เปิดหนังสือ “เกร็ดโบราณคดี ประเพณีไทย” (สำนักพิมพ์รวมสาส์น ส.พลายน้อย พิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ.2544) ที่ผมเลือกอ่านเรื่อง “จามเป็นศิลปะ” บรรยากาศเครียดๆอย่างนี้ ต้องหาเรื่องเบาๆ มาผ่อนคลายสมอง

จามคำเดียวแต่มีสามความหมาย ความหมายแรก คนชาติแขกโบราณที่มีความสัมพันธ์กับเขมรมานาน ความหมายสอง คำกริยาแสดงอาการฟันด้วยมีดใหญ่ อย่างที่เรียกว่าจามด้วยขวาน หรือจามด้วยมีดอีโต้

และความหมายที่สาม ที่อาจารย์ ส. พลายน้อย ตั้งใจเล่า อาการของปอดที่พ่นลมออกมาทางปาก

อาการที่จะจามนั้นเกิดขึ้นได้ทั้งตั้งใจ และไม่ตั้งใจ คนเป็นหวัดมักจะจามอย่างไม่ตั้งใจ และไม่อยากที่จะให้มันจาม แต่ก็เป็นเรื่องที่มันเป็นไปเอง จะบังคับหรือห้ามปรามมันไม่ได้

อาการจามมีสรรพคุณบางอย่าง เช่น ทำให้หูตาสว่าง เช่น เมื่อง่วงนอนทั้งๆที่ไม่อยากจะง่วง คนที่รู้วิธีเขาก็จะม้วนชายผ้าเช็ดหน้าให้เรียวเล็ก แล้วแยงเข้าไปในจมูก ทำให้เกิดอาการคันในรูจมูกแล้วก็จาม

ส.พลายน้อย บอกว่า เรื่องจามที่ดูเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าสังเกตจะเห็นว่า อาการจามแต่ละคนไม่เหมือนกัน ต่างก็มีศิลปะเป็นแบบเฉพาะตัว

บางคนจามเป็นเสียงฟิดๆแบบแมวจาม บางคนจามเสียงดังมาก บ้านใกล้เรือนเคียงได้ยิน บางคนจามครั้งสองครั้งก็หยุด แต่บางคนจามติดต่อกันนับได้หลายสิบครั้ง

บางคนจามตามเทศกาล สมัยหนึ่งที่พระนครศรีอยุธยา พอถึงเดือน 9 เด็กนักเรียนมักจะจามว่าฮัดเช้ย วัดเชิงมีงิ้ว ที่จามอย่างนี้ เพราะที่วัดพนัญเชิง จะมีงานทิ้งกระจาดและมีงิ้ว

สมัยที่หนังเรื่องฮัดชีบาบา มาฉาย คนที่เคยจามฮัดชิอยู่แล้วก็จามเป็นฮัดชีบาบา จามอย่างนี้อาจจะนับได้ว่าเป็นการจามตามเทศกาลหรือจามโฆษณา ก็น่าจะได้

ท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง เคยเขียนประวัติพระนางจามเทวีว่าตอนเล็กๆพระนางจามบ่อยๆ พอโตขึ้นมาจึงได้ชื่อว่าพระนางจามเทวี อ่านแล้วก็สนุกดี ถ้ามี พระนางไอเทวี มาเข้าคู่ น่าจะเข้าท่าไม่น้อยทีเดียว

...

หนังสือฝรั่งบางเล่ม เล่าว่าชาวป่าพวกหนึ่ง เชื่อว่า อาการที่คนจาม แสดงว่าภูตผีปีศาจกำลังเดือดร้อนอยู่ข้างใน และกำลังรีบร้อนจะออกมา

ในแอฟริกาโบราณ มีเรื่องเล่าว่า เมื่อพระราชาแห่งโมโนโปตาปา จามออกมา พวกข้าราชบริพารจะต้องเปล่งเสียงถวายพระพร ใครที่ได้ยินก็จะเปล่งเสียงอวยพรต่อๆกันไป

ในเรื่องกามนิตวาสิฏฐี พวกถักโจรที่ชอบรัดคอคน จะปล่อยนักโทษทันทีที่จามออกมา ถือว่าจามเป็นประโยชน์มากช่วยให้รอดชีวิตได้

ของไทยมีตำราการทำนาย การจามของคน และเสียงจิ้งจกทัก ตัวอย่าง “อยู่ข้างหน้าเร่งเร็วไป จะมีไชยอย่าได้ขาม จิ้งจกทักและคนจาม อยู่เบื้องหลังอย่าลีลา...”

ส่วนตำราญี่ปุ่น อาจารย์ ส.พลายน้อย เขียนคำทำนายไว้ชัดเจนว่า ถ้าจามหนึ่งครั้ง ท่านประสงค์สิ่งใด ก็จะได้ตามปรารถนา จามสองครั้ง จะได้รับข่าวสาร จามสามครั้ง อากาศจะดี

แต่ถ้าจามสี่ครั้ง ทำนายว่า ท่านจะมีผู้มาเยี่ยมเยือน คนที่มาจะให้ท่านแลบลิ้นให้ดูและจับชีพจร แสดงว่าแขกที่จะมาหานั้นเป็นหมอ

ถ้าจามถึงขั้นนี้ เป็นจามที่มีโทษก็รู้ๆกันอยู่แล้ว คนเป็นหวัดจาม ก็เท่ากับแพร่เชื้อหวัด ในบรรยากาศสยดสยองกับโควิด-19 ตอนนี้ใครจามแต่ละที คนนั่งใกล้ใจคอสั่น ถ้าจามสี่ครั้ง คงถึงขั้นขวัญหาย

อย่าตระหนกตกใจเกินไปนักเลย ฝนตกฟ้าร้องอย่างนี้ อากาศเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กินยาแก้แพ้อากาศเม็ดเดียวก็หาย...มนุษย์เราก็เท่านี้ เกิดมาตายครั้งเดียว เพียงแต่ว่าจะเร็วจะช้า.

กิเลน ประลองเชิง