• จับตา พี่โทนี่ "ทักษิณ" ช่วงนี้เคลื่อนไหวถี่ จริงไหม? อยากกลับบ้านมาช่วยชาติจริงๆ หรือเป็นเพราะ "แผนรีแบรนด์ดิ้ง" จังหวะ "หน้าต่างแห่งโอกาส" มันเปิด
  • เมื่อม็อบ ชูรูป "ทักษิณ-นายกฯในดวงใจ" ของกลุ่มคนเสื้อแดง นำโดย "เต้น" ณัฐวุฒิ ปลุกม็อบ ทำท่าจะคืนชีพ จะทำได้จริงไหม 
  • ชี้ชัด ตราบใดม็อบยังอิงอยู่กับขั้วการเมือง มันไม่มีพลังมากพอ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เว้น มีเรื่องอื่นมาผสม เช่น แก้โควิด-19, จัดหาวัคซีนไม่ได้ ไปจนถึงปากท้องเศรษฐกิจประชาชนปะทุ ร่วมฯ



Tony Woodsome หรือ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงชื่อนี้ ช่วงนี้ดู "ฮอต" มากขึ้น เมื่อมาเป็นขาประจำให้สัมภาษณ์กับกลุ่ม CARE คิด เคลื่อน ไทย มาหลายครั้ง ทั้งเรื่องถล่มพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วยวาระ "เชื่อพี่เถอะน้อง" ปมใส่ชุด PPE ลงพื้นที่ รพ.ธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อให้เห็นสถานการณ์จริงของวิกฤติโควิด-19 หรือแนะนำ หารือกับผู้นำต่างประเทศ แลกวัคซีนโควิด แก้วัคซีนขาดแคลน 

...

ต่อมาก็ได้รับการขานรับจาก พลพรรคเพื่อไทย ช่วยกันออกมากระทุ้งรัฐบาล "บิ๊กตู่" ซึ่งกำลังอยู่ในอาการเมาหมัด สาละวนกับการแก้ปัญหาโควิด-19 ว่าให้ทำตามคำแนะนำของ "พี่โทนี่" เถอะ

ไม่รวมกรณี นายทักษิณ ได้ออกมาขออวดคลิปอยู่กับครอบครัวใหญ่ ลูก-หลาน อยู่พร้อมหน้า ฉลองวันเกิดครบ 72 ปี ที่มีภาพอันอบอุ่น รวมไปถึงกรณีที่ทั้ง พานทองแท้-แพทองธาร ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาวของนายใหญ่ โพสต์เฟซฯ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่งสัญญาณอยากให้บิดาได้กลับบ้านมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมกับครอบครัวในเร็ววัน 

ล่าสุด ยังให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐ ยืนยัน "ยินดีทำให้ประเทศและประชาชน เพราะผมห่วงใยประชาชนและรักประเทศไทย วันนี้อยากกลับมาช่วยประเทศชาติจริงๆ ประเทศเป็นแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพลิกฟื้น เพราะเจอวิกฤติและกำลังตกกระแสของการพัฒนาโลก ฉะนั้น จะฉุดดึงขึ้นมาได้ต้องใช้แรงมหาศาล"

คอการเมืองหลายคน อาจสงสัย จะมีนัยทางการเมืองอะไรหรือไม่? ยิ่งกรณี "พี่โทนี่" บอก จะกลับไทย และจะออกประตูหน้าสนามบินสุวรรณภูมิด้วย 

"รีแบรนด์ดิ้งอนาคต" ด้วย นั่นเพราะ "หน้าต่างแห่งโอกาส" มันเปิด

รศ.ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์สาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่แสดงออกว่า อยากกลับบ้าน กลับประเทศไทยในช่วงนี้ ว่า นอกจากที่เคยบอกว่า คุณทักษิณ ต้องการรีแบรนด์ดิ้งพรรคเพื่อไทย ตอนนี้ยิ่งชัดเจนว่า คุณทักษิณ ต้องการ "รีแบรนด์ดิ้งอนาคต" ด้วย นั่นเพราะ "หน้าต่างแห่งโอกาส" มันเปิดแล้ว จากเหตุรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บริหารจัดการโควิด-19 ล้มเหลว ประกอบกับพรรคเพื่อไทยเองก็ร่วมดำเนินการด้วย

ต้องยอมรับว่า ช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คุณทักษิณ ไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไรนัก ไม่ค่อยได้แสดงความเห็นสักเท่าไร แต่พอมาเกิดโควิด-19 ที่รัฐบาลประยุทธ์แสดงให้เห็นชัดถึงประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา ก็อย่างที่บอก "หน้าต่างแห่งโอกาสมันจึงเปิดให้" สำหรับคุณทักษิณ ที่ต้องการกลับประเทศไทย ทำให้คุณทักษิณ เดินเกมเต็มที่ นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมเคลื่อนไหวถี่ในช่วงที่ผ่านมา 

ฟันธง! กลับไทยคงไม่ง่าย แต่ก็ต้องดูกันต่อไป

ถามว่า จะทำสำเร็จไหม? บอกเลยนะครับว่า "คงไม่ง่าย" ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นยุทธศาสตร์ของคุณทักษิณอยู่แล้ว จะกลับไทย หรือแม้แต่จะกลับเข้าสู่การเมืองอีกครั้ง เหตุจะกลับมาก็ต้องมีการนิรโทษกรรมเสียก่อน แล้วตัวคุณทักษิณเองก็มีคดีความอยู่เป็นจำนวนมาก จึงต้องดูกันต่อไป ส่วนตัวเห็นว่า คุณทักษิณก็ประกาศแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว

กลุ่ม นปช.คนเสื้อแดง "เต้น" ณัฐวุฒิ กลับมาเดินหน้าล้มรัฐบาลประยุทธ์

กรณี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ที่ออกมาเคลื่อนไหว อย่างที่บอกว่า มันไม่ง่าย เพราะมีเงื่อนไข แต่ที่ออกมาเพราะเห็นว่า มีโอกาสสอดคล้องกันในการสร้างแนวร่วมให้มากขึ้น ทั้งกลุ่ม "คาร์ม็อบ" ของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือกลุ่มธรรมศาสตร์แนวร่วมและการชุมนุม ที่เคลื่อนไหวยุทธศาสตร์หลอมรวมกันให้เกิดพลัง

ชี้ ม็อบ นปช.นี้ ยังไม่มีพลังทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลง

ก่อนหน้านี้ นายณัฐวุฒิดูจะสงวนท่าที ไม่ออกมาเคลื่อนไหว แต่ตอนนี้หน้าต่างโอกาสมันเปิด เพราะโควิด-19 จึงออกมาในนามกลุ่มคนเสื้อแดง เป็นจังหวะในการเคลื่อนไหว แต่ต้องบอกว่า การเคลื่อนไหวที่มีขั้วอุดมการณ์อยู่ ทำให้การเคลื่อนไหวนี้ยังไม่มีพลังให้เกิดความเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อเปลี่ยนแปลง เนื่องจากสังคมไทยตอนนี้ก็มีความขัดแย้งทางโครงสร้างอยู่แล้ว

คนที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ หรือกลุ่มคนที่ไม่ชอบทักษิณ แต่เมื่อเห็นการทำงานแก้โควิด-19 ของรัฐบาลบิ๊กตู่แล้ว แม้ไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงของนายณัฐวุฒิ แต่ก็ไม่ออกมาคัดค้านเท่านั้นเอง เมื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองแล้วจึงยังไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะยังมีพลังไม่มากพอ

ชี้ช่อง หากจะทำได้ ยุทธศาสตร์ต้องไม่ใช่ม็อบ "อิงขั้วการเมือง" อย่างเดียว

ต้องรอดูสถานการณ์การแก้ปัญหาด้านสาธารณสุข แก้โควิด-19 การจัดสรรวัคซีน ควบคู่กับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล หากแก้ไม่ได้จนกลายเป็นรัฐบาลล้มเหลว ไม่ใช่รัฐล้มเหลวนะ เพราะประเทศไทยโครงสร้างราชการมีความเข้มแข็ง ยากไปถึงรัฐล้มเหลว นั่นถึงจะมีลุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

"สรุปว่า การเคลื่อนไหว ม็อบที่อิงแต่ขั้วการเมืองเพียงอย่างเดียว ยังไม่มีความพร้อมที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้

สถานการณ์การเมืองเดือนสิงหาคมนี้ หลายฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะร้อนแรงแน่ จากกรณีที่สารพัดม็อบพยายามใช้ประโยชน์จากกรณีรัฐบาลบิ๊กตู่แก้ปัญหาโควิด-19 ล้มเหลว โหมกระพือ งานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ต้องยอมรับว่า สภาพความนิยมลดลงไปเรื่อยๆ "จะจอดแบบไม่ต้องแจว" อย่างที่เหล่าม็อบคาดหวังหรือไม่

งานนี้ต้องอดใจรอดูกัน....


ผู้เขียน : เดชจิวยี่ 

กราฟิก : Varanya Phae-araya