“ยิ่งลักษณ์” โพสต์โวย “ประยุทธ์” ใช้ ม.44 เหนือคำพิพากษา ไม่รอคำสั่งศาลปกครองให้ถึงที่สุดรีบสั่งกรมบังคับคดีกวาดทรัพย์สินขายทอดตลาดชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าว อัดอั้นระบายหน้าชื่นอกตรมพลัดพรากครอบครัวจากประชาชนคนไทย รับไม่ได้สมบัติพ่อแม่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงถูกขายทิ้ง ขออยู่กับปัจจุบันและอนาคตไม่จมปลักอดีตที่ไร้ความสุข หยอดลืมไม่ได้คือความไว้วางใจจากประชาชน ด้าน “บิ๊กตู่” เมินป้องหูไม่ได้ยิน “ลุงป้อม” แค่ถาม “ทำไมถึงโดนยึดทรัพย์” ขณะที่ “เนติบริกร” ปัดไม่ต้องแจงทุกเรื่องก็ได้ใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ การเมือง สีสันเข้มข้น นอกจากมีการจัดทำปฏิทินของสองพี่น้องนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ต่างแดนแจกจ่ายแล้ว ล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังเคลื่อนไหวโพสต์เฟซบุ๊กระบายความทุกข์ระทมในใจส่งถึงบรรดาแฟนคลับในเมืองไทยเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า “หลายคนคงคิดว่าช่วงนี้ดิฉันทำไมเงียบหายไป ยังมีความสุขดีอยู่มั้ย บางครั้งการพยายามไม่คิดมาก ทำใจให้สงบ มีความสุขก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แต่ความสุขเหล่านั้นอยู่บนความสุขที่หน้าชื่นอกตรม เพราะนอกจากตัวเองต้องพลัดพรากจากลูก จากครอบครัว จากพี่น้องประชาชนมาอยู่ต่างแดนแล้วยังต้องสูญเสียบ้านทรัพย์สิน บัญชีธนาคารรวมถึงทรัพย์สมบัติส่วนตัวที่ตนเองหามาตั้งแต่ครั้งยังไม่ได้ดำรงตำแหน่งนายกฯจนมาเป็นนายกฯและสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ตอบแทนดิฉัน ดิฉันสูญเสียบ้านที่ถูกยึดและขณะนี้ทรัพย์สินของดิฉันก็กำลังถูกกรมบังคับคดีประมูลชิ้นต่อชิ้น”น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า “ดิฉันใช้ข้อต่อสู้ทางกฎหมายทุกรูปแบบแล้วแต่ก็ไม่สามารถจะหยุดยั้งได้เพราะนายกรัฐมนตรีชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ยึดอำนาจ และจนถึงปัจจุบันมาตรา 44 ก็ยังคุ้มครองเจ้าหน้าที่อยู่ ทุกคนจึงเร่งดำเนินการกับคดีดิฉันโดยไม่คำนึงถึงความถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายเพราะจริงๆแล้วคดีต้องรอคำพิพากษาศาลปกครองถึงที่สุดว่าดิฉันแพ้คดีก่อนจึงจะสามารถนำทรัพย์เหล่านั้นมาขายทอดตลาดได้ เป็นการถูกกระทำที่ไม่เหมือนใครในประวัติศาสตร์ การนำเอาข้ออ้างของมาตรา 44 มาอยู่เหนือคำพิพากษาของศาลนอกจากไม่ควรจะเกิดขึ้นกับใครแล้ว ยังไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผลกระทบของการใช้มาตรา 44 ให้มีอำนาจเหนือรัฏฐาธิปัตย์ถือเป็นการทำลายสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของประชาชนในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย”น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุด้วยว่า “วันนี้ดิฉันเอง จึงอยากจะขออนุญาตเล่าความในใจว่า ดิฉันเองจะต้องต่อสู้เรื่องของการถูกประมูลทรัพย์สินทุกชิ้นที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรง มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจนัก แม้กระทั่งทรัพย์สมบัติที่พ่อแม่ให้มา ดิฉันก็ไม่สามารถที่จะปกป้องเอาไว้ได้ ดิฉันต้องอดทนต่อความเจ็บปวดและสะเทือนใจทุกครั้งที่รับทราบว่าทรัพย์ถูกทยอยขายไปทีละชิ้นทีละชิ้น บางครั้งดิฉันต้องปลอบใจตัวเองและบอกกับตัวเองว่า หากเรายังเศร้าและจมปลักอยู่กับอดีตเราก็จะไม่มีความสุข เรายังต้องมีภาระและดูแลอีกหลายชีวิตที่เขาฝากความหวังไว้กับเรา ดังนั้นดิฉันจึงต้องพยายามยืนและมองไปข้างหน้าโดยมองอดีตเป็นประสบการณ์ และคนเราควรจะอยู่เพื่อวันนี้และเพื่ออนาคต ไม่เอาอดีตมาทำให้เราไม่สามารถจะหลุดพ้นหรือเดินไปข้างหน้าไม่ได้ เพราะวันนี้ดิฉันพยายามที่จะบอกว่าดิฉันอยู่กับปัจจุบันและอยู่กับอนาคต เราจะต้องเข้มแข็งและสู้ต่อไป แต่สิ่งหนึ่งในอดีตที่ดิฉันไม่เคยลืมก็คือความไว้วางใจที่พี่น้องประชาชนมีต่อดิฉันโดยเสมอมาค่ะ #ม.44 กฎหมายเลือกข้าง #กฎหมายเลือกข้าง”ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เลือกโพสต์รูปภาพประกอบข้อความดังกล่าวเป็นใบหน้านิ่งเฉยไร้เมกอัปจากเครื่องสำอาง ต่างจากรูปภาพใบหน้ายิ้มแย้มสดใสเหมือนที่เคยโพสต์ในทุกครั้งที่ผ่านมาต่อมาเวลา 13.40 น. ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 2/2562 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ไม่ยอมตอบคำถามกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุถูกกลั่นแกล้ง จากมาตรา 44 ยึดทรัพย์ โดยได้แต่เอามือป้องหูทำทีแบบไม่ได้ยิน ขณะเดินผ่านน้ำพุในคลองด้านหลังตึกไทยคู่ฟ้าเสียงดัง ก่อนให้ทีมงานมาสอบถามผู้สื่อข่าวว่า ถามเรื่องอะไร หลังการประชุมผู้สื่อข่าวพยายามถามอีกครั้ง นายกฯยิ้มให้แต่ไม่ได้ตอบคำถามใดๆกล่าวเพียงว่า “อะไรจ๊ะ” ก่อนเดินขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าไป ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ที่กระทรวงกลาโหมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อกรณีถูกมาตรา 44 ยึดทรัพย์สินขายทอดตลาดว่า “ต้องไปถามคุณยิ่งลักษณ์ ทำไมถึงถูกยึดทรัพย์” นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจยังไม่รู้เรื่องยังไม่เห็นข่าว เมื่อถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า การใช้อำนาจมาตรา 44 ยึดทรัพย์ไปขายทอดตลาด ทั้งที่คดีในศาลปกครองยังไม่สิ้นสุดถือว่าไม่เป็นธรรมหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า ไม่ทราบตอบไม่ถูกยังไม่เห็นข่าว เมื่อถามย้ำว่า มีการพูดถึงขั้นว่ามีการใช้มาตรา 44 เหนือคำพิพากษา รัฐบาลจะต้องชี้แจงหรือไม่ นายวิษณุตอบว่า บางอย่างไม่ จำเป็นต้องชี้แจงในทุกเรื่อง เดี๋ยวคนอื่นคงชี้แจงให้ เมื่อถามอีกว่า มาตรา 44 อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาลขณะนั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์ ไม่จำเป็นต้องชี้แจงหรือ นายวิษณุตอบว่า ยังต่อเรื่องไม่ติดจึงยังไม่ทราบ ขออัปเดตเรื่องนี้ก่อน เมื่อถามอีกว่า มีการวิจารณ์มาตรา 44 เป็นกฎหมายเลือกข้าง นายวิษณุ ตอบว่า เดี๋ยวดูให้รู้เรื่องก่อน