ลดโทนด่า-กล่อมแทน เทือกงัดเกมชิงผู้สมัคร

เพื่อไทยตั้งหลักดูดกลับอดีต ส.ส. “ภูมิธรรม” ส่งซิกลดโทนด่าทอดุเดือดพวกย้ายขั้ว ปรับกลยุทธ์กล่อมดึงกลับกลุ่มที่ยังลังเล “จาตุรนต์” ขุดอดีตขู่พรรค คสช.ล่มซ้ำรอยสามัคคีธรรม “สุชาติ” ซัดแก๊งไดรโว่จัดเต็มกระแสบวกกระสุนตั้งเป้าดูด 20-30 ส.ส.ภาคกลาง ห่วงเพื่อน ส.ส.มนุษย์พันธุ์พิเศษแพ้ทางไม้ตีสู้ แต่ถ้าใช้ตังค์ตีสลบทุกราย “หัวเขียง” ชี้อีสานเริ่มนิ่ง ส.ส.ไปจริง 10 คน ไม่ถึง 40-50 คนตามข่าวตีปี๊บ ที่เหลือนิ่งรอดูหลังปลดล็อก แฉพลังประชารัฐแหยงกระแสต้าน ใช้เพื่อนชวนเพื่อนแทนบิ๊กทหารออกโรง “ประเสริฐ” ปักหลักยืน ซดพรรค คสช. “สุเทพ” ดึง อบจ.-ส.จ.จัดคนลง ส.ส.เปิดศึกสายเลือด ปชป. ชิงพื้นที่สุราษฎร์ธานี เลขาฯ กกต.แบะท่าหลักฐานฟันก๊วนสามมิตรยังไม่ชัด คาด คสช.คลายล็อกไม่เกิน ส.ค.

หลังจากพรรคเพื่อไทยออกมาเปิดโปงข้อมูล ตอบโต้กระแสการดูดอดีต ส.ส.ของกลุ่มสามมิตร เพื่อให้อดีต ส.ส.ย้ายไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ อย่างดุเดือด ล่าสุดแกนนำพรรคเพื่อไทยออกมาส่งสัญญาณให้สมาชิกพรรคลดโทนการโจมตีด่าทออดีต ส.ส.ที่คิดย้ายพรรค โดยเริ่มตั้งหลักเจรจากับอดีต ส.ส.ที่ยังลังเลไม่ตัดสินใจออกจากพรรค เพื่อดึงให้กลับมาอยู่กับพรรคตามเดิม

“ภูมิธรรม” สะกิดลดโทนขยี้ ส.ส.ย้ายขั้ว

เมื่อวันที่ 8 ก.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวกรณีการดูดตัวอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นๆเพื่อให้ไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นนายกฯอีกสมัยว่า พรรคเพื่อไทย เห็นว่าควรหลีกเลี่ยงการโต้ตอบกล่าวหากัน ควรใช้ท่าทีที่พยายามรักษามิตรภาพที่เคยมีร่วมกันมา ที่สำคัญเราเคารพการตัดสินใจของทุกคน พรรคเพื่อไทยจะรอการตัดสินใจของประชาชนในวันเลือกตั้ง ทั้งนี้ พรรคพร้อมเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาสู่การเมือง มาร่วมทำงานการเมืองกับพรรค อยากเห็นการเข้าสู่การเมืองที่เป็นการอาสารับใช้ประชาชน มากกว่าการเข้ามายึดการเมืองเป็นอาชีพ จนขาดอุดมการณ์ประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ขอให้ทุกคนใช้ทุกช่วงเวลาให้เกิดประโยชน์ในการเตรียมตัว ขบคิดเพื่อเตรียมบทบาทช่วยกันหาทางออกให้ประเทศและประชาชน น่าจะเป็นสิ่งที่ดีและเกิดประโยชน์สูงสุด

...

ขยับกล่อมดึงกลับพวกยังลังเล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่นายภูมิธรรมขอให้อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยทุกคนยุติการให้สัมภาษณ์และหลีกเลี่ยงตอบโต้เรื่องปฏิบัติการดูดตัว ส.ส.นั้น เป็นการปรับกลยุทธ์ภายในพรรค เพราะอยากให้การเมืองภายในพรรคนิ่ง ไม่มีการเปิดช่องด่าว่ากันในพรรค โดยเฉพาะในส่วนอดีต ส.ส.บางคนที่ยังลังเลจะตัดสินใจตีจากพรรคเพื่อไทย หรือบางคนที่มีชื่อไปอยู่กับพรรคอื่นแล้ว แต่เปลี่ยนใจอยากจะกลับมาอยู่พรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม จะได้มีช่องทางกลับมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยได้อย่างสบายใจ โดยที่ไม่มีอดีต ส.ส.ภายในพรรคต่อว่าไล่หลัง จนทำให้อดีต ส.ส.บางคนที่มีความคิดอยากจะกลับมาอยู่กับพรรค ไม่กล้ากลับมาอยู่ เพราะถูกต่อว่าอย่างหนักไปแล้ว ดังนั้นจึงต้องลดโทน คุมกระแสการเมืองในพรรคให้นิ่งที่สุด

“อ๋อย” ขู่ล่มซ้ำรอยสามัคคีธรรม

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยถูกดูดอดีต ส.ส.ร่วมพรรคพลังประชารัฐว่า พรรคไหนจะได้เสียงเท่าไหร่ นับกันที่คนมาลงคะแนน ไม่ได้นับว่ามีอดีต ส.ส.อยู่กับพรรคกี่คน และไม่ใช่เรื่องมาประณามอดีตนักการเมืองเหล่านั้น เพราะด้วยสภาพการติดต่อสื่อสารพบกันของนัก การเมืองยังไม่สะดวก แกนนำพรรคยังสื่อสารกับนักการเมืองของเราเองไม่มากพอ ต้องพยายามมากกว่านี้ รวมถึงต้องเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลจากยุทธศาสตร์ของ คสช. ที่ต้องการทำลายระบบพรรค การเมือง เพื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯอีกรอบ ย้อนแย้งกับสิ่งที่บอกว่า ปัญหาการเมืองที่ผ่านมา เพราะนักการเมืองไม่มีอุดมการณ์ แต่ต้องบอกว่าการเมืองมีความอนิจจังของมัน อย่างนักการเมืองที่เคยไปรวมกันแล้วตั้งพรรคสามัคคีธรรม ประสบความสำเร็จได้ตั้งรัฐบาล แต่อยู่ได้ 47 วันแล้วล่มสลาย สุดท้ายต้องกลับมาสู่พรรคการเมืองแบบปกติ ที่ไม่ได้สนับสนุนคณะรัฐประหารสืบทอดอำนาจ

“สุชาติ” ห่วงเพื่อน ส.ส.แพ้เงินตีสลบ

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กระแสการดูดอดีต ส.ส.ภาคกลางพรรคเพื่อไทย ยอมรับว่าอดีตผู้แทนฯภาคกลางถูกรุกหนัก เป็นพื้นที่ต้องสู้กันหนัก มีการตั้งเป้าจะดูดอดีต ส.ส.20-30 คน โดยใช้กระแสบวกกระสุนมาโน้มน้าว มีการพูดว่าใครโดนคดี มีหนี้สินจะดูแลให้ มีเงินรายเดือน และเงินก้อนให้ไปตั้งตัว พื้นที่จ.ลพบุรี ก็มีมาทาบทามเช่นกัน แต่อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ยืนยันตรงกันจะอยู่กับพรรคเพื่อไทย ไม่ได้หวั่นไหวกับพลังดูด ส่วนจังหวัดอื่นไม่กล้าการันตีจะมีใครไปหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่มีใครกล้าพูดอะไร เพราะ กกต.ยังไม่มีการประกาศเขตพื้นที่เลือกตั้งชัดเจนออกมา ทำให้อดีต ส.ส.ภาคกลางที่ส่วนใหญ่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะยังนิ่งอยู่ ไม่มีใครออกมาต่อล้อต่อเถียงกับประเด็นกระแสพลังดูด แต่ขอตั้งข้อสังเกตนักการเมืองประเทศไทยเป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษ ถ้าเอาไม้มาตีจะสู้ แต่ถ้าเอาตังค์มาตีสลบทุกราย

ชี้อีสานเริ่มนิ่ง ส.ส.ไปแล้ว 10 คน

นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงสถานการณ์การดูดอดีต ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทยไปอยู่พรรคพลังประชารัฐว่า ขณะนี้สถานการณ์ดูดเริ่มนิ่งแล้ว อดีต ส.ส.อีสานมีความกลัวคำขู่เรื่องคดีความน้อยลง หลายคนที่มีทีท่าไปแล้ว เริ่มลังเลอาจกลับมาใหม่ เพราะไปเช็กเสียงชาวบ้านในพื้นที่พบว่าไม่ชอบองค์กรมีสีบางองค์กร ประเมินแล้วคงมีอดีต ส.ส.ถูกดูดไปไม่ถึง 40-50 คนตามที่เป็นข่าว จำนวนที่ถูกดูดไปอย่างเป็นทางการขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 10 คน ที่เหลือยังนิ่งๆอยู่ ต้องรอดูหลังปลดล็อกทางการเมืองอย่างเป็นทางการจะเห็นจำนวนชัดเจน

แฉ พปชร.ปรับวิธีดูดฝากนอมินี

นายประยุทธ์กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีการปรับวิธีการดูดจากเดิมที่ใช้ทหาร แกนนำพรรคพลังประชารัฐ หรือคนในรัฐบาลมาทาบทาม เปลี่ยนมาเป็นใช้คนที่ถูกดูดไปแล้วมาทาบทามแทน ในลักษณะเพื่อนชวนเพื่อน เพราะวิธีเดิมมักเป็นข่าวออกมาในทางไม่ดี รวมถึงปรับยุทธวิธีเป็นการดูดอดีต ส.ส.ไปไว้ในพรรคอื่นที่ไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐ แต่เป็นเครือข่ายกันแทน เพราะพรรคพลังประชารัฐกำลังตกเป็นเป้าถูกมองในทางลบเรื่องการดูด โดยพรรคเหล่านี้จะไม่มีทหารอยู่เลย เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่พรรคของทหาร

“ประเสริฐ” ปักหลักยืนซดพรรค คสช.

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทยและอดีต รมช.คมนาคม กล่าวถึงกระแสข่าวอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.นครราชสีมา ถูกยื่นเงื่อนไขกดดันอย่างหนัก เพื่อดึงเข้าพรรคพลังประชารัฐว่า ตนและอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยหลายคนในพื้นที่โคราช ถูกเจรจาต่อรองมาจริงให้เข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ และเจรจาต่อรองมานานแล้ว โดยเฉพาะช่วงนี้ถูกกดดันต่อรองหนักมาก น่าจะมาจากพรรคเพื่อไทยมีอดีตผู้แทนราษฎรในพื้นที่โคราชมากที่สุด ทำให้ตกเป็นเป้าของพลังดูด แต่เท่าที่คุยเกือบทุกคนยังยืนยันจะอยู่กับพรรคเพื่อไทยต่อไป เพราะยังเชื่อมั่นนโยบายพรรคที่ได้ทำมา ร่วมถึงประชาชนในพื้นที่โทรศัพท์ขอให้ตนอย่าย้ายพรรค และการเลือกตั้ง กกต.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงให้ความเป็นธรรม บ้านเมืองมีกฎหมาย มีรัฐธรรมนูญ จะทำอะไรตามใจคงไม่ได้ง่ายๆ จะยืนซดชนอยู่แบบนี้ ไม่กลัวคำขู่ใดๆทั้งนั้น คนที่ตัดสินใจไปอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นอดีต ส.ส.ที่ทำงานตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยและเป็นอดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หลายคนไม่ได้ทำกิจกรรมในพื้นที่มาเป็น 10 ปี

ปชป.ค้าน กทม.ซุ่มเงียบยกเลิก ส.ข.

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอร่างกฎหมายยกเลิกสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) ว่า หลังจากพรรคประชาธิปัตย์ท้วงติงการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า มีลักษณะชี้นำให้เห็นด้วยกับการยกเลิก ส.ข. และมีช่องทางรับฟังความคิดเห็นทางเดียวผ่านเว็บไซต์ และมีเวลารับฟังน้อยเกินไป น่ายินดีว่าขณะนี้ กทม.ได้ขยายเวลาและเปิดรับฟังความคิดเห็นหลายช่องทางมากขึ้นจนถึงสิ้นเดือน ก.ค. เมื่อมีการเสนอกฎหมายต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่ปรากฏว่าการเสนอร่างกฎหมายยกเลิก ส.ข.ครั้งนี้ ประชาชนกลับไม่ทราบเหตุผลที่แท้จริงของความพยายามครั้งนี้ว่าคืออะไร

บี้ถามเหตุผลตัดตอนรวบอำนาจ

นายองอาจกล่าวอีกว่า ตลอดกว่า 30 ปีที่ผ่านมา ส.ข.ส่วนมากได้ทำหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดประชาชนในงานท้องถิ่นระดับเขต แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้ดี สำคัญที่สุดคือ ส.ข.มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เป็นการกระจายอำนาจให้ประชาชนได้กำหนดผู้แทน ทำหน้าที่ระดับเขตด้วยตนเอง จึงไม่ควรยกเลิกการ กระจายอำนาจไปสู่การรวมศูนย์อำนาจโดยผู้บริหารของเขต พรรคประชาธิปัตย์จึง ขอทราบเหตุผลที่แท้จริง ของผู้เกี่ยวข้องว่า มีเหตุผลใดที่ต้องการยกเลิก ส.ข.

“สุเทพ” ต่อรถบัสเดินสายหาสมาชิก รปช.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส. ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค รปช. ที่เพิ่งยอมรับในงานทำบุญครบรอบวันเกิดครบ 69 ปี ย่าง 70 ปี ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ จ.นนทบุรีว่า เป็นคนอยู่เบื้องหน้า ไม่ใช่เบื้องหลังพรรคนี้ กำลังเตรียมความพร้อมในการหาสมาชิกพรรค ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ได้สั่งต่อรถบัสใช้สำหรับเดินทางไกล ออกแบบให้เป็นรถบัสโดยสารที่มีห้องนอน ห้องน้ำในตัว พร้อมมีห้องพักผ่อนที่สามารถใช้ประชุมทีมงานที่ร่วมเดินทางไปได้ รวมถึงการติดตั้งระบบติดต่อสื่อสารด้านไอทีต่างๆ พร้อมทีมการ์ด รปภ.ส่วนตัว โดยจะมีทีมงาน อาทิ นายจักร พันธุ์ชูเพชร อดีตนักวิชาการ นายสุริยะใส กตะศิลา นายสำราญ รอดเพชร ร่วมเดินทางไปเป็นวิทยากรรณรงค์ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในภูมิภาคต่างๆ

จัดกิจกรรมต้านโกงลุยค่ำไหนนอนนั่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุเทพระบุกับแกนนำพรรคว่า คณะทำงานพร้อมทำงานแบบค่ำไหนนอนนั่น เพื่อเดินสายรณรงค์แคมเปญต่อต้านการทุจริต มีเป้าหมายเพื่อสร้างฐานสมาชิกพรรค รปช. ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มแกนนำ กปปส.ในจังหวัดต่างๆ เริ่มต้นจังหวัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ จ.พัทลุง โดยประสานกับอดีต ส.ว.พัทลุง แกนนำกลุ่ม กปปส.จังหวัด ให้จัดงานภายใต้ชื่อชมรมต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ จ.พัทลุง ที่ร้านอาหารครัวตายอด มีคนมาร่วมราว 170 คน

จัดวางคนเปิดศึกสายเลือด ปชป.

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการเตรียมวางตัวผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.ภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ในเจ้าของพื้นที่เดิมและพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์และแกนนำผู้ก่อตั้งพรรค รปช. หมายมั่นจะยึดหัวหาดในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ปักธงพรรค รปช.เป็นฐานใหญ่ในภาคใต้ เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เดิมนายธานี เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ เป็น ส.ส.สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ การเลือกตั้งที่มีขึ้นนายธานีเสนอตัวขึ้นบัญชีรายชื่อพรรค รปช. โดยให้นายเชน เทือกสุบรรณ น้องชายนายสุเทพ ย้ายจากเขต 4 มาลงแทนในเขต 1 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์มอบให้นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อและแกนนำพรรค หนึ่งในเจ้าของพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และเป็นผู้ชักชวนนายสุเทพเข้าสู่วงการเมืองเฟ้นหาตัวผู้สมัครลงในนามพรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุดกำลังทาบทามนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในพื้นที่มาลงสมัคร เขตเลือกตั้งที่ 2 นายสุเทพให้ น.ส.ยอดขวัญ ชุมวาระ อดีตผู้ช่วย ส.ส.ของนายสุเทพลงเดินในพื้นที่ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ลูกชายนายประวิช นิลวัชระมณี อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์เสนอตัวลง

จีบ อบจ.-ส.จ. ชิงพื้นที่ ส.ส.สุราษฎร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเขต 3 พื้นที่อิทธิพลของตระกูลกาญจนะของนายชุมพลและนางโสภา ที่เป็นฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ที่แข็งที่สุด ยังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ โดยจะส่งลูกสาวลงสมัครในครั้งหน้า ขณะที่พรรค รปช.ยังหาคนลงสมัครไม่ได้ เขต 4 หลังนายเชน น้องชายนายสุเทพย้ายไปลงสมัคร ส.ส.ในเขต 1 ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรค รปช. ต่างเดินหน้าจีบนายสมชาติ ประดิษฐ์พร ประธานสภา อบจ.สุราษฎร์ธานี ให้ลงสมัครในนามพรรค ล่าสุดนายสมชาติรับคำจะลงสมัครในนามพรรครปช. ให้นายสุเทพแล้ว ส่วนพรรคประชาธิปัตย์อยู่ระหว่างหาตัวผู้สมัคร เขต 5 นายสินิตย์ เลิศไกร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ยังคงลงสมัครในนามพรรค แม้นายสุเทพพยายามเจรจาให้ย้ายไปลงในนามพรรค รปช. แต่ยังได้ทาบทามนายวิวัฒน์ สรรพา รอง นายก อบจ.เตรียมสำรองไว้อีกคน เขต 6 นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ อดีต ส.ส.เดิมยังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่นายสุเทพได้ให้นายภูมิ เทือกสุบรรณ หลานชาย ซึ่งเป็น ส.จ. เป็นลูกของนายดำรงค์ เทือกสุบรรณน้องชาย มาลงสมัคร ส่วนเขต 6 ทั้งสองพรรคยังขาดตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ยังต้องขับเคี่ยวหาผู้ที่เหมาะสมต่อไป

กกต. แย้มหลักฐานฟันแก๊งสามมิตรไม่ชัด

วันเดียวกัน พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ในการประชุม กกต. ในวันที่ 9 ก.ค.คาดว่าจะมีการรายงานต่อ กกต. กรณีการตรวจสอบคลิปของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกร้องให้มีการดำเนินคดีกรณีอาจเข้าข่ายชี้นำครอบงำพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค และกรณีที่นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทยเข้าร้องเรียนให้ระงับและไม่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากมีการดูด ส.ส.พรรคอื่นเข้าร่วม โดยทั้งสองกรณีมีนายแสวง บุญมี รองเลขาธิการ กกต.เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งสองเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนกรณีที่นายสุชาติร้องเรียนให้ระงับการจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ ขณะนี้ถือว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ต้องตรวจสอบให้รอบคอบว่าใครพูดอะไรที่ไหนอย่างไร กับใคร ถ้าทั้งหมดเป็นเรื่องจริงจะเข้าสู่กระบวนการไต่สวนว่าเข้าองค์ประกอบความผิดหรือไม่ ทางกลุ่มพลังประชารัฐมีการอ้างว่ายังไม่มีการจัดตั้งเป็นพรรคการเมืองโดยสมบูรณ์ กรณีอย่างนี้ถ้า กกต.ไม่ให้จัดตั้งเป็นพรรคการเมืองเขายังสามารถที่จะจดจัดตั้งพรรคการเมืองอื่นได้ ไม่เหมือนกับกรณีที่เป็นพรรคการเมืองแล้ว ถ้าอ่านตามข่าวจะเหมือนว่าเป็นความผิดแล้ว แต่ในกระบวนการยุติธรรมพยานหลักฐานต้องมีความชัดเจน

คาด คสช. คลายล็อกไม่เกิน ส.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ยกร่างแก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 เพื่อคลายล็อกการดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองเสร็จแล้ว เนื้อหาปรับแก้ให้เป็นไปตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ แถลงเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. โดยคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งร่างแก้ไขคำสั่งดังกล่าวมาให้ กกต.เมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วเพื่อขอความเห็น คาดว่าในการประชุม กกต.วันที่ 9 ก.ค. ที่ประชุมจะได้พิจารณาและให้ความเห็น นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า คสช.และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ได้ยกร่างแก้ไขคำสั่งดังกล่าว ส่งมาให้ กกต.พิจารณาแล้วด้วยเช่นกัน มีเนื้อหาลักษณะเดียวกันคือหลัง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ประกาศราชกิจจานุเบกษาแล้ว 1.ให้พรรคการเมืองจัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค หาสมาชิกพรรค ให้ความเห็นต่อ กกต.เรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งและจัดทำไพรมารีโหวต โดยแจ้ง กกต.ทราบก่อนดำเนินการ 2.ให้อำนาจ กกต. ออกหลักเกณฑ์และระเบียบให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ประกาศใช้ และให้ดำเนินการเรื่องการแบ่งเขตได้ เมื่อ กกต.มีมติให้ความเห็นชอบหรือมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม จะแจ้งกลับไปยังคณะกรรมกฤษฎีกา ก่อนนำเสนอเข้าที่ประชุม คสช. เพื่อพิจารณาออกคำสั่งต่อไป ถ้าพิจารณากรอบเวลาที่คาดการณ์ว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. จะประกาศในราชกิจจานุเบกษาประมาณกลางเดือน ก.ย. มีความเป็นไปได้ที่ คสช. อาจออกคำสั่งแก้ไขคำสั่ง คสช. ที่ 53/2560 ไม่เกินเดือน ส.ค.