจากภาครัฐ จัดโดยความร่วมมือของสมาคมนิสิตเก่าวิศวกรรมศาสตร์ สมาคมนิสิตเก่าคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี สมาคมนิสิตเก่าเศรษฐศาสตร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คือ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย มีการสนับสนุนงบประมาณจากบริษัทในเครือกลุ่ม ปตท. และภาคเอกชน ยืนยันไม่มีการใช้งบประมาณภาครัฐแม้แต่นิดเดียว การที่นายกฯ รองนายกฯ และรัฐมนตรี เข้าร่วมงานเสวนาฯ เพราะมีเจตนาที่ดี เห็นประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับฟังในเวทีนี้

“นิโรธ” ฉุนสะกิดปมรัฐประหาร

นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตามที่มีผู้โยงเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. กับการทำรัฐประหาร เพื่อปลุกกระแสว่า ไม่เข้าใจว่าสองเรื่องนี้เกี่ยวข้องอะไรกัน หรือนักการเมืองบางคน บางพรรค ไม่รู้วิธีรณรงค์หาเสียงเพิ่มคะแนนนิยมให้ตัวเองอย่างไร จึงใช้สูตรสำเร็จวิชามารการเมืองน้ำเน่า มุ่งโจมตีดิสเครดิตพุ่งเป้าทำลายนายกฯ ทั้งทางตรงและทางอ้อม แบบตีวัวกระทบคราด ใช้ทุกทางคิดว่าคงสามารถเพิ่มคะแนนเสียงได้ ทั้งที่นายกฯตอบไปหลายครั้งแล้วว่าไม่อยากทำ แต่ก็ตัดสินใจเสี่ยงทำทั้งที่ไม่รู้เลยว่าสิ่งที่จะได้รับจากสังคมจะเป็นดอกไม้หรือก้อนอิฐ อย่าสักแต่เล่นการเมืองโดยการใช้การทำลายล้างเพื่อก้าวขึ้นสู่อำนาจ

“ปุ้ม” ชูจุดยืนไม่สังฆกรรม “ตู่”

ด้านนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า เกือบลาออกจากพรรคสร้างอนาคตไทย เป็นผลพวงจากการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค มีการถกเถียงจุดยืนเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จึงให้ความเห็นว่าหากพรรคได้รับคะแนนเสียงเพียงพอได้ ส.ส. 25 ที่นั่งตามกำหนดที่สามารถเสนอชื่อผู้เป็นแคนดิแดตนายกฯได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เสนอชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ ตามที่เคยเสนอต่อประชาชน แต่มี กก.บห.คนหนึ่งบอกข้อเสนอตนเป็น “ปาหี่” ซึ่งรับไม่ได้เพราะเท่ากับหักหลังประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรค ให้นายสมคิดเป็นนายกฯ อย่างน้อยในรอบแรกของการซาวเสียงในสภาฯพรรคควรแสดงจุดยืนที่มุ่งมั่นตามที่ประชาชนต้องการ

ปฏิเสธไม่มีดีลลับกับกองทัพ

นายสุรนันทน์กล่าวว่า เคยร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ ท่านเป็นคนเก่ง มีความตั้งใจดี แต่หนทางขึ้นสู่อำนาจมาจากการรัฐประหาร ผิดหลักการอุดม การณ์ของตน ที่เลวร้ายกว่าคือการถือครองอำนาจที่ยาวนานไม่คืนอำนาจให้กับประชาชนตามวิถีประชาธิปไตย จนตกอยู่ในวังวนอำนาจนิยม นำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติในทุกมิติ ถ้าพรรคยังไปร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์อีก ก็ร่วมสังฆกรรมด้วยไม่ได้ ดีที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ที่นับเป็นเพื่อนคนหนึ่งมานั่งเคลียร์ใจรับฟังมุมมอง ยืนยันว่าจะสนับสนุนนายสมคิดเป็นนายกฯ จะไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ และไม่เข้าร่วมรัฐบาลที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีก และพร้อมเป็นฝ่ายค้านถ้า พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ยืนยันนายอุตตมไม่มีข้อตกลงใดๆในทางลับกับฝ่ายทหารในการตั้งพรรค

ภท.ขอแลนด์สไลด์ที่ศรีสะเกษ

ที่โรงแรมลักษ์ลดา จ.ศรีสะเกษ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการพรรคภูมิใจไทยสัญจร มีรัฐมนตรี กรรมการบริหาร ส.ส. และสมาชิกพรรค รวมถึงนายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ นายจาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย รวมถึงนายปวีณ แซ่จึง อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ สามีนางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมและขึ้นเวทีแนะนำตัว นายศักดิ์สยามกล่าวว่า พรรคพร้อมเสนอตัวเป็นตัวแทนพี่น้อง จ.ศรีสะเกษทั้งจังหวัด พวกเราพูดแล้วทำ ส่วน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล ขณะนี้เป็นรองโฆษกรัฐบาล แต่ในอนาคตหากเราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ไม่รู้ว่าจะเลือกเป็นโฆษกรัฐบาลหรือเป็นรัฐมนตรี ส่วนนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ ต้องเป็นรัฐมนตรีเลย แต่มีข้อแม้ว่า ส.ส.ศรีสะเกษต้องกวาดมาให้หมด

“สมชัย” หวัง 2 กฎหมายลูกแท้ง

ขณะที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย (สร.) กรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป.รัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวว่า การแก้ไขกติกาเลือกตั้งทั้งบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อหาร 100 ที่เอื้อประโยชน์พรรคใหญ่ เช่น พรรคเพื่อไทย (พท.) ขณะที่พรรคขนาดกลางและเล็กจะเสียเปรียบ ไม่ทำให้เกิดความยุติธรรมกับทุกพรรค แต่สร้างทางเลือกให้พรรคใหญ่เข้มแข็ง โดยเฉพาะ พท.จะได้ ส.ส.แบบเขตและบัญชีรายชื่อมากตามไปด้วย มีโอกาสเกิดปรากฏการณ์เพื่อไทยแลนด์สไลด์ พรรคเดียวได้ ส.ส.เกินครึ่งของสภาฯ เลยยังต้องจับตาการประชุมรัฐสภา โดยเฉพาะสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่อาจถูกตีตกเฉพาะมาตราที่เกี่ยวข้องหรือทั้งฉบับ ขณะนี้ ส.ว.ยังเสียงแตก เพราะ “ลุง 2 คน” ส่งสัญญาณไม่ชัดเจน ไม่คุยกันให้ดี ต้องรอดูอีกที “2 ลุง” จะคุยกันสำเร็จหรือไม่

“วันชัย” เย้ย พท.ฝันลมๆแล้งๆ

วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “เพื่อไทยแลนด์สไลด์ แล้วไง...”ถึงขนาดเรียกคนเสื้อแดงกลับ บอกว่าถ้าเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้เกิน 250 เสียง จะเป็นรัฐบาลใครจะขวางได้ ก็พูดเอามันไปเรื่อยปลุกใจตัวเองและพรรคพวกให้ดูคึกคัก ตามประสาคนละอ่อนทางการเมืองไม่เข้าใจในรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะมาตรา 272 ที่ไม่ต้องการให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดยึดบ้านเมืองมีอำนาจรัฐฝ่ายเดียว จะแลนด์สไลด์ขนาดไหนก็เป็นรัฐบาลโดยลำพังไม่ได้ คุยโม้คุยโตพอได้แต่จะเป็นจริงคงไม่ มาตรา 272 ต้องการให้ฝ่ายรัฐประหารกับฝ่ายเลือกตั้งประนอมอำนาจกันในระยะเปลี่ยนผ่าน ไม่ให้สวิงไปข้างใดมากนัก ฝ่ายรัฐประหารจะลงจากอำนาจต้องค่อยเป็นค่อยไปด้วยความปลอดภัย ใครจะเป็นหรือไม่เป็นรัฐบาลไม่ได้เกี่ยวกับแลนด์สไลด์

ชี้ต้องใช้วิธีประนอมอำนาจ

นายวันชัยระบุว่า สมมติเพื่อไทยได้เกิน 250 เสียง รวมกับพรรคอื่นได้ถึง 350 เสียง ก็ยังเป็นรัฐบาลไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดคนจะเป็นนายกฯได้ต้องมี 376 เสียง ถ้าพลังประชารัฐโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มี 150 เสียง รวม ส.ว. 250 เสียง เป็น 400 เสียง ก็ตั้งรัฐบาลได้ แต่อยู่ต่อไม่ได้ ส่วนเพื่อไทยสามารถอยู่ได้ แต่ไม่สามารถเป็นรัฐบาลได้ พูดง่ายๆว่าฝ่ายหนึ่งเป็นได้แต่อยู่ไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งเข้ามาเป็นรัฐบาลไม่ได้แต่อยู่ได้ รัฐธรรมนูญล็อกไว้อย่างนี้ ถ้าแต่ละฝ่ายแข็งขืนกันก็ตั้งรัฐบาลไม่ได้ จึงมองว่าต้องประนอมอำนาจกัน ให้เดินไปด้วยกันแบบสมดุล ไม่สวิงอำนาจไปสุดขั้ว ใครจะได้เป็นรัฐบาลไม่เกี่ยวกับแลนด์สไลด์ หรือเรียกคนเสื้อแดงกลับบ้าน อยู่ที่คนคนนั้นจะสร้างความสมดุล และประนอมอำนาจกับทุกฝ่ายได้หรือไม่ต่างหาก

“วิษณุ” กำปั้นทุบดินชี้ ก.ม.ดีไร้โกง

ที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ “สังคมยุคใหม่ กฎหมายทันสมัย ระบบราชการทันโลก แก้คอร์รัปชันทันที” ในการประชุมเสวนา “ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ว่า โซเชียลมีเดียเจริญก้าวหน้าไปมาก แต่กฎหมายยังตามไม่ทัน วันนี้ยังไม่ได้แก้ ทั้งหมดนำมาสู่การคอร์รัปชัน ปล่อยให้อยู่ในสภาพนี้ต่อไปไม่ได้ประเทศจะล่มจมต้องแก้ไข เรามีกระบวนการปฏิรูปกฎหมาย โดยนายกฯสั่งการว่าการปฏิรูปกฎหมายที่มีดีอยู่แต่ช้า ขอให้ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเร่งด่วน เหมือนทางด่วนเหมือนมอเตอร์เวย์ รัฐบาลนี้มาปี 62 เดือนหน้าครบ 3 ปี เข็นกฎหมายประกาศใช้แล้ว 45 ฉบับ ทูลเกล้าฯอยู่อีก 7 ฉบับ หลายฉบับเป็นตัวอย่างกฎหมายดีๆ เช่น ร่าง พ.ร.บ.การปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ประเทศไทยย่อมดีกว่านี้แน่ เพราะมีผู้ไม่ยอมแพ้แม้ถูกหยัน ถ้ากฎหมายดี ระบบราชการดี ไม่มีคอร์รัปชัน

“บิ๊กป้อม” มีนัดพบหมอตา

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงการไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. วันที่ 22 พ.ค.ว่า ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งกี่โมง เพราะมีนัดไปผ่าตา ตามองไม่เห็น เมื่อถามว่าจะไปให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ไม่ไปหรอก เป็นเรื่องของเขา”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตรมีนัดพบจักษุแพทย์วันที่ 21 พ.ค.นี้ เพราะมีอาการเจ็บตา อาจทำให้ไม่ได้ไปลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. ในวันที่ 22 พ.ค. ที่อาจส่งผลต่อการลงสมัครหรือการดำรงตำแหน่งต่างๆในอนาคตได้ ล่าสุดมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตรเลื่อนไปพบจักษุแพทย์เร็วขึ้น เพื่อให้หายทันไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่หากอาการไม่ดีขึ้นจะแจ้ง กกต.ถึงเหตุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ

กทม.จัด จนท. 1.7 แสนรับมือ

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก. ในวันที่ 22 พ.ค. หลังจากเปิดรับสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. สรุปมีผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ทั้งสิ้น 31 คน อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิสรณ์ นายสกลธี ภัททิยกุล นายสุชัชวีย์ สุวรรณสวัสดิ์ น.ต.ศิธา ทิวารี น.ส.รสนา โตสิตระกูล เป็นต้น ขณะที่ กทม.เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่และลูกจ้างในสังกัด กทม. ไว้รวมกว่า 170,000 คน มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการการเลือกตั้งฯ ที่อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการ กทม. (ดินแดง) เป็นสถานที่รายงานผลอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าจะรู้ผลภายในเวลา 23.00-24.00 น. สำหรับจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ข้อมูลถึงวันที่ 22 พ.ค. มีทั้งสิ้น 4,374,131 คน การลงคะแนนจะใช้บัตร 2 ใบ เป็นบัตรลงคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 1 ใบ และลงคะแนนเลือก ส.ก. 1 ใบ มีสีแตกต่างกัน

ตั้งเป้าคนออกมาใช้สิทธิ 70%

นายสมชัย สุรกาญจน์กุล ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร (กกต.กทม.) กล่าวว่า ตั้งเป้าจะมีประชาชนจะออกมาใช้สิทธิประมาณร้อยละ 70 เพราะผู้สมัครลงพื้นที่หาเสียงหนัก สื่อก็คอยประชาสัมพันธ์ตลอดเวลา อีกทั้งห่างหายจากการเลือกตั้งมานาน เชื่อว่าประชาชนจะตื่นตัวมาลงคะแนน สำหรับผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ อ้างอิงจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา จะทราบผลประมาณเที่ยงคืน แต่ผลอย่างเป็นทางการจะประกาศในวันรุ่งขึ้น ขอเน้นย้ำการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในช่วงโค้งสุดท้าย ให้รายงานอย่างเป็นกลาง ไม่ชี้นำ ส่วนข้อกังวลถึงการรายงานข่าวจะผิดข้อกฎหมายหรือไม่ ขอให้ กกต.กลางเป็นผู้ตัดสิน ขอให้ประชาชนทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าถ่ายรูปบัตรหรือเซลฟี่ เพราะจะเป็นการผิดกฎหมาย

แจงนายกฯออกไปใช้สิทธิได้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯและ รมว.ต่างประเทศ ตรวจพบติดเชื้อโควิด แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะมีการปฏิบัติงานร่วมกับนายดอน แต่ไม่เป็นเหตุให้ต้องกักตัวตามแนวทางที่ ศบค.กำหนด เพราะนายกฯและนายดอนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แต่ต้องดูแลตัวเอง และยังสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภารกิจที่นายกฯร่วมงานกับนายดอน คือการให้การต้อนรับนายทาดาชิ มาเอดะ ผู้ว่าการธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น ที่เข้าเยี่ยมคารวะที่ทำเนียบรัฐบาล

พัทยาพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์

ขณะที่เรือตรีปราโมทย์ ทับทิม ปลัดเมืองพัทยา ในฐานะ ผอ.การเลือกตั้งประจำเมืองพัทยา กล่าวถึงความพร้อมในการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยาว่า พร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ มีการวางแผนประชุมซักซ้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ ร่วมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ดูแลหน่วยเลือกตั้ง ทั้งหมดประมาณ 2,500 คน ยังไม่รวมเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่ กกต. ส่วนกลาง ที่จะเข้ามาสังเกตการณ์ โดย กกต.กลางให้ความสำคัญและเป็นห่วงในเรื่องของ “บัตรเขย่ง” คือจำนวนผลนับคะแนน ไม่ตรงกับผู้มาลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้ง ได้กำชับส่วนราชการให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ไม่ให้ผิดพลาดโดยเด็ดขาด ส่วนผลการนับคะแนน คาดการณ์ว่าจะเสร็จประมาณเที่ยงคืน

สำหรับผู้สมัครนายกเมืองพัทยามี 4 คน คือ นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ จากกลุ่มเรารักพัทยา เบอร์ 1 นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ ผู้สมัครอิสระ เบอร์ 2 นายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย จากทีมคณะก้าวหน้าพัทยา เบอร์ 3 และนายสินธ์ไชย วัฒนศาสตร์สาธร จากกลุ่มพัทยาร่วมใจ เบอร์ 4

แจ้งเตือนหาเสียงผ่านโซเชียล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศกำหนดให้มีการเลือกตั้ง ส.ก. ผู้ว่าฯ กทม. สมาชิกสภาเมืองพัทยา และนายก เมืองพัทยา ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ทั้งนี้ ผู้สมัคร พรรคการเมือง หรือผู้ใด สามารถใช้วิธีการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็ก ทรอนิกส์ได้ จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง 1 วัน คือวันเสาร์ที่ 21 พ.ค. โดยใช้วิธีการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยตนเอง หรือมอบ หรือว่าจ้างบุคคล หรือนิติบุคคลดำเนินการแทนได้ด้วยวิธีการ เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย ยูทูบ แอปพลิเคชัน อีเมล เอสเอ็มเอส และสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นทุกประเภท

กกต.รอเปิดหีบซ่อมราชบุรี

ที่หอประชุมอำเภอโพธาราม จ.ราชบุรี นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อม ผอ.การเลือกตั้งประจำจังหวัดราชบุรี ตรวจเยี่ยมการรับมอบหีบบัตรให้กับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ซ่อม ส.ส.ราชบุรี เขต 3 โดยมี จนท.ประจำหน่วยเดินทางมารับหีบบัตรและอุปกรณ์การเลือกตั้ง บรรยากาศเป็นไปด้วยความราบรื่น สำหรับเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ อ.โพธาราม รวม 17 ตำบล และ อ.จอมบึง รวม 8 ตำบล รวม 140 หน่วยเลือกตั้ง มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรวม 138,262 คน แบ่งเป็น อ.โพธาราม 87,230 คน อ.จอมบึง 51,032 คน ประชาชนออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในวันเสาร์ที่ 21 พ.ค. เวลา 08.00-17.00 น.

“ชัชชาติ” ลุย 4 ย่าน ศก.ปิดท้าย

ช่วงค่ำที่สยามสแควร์ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 8 ลงพื้นที่หาเสียงคืนสุดท้ายย่านการค้าสยามสแควร์ ถนนสีลม ถนนเจริญกรุง ย่านวัดมังกร และถนนข้าวสาร ย่านบางลำพู ใช้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที นายชัชชาติแสดงความมั่นใจว่าการลงพื้นที่หาเสียงตลอด 2 ปี มาถูกทาง และเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จ โค้งสุดท้าย จึงเน้นการลงพื้นที่หาเสียงแบบดาวกระจาย ส่งคนไปตามพื้นที่ต่างๆใน 4 ย่านเศรษฐกิจสำคัญทั่วกรุงเทพฯ เช่น สยาม สีลม เยาวราช ข้าวสาร เราไม่มีเวทีปราศรัยใหญ่ อยากฟัง อยากพูดคุย อยากชนหมัด อยากถ่ายรูปเป็นความทรงจำ อยากส่งกำลังใจให้กัน อยากตอบคำถามที่ผู้คนยังสงสัย ก่อนพี่น้องชาวกรุงเทพฯจะตัดสินใจไปลงคะแนน มาร่วมกันทำกรุงเทพฯให้น่าอยู่สำหรับพวกเราทุกคน

“อุ๊งอิ๊ง” อ้อนคนกรุงเลือก ส.ก.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยเผยแพร่คลิปวิดีโอความยาว 1 นาทีครึ่งของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เนื้อหาระบุว่า อยากใช้เพื่อไทย เลือกเพื่อไทยให้ชนะขาด ช่วงที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่ไปพบประชาชนทั้งในต่างจังหวัดและใน กทม. พูดปัญหาเดียวกัน ปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ข้าวของแพงขึ้นเยอะ ขออาสานำพาพี่น้องออกจากความทุกข์ยาก ยากจน ในอดีตพรรคเคยทำให้เห็นแล้วว่าการทำให้พี่น้องกินดีอยู่ดี มีชีวิตที่ดีเป็นอย่างไร ถ้าอยากให้พรรคเพื่อไทยมาช่วยแก้ปัญหาอีก มาเลือก ส.ก.พรรคเพื่อไทย

“สุชัชวีร์” เปิดเวทีนัดส่งท้าย

ด้านนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 4 พร้อม น.ส.สุดา สุวิชาโสภณ ผู้สมัคร ส.ก.เขตสาทร ลงพื้นที่ตลาดกิตติ ถนนเซ็นหลุยส์ พบปะประชาชนในโค้งสุดท้าย นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ยิ่งเดินพบปะพี่น้องคนกรุงเทพฯ ยิ่งมั่นใจในเสียงตอบรับที่ดีวันดีคืน มาให้กำลังใจมาขอถ่ายรูป มาจับมือทักทาย ที่สำคัญคือการรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ เช่น ปัญหาน้ำท่วม มันถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนอยากเห็น กทม.เป็นเมืองที่มีสวัสดิการทันสมัย ต้นแบบของอาเซียน จากนั้นช่วงเย็นมีการจัดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)

ก้าวไกลฉะยุทธศาสตร์ซ่อนปม

ที่มิวเซียมสยาม (Museum Siam) พรรคก้าวไกลจัดเวทีปราศรัยใหญ่เวทีสุดท้าย ช่วยนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคหาเสียง มีประชาชนเข้ารับฟังคึกคัก นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล และ ผอ.เลือกตั้ง กล่าวปราศรัยว่า ยิ่งใกล้ช่วงเลือกตั้งยิ่งได้ยินคำว่าต้องเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ ฝ่ายนั้นก็ยุทธศาสตร์ ฝ่ายนี้ก็ยุทธศาสตร์ จากที่เคยอยู่ฝั่งตรงข้ามวันหนึ่งกลับมาพูดจาภาษาเดียวกัน บอกว่าไม่เลือกเราเขามาแน่ วันนี้ยุทธศาสตร์ของ กทม. ต้องวางอยู่บนพื้นฐานที่ตอบโจทย์ปัญหา และความต้องการและต้องตอบโจทย์ปัญหาเรื้อรังของคน กทม. ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ และ ส.ก.ต้องเป็นผู้ที่เข้ามาบริหารจัดการเปลี่ยนแนวทาง และเปลี่ยนระบบการบริหารให้โปร่งใส ที่ผ่านมาเราเคยมีผู้ว่าฯ กทม.ที่บอกว่าตัวเองอิสระ แต่ต้องยอมรับ กลไกที่เป็นจริงว่า ยากลำบาก เหมือนไปตายเอาดาบหน้า ไม่รู้ว่าต้องไปทำงานกับ ส.ก.คนไหน พรรคอะไร สุดท้ายก็ไปบีบต่อรองเอาผลประโยชน์กัน เราไม่อยากให้เสี่ยงกับกลไกการทำงานที่เป็นจริง

นศ.ร้อง ปธ.ศาลฯเลิกขังม็อบ

เมื่อเวลา 09.00 น.ที่หน้าศาลฎีกา นักศึกษาและนักกิจกรรม กลุ่มมังกรปฏิวัติ พรรคโดมปฏิวัติ และกลุ่มเคียงคู่โดม ยื่นหนังสือถึง น.ส.ปิยกุล บุญเพิ่ม ประธานศาลฎีกา เรื่องการใช้ดุลพินิจของศาลในการปล่อยตัวชั่วคราวนักกิจกรรมที่เคลื่อนไหวทางการเมือง เนื่องจากมีการยื่นประกันตัวผู้ถูกคุมขังอีกครั้ง มีนายธนากร พรวชิราภา หัวหน้าส่วนกฎหมาย และระเบียบ สำนักงานประธานศาลฎีกา เป็นตัวแทนรับหนังสือ ตัวแทนกลุ่มให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้หนังสือฉบับนี้ส่งไปถึงศาลอื่นๆ ไปช่วยในการยื่นประกันตัวให้กับเพื่อนๆที่เป็นนักโทษทางการเมืองอยู่ในตอนนี้อยากให้ศาลฎีกาเป็นหนึ่งเสาหลักช่วยยืนหยัดคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ยึดหลักรัฐธรรมนูญ และกระบวนการยุติธรรมตามระบอบประชาธิปไตย ฝากกำลังใจถึงเพื่อนผู้ต้องขังในเรือนจำ รวมทั้ง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักเคลื่อนไหวอิสระ ที่อดอาหารในเรือนจำเป็นเวลากว่า 30 วัน

“สมยศ” นำคาร์ม็อบ ครย.112

ต่อมาเวลา 13.25 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คณะราษฎรยกเลิก ม.112 (ครย.112) นำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตผู้ถูกคำพิพากษาจำคุกในคดีมาตรา 112 และนายเจษฏา ศรีปลั่ง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี จัดชุมนุมแบบคาร์ม็อบครั้งที่ 2 เคลื่อนขบวนไปยังหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก และเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน เรียกร้องสิทธิประกันตัวแนวร่วมม็อบราษฎรที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ประกอบด้วย ชาย-หญิงรวม 11 คน เป็นผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันมาตรา 112 จำนวน 5 คน ผู้ต้องหาคดีปาระเบิดที่ ร.1 ทม.รอ. 4 คน ต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นสั่งจำคุก 1 คน ศาลชั้นต้นสั่งจำคุกผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 1 คน

ลั่น ก.ม.ล้าหลังขังผู้บริสุทธิ์

กระทั่งเวลา 15.00 น. ขบวนคาร์ม็อบที่ส่วนใหญ่ เป็นรถจักรยานยนต์ เคลื่อนตัวไปถึงหน้าศาลอาญารัชดา นำป้ายผ้า “ปล่อยนักโทษการเมืองยกเลิก 112” ขึ้นไปแขวนบนสะพานลอยหน้าศาลอาญา แล้วพากันระดมบีบแตร และโปรยใบปลิวเรียกร้องความเป็นธรรมลงมาจากสะพานลอย จากนั้นนายสมยศ กับนายณัชปกร นามเมือง แกนนำกลุ่มไอลอว์ เข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องผ่านตัวแทนถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ที่ประตู 8 ศาลอาญา จากนั้นเปิดแถลงข่าวเพื่อยืนยันว่าผู้ถูกคุมขังทั้ง 11 คน ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ จะขอรับเงื่อนไขติดกำไลอีเอ็มติดที่ข้อเท้า ก่อนชักชวนมวลชนชูสามนิ้วพร้อมตะโกนว่า ปล่อยเพื่อนเรา ยกเลิก 112 แล้วพากันเคลื่อนขบวนไปจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ให้กำลังใจ และนำจดหมายที่มีผู้เขียนถึงไปมอบผู้ถูกคุมขัง ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายสมยศกล่าวว่า ม.112 เป็นกฎหมายล้าหลัง ปิดกั้นเสรีภาพ และการมีส่วนร่วมของประชาชน เยาวชนหญิงกลุ่มทะลุวังอายุเพียง 20 ปี แค่ทำโพลสำรวจความเห็นเกี่ยวกับสถาบัน กลับถูกขังไม่ได้รับสิทธิประกันตัว

“พิธา” ยื่นประกัน “ทานตะวัน”

ที่ศาลอาญา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้ายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาคดีดูหมิ่นสถาบันฯ ตาม ป.อาญามาตรา 112 รวมทั้งผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และอื่นๆ โดยใช้ตำแหน่ง ส.ส.ขอประกันตัว จากที่ก่อนหน้านี้ศาลยกคำร้อง โดยอ้างเหตุไม่ปรากฏหลักฐานเงินเดือน ส.ส.ให้พิจารณา นายพิธากล่าวว่า ครั้งนี้ยื่นประกันตัวเป็นครั้งที่ 2 เป็นห่วงสุขภาพ น.ส. ทานตะวันที่อดอาหาร 30 วันแล้ว ยื่นประกันไม่สำเร็จในครั้งแรก ทราบจากสื่อมวลชนว่ามีปัญหาเอกสาร ไม่เเน่ใจว่าเป็นเรื่องเเค่นี้จริงหรือไม่ เพราะลำดับความสำคัญ เรื่องนิติรัฐนิติธรรมตามหลักสากล สิทธิผู้ต้องหา สิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับวิกฤติสุขภาพ ควรลำดับมาก่อนเรื่องเอกสาร คิดว่าคงมีข่าวดียื่นประกันสำเร็จ จะได้พา น.ส.ทานตะวันกลับบ้านไปรักษาตัว เตรียมตัวศึกษาต่อ เเละสู้คดีอย่างตรงไปตรงมา ครั้งนี้เป็นการฝากขังครั้งที่ 7 มองว่าการฝากขังต้องมีลิมิต ขณะเดียวกันจะทำหน้าที่แก้ไขกฎหมายสิทธิมนุษยชนทั้ง 5 ฉบับ รวมถึง ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯด้วย ยื่นสภาฯนานแล้ว ฝ่ายกฎหมายและ ส.ส.พรรค คอยติดตามอยู่

ฝากขัง “ทานตะวัน” อยู่คุกต่อ

ช่วงเย็น ศาลอาญาอ่านคำสั่งกรณีพนักงานสอบสวนยื่นขอฝากขัง น.ส.ทานตะวัน ครั้งสุดท้ายว่า พิเคราะห์แล้ว พนักงานอัยการผู้ร้อง เพิ่งได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ผู้ร้องไม่อาจพิจารณาสั่งฟ้องได้ทัน ประกอบกับคดีนี้เป็นความผิดตาม ป.อาญามาตรา 112 เห็นควรอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาครั้งที่ 8 เป็นเวลา 7 วัน นับแต่วันที่ 23-29 พ.ค. แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวตาม ป.อาญามาตรา 106 ในส่วนที่นายพิธายื่นขอปล่อย น.ส.ทานตะวันที่เหลือเวลาขังอีก 7 วันนั้น ศาลนัดไต่สวนคำร้องวันที่ 26 พ.ค.เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหากอัยการพิจารณาสำนวนแล้วยื่นฟ้อง ก็เท่ากับน.ส.ทานตะวันจะกลายเป็นจำเลยในชั้นพิจารณาคดีในชั้นศาล ไม่ใช่ผู้ต้องหาในชั้นฝากขังอีกต่อไป

ราชทัณฑ์ยันอดข้าวยังไม่ทรุด

ด้านนายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณีเพจ Friends Talk นำเสนอข้อมูลว่า น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ที่ถูกคุมขังอยู่ทัณฑสถานหญิงกลาง มีปัญหาสุขภาพร่างกายอยู่ในจุดวิกฤติ มีอาการวูบวันละ 10 รอบ มีเลือดออกตามไรฟัน จากการเข้าตรวจสุขภาพ น.ส.ทานตะวัน โดยพยาบาลวิชาชีพ สถานพยาบาลประจำทัณฑสถานหญิงกลาง วันที่ 20 พ.ค. พบว่าสุขภาพเบื้องต้นรู้สึกตัวดี ช่วยเหลือตัวเองได้ดี สัญญาณชีพ อุณหภูมิร่างกาย ความดันโลหิต อัตราการหายใจ ค่าออกซิเจนในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ ช่วงระหว่างวันดื่มนมโอวัลติน 2 กล่อง ชานม 1 แก้ว น้ำเปล่า 1 ขวด และแบรนด์วีต้าเบอร์รี 1 ขวด อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย และปฏิบัติภารกิจส่วนตัวได้ตามปกติ ไม่ได้เจ็บป่วยขั้นวิกฤติแต่อย่างใด

ผลเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. 2565