นับตั้งแต่ปี 2520 สมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่บ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ทอดพระเนตรเห็นชาวบ้านหญิงชาย ที่มารอรับเสด็จ แต่งกายด้วยชุดพื้นถิ่น...ในชุดนุ่งผ้าถุงไหม มัดหมี่มีตีนซิ่น ที่สวมเสื้อแขนกระบอกสีดำ ห่มสไบผ้าไหมแพรวา และผู้ชายนำผ้าแพรวาสีแดงมาคาดเป็นผ้าขาวม้า ที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวภูไท มีความงาม และทรงคุณค่าแห่งศิลปหัตถกรรมผ้าทอมือที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ...สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง ทรงประทับพระทัยในความงดงามของ “ผ้าไหมแพรวา” และมีพระราชประสงค์ให้อนุรักษ์ศิลปะการทอผ้าไหมแพรวาไว้ให้ยั่งยืนสืบทอดเป็นเอกลักษณ์ และมรดกของท้องถิ่นตลอดไปในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สนับสนุน และได้มีพระราชดำริ ให้ขยายหน้าผ้าไหมแพรวาให้กว้างขึ้น เพื่อใช้เป็นผ้าผืนตัดเสื้อผ้าแบบอื่นได้ และยังเกิดการประยุกต์ลวดลายบนผืนผ้าให้เหมาะสมกับสภาพทางเศรษฐกิจ ตรงกับความต้องการของตลาดตามยุคสมัยทำให้มีความงดงาม มีเสน่ห์ต่อผู้ที่ได้สัมผัสพบเห็น...กลายเป็นผ้าไหมที่มี “มูลค่า...ยอดนิยม” ในกลุ่มผู้นิยมผ้าไทย ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มาจนถึงปัจจุบันนี้...ศิลปะแห่งคุณค่าของผ้าไหมแพรวา กิตติ์ธนัตถ์ ญาณพิสิษฐ์ ในฐานะผู้ประสานงานศูนย์ความเป็นเลิศด้านสิ่งทอพื้นเมืองแพรวากาฬสินธุ์ม.กาฬสินธุ์ เล่าว่า ผ้าแพรวา เป็นผ้าทอมือชาวภูไท มีขนาดความยาว 1 วา ใช้คลุมไหล่สไบเฉียง ใช้ในโอกาสงานเทศกาลบุญประเพณี งานแต่งงาน หรืองานสำคัญอื่นๆตามประเพณีทางวัฒนธรรมของหญิงสาวชาวภูไท ต้องยึดถือปฏิบัติการทอผ้าแพรวาใช้เทคนิคชั้นสูงในการทอผ้าทำลวดลาย ที่ใช้ไม้เก็บลายด้วยการยกเส้นด้ายยืนแล้ว สอดเส้นไหมสีซึ่งเป็นเส้นพุ่งพิเศษเข้าไปในผืนผ้า ทำให้เกิดลวดลาย และสีผ้าที่ต้องการสิ่งสำคัญ...จะไม่ค่อยนิยมใช้อุปกรณ์อื่นช่วย ไม่ว่าเข็ม ไม้ หรือ ขนเม่น แต่ใช้นิ้วก้อยจกเกาะเกี่ยว และสอดเส้นไหมสี ซึ่งเป็นเส้นพุ่งพิเศษแล้วผูกเก็บปมเส้นด้ายด้านบน เพื่อให้เกิดลวดลาย โดยใช้การเกาะลายด้วยนิ้วก้อยตลอดจากริมผ้าข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งตลอดทั้งแถว เพื่อให้ลวดลายสวยงามอยู่ด้านล่างของผืนผ้า ด้วยขั้นตอนที่มีความลำบาก...ทำให้เกิดความไม่นิยมการทอผ้าไหมแพรวาเท่าที่ควร...หากมีงานบุญประเพณี ชาวภูไทใช้วิธีการยืมเพื่อนบ้าน จนช่างฝีมือทอผ้าลดลง และผ้าไหมแพรวาน้อยลงไปด้วยกระทั่งในปี 2520 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จเยี่ยมพสกนิกรในพื้นที่ อ.คำม่วง ได้ทอดพระเนตรเห็นชาวภูไทบ้านโพน แต่งตัวโดยใช้ผ้าแพรวาห่มตามแบบ “สไบเฉียง” ที่เรียกว่า “ผ้าเบี่ยง” และทรงสนพระทัยมาก...ในครานั้น “พระราชทานเส้นไหม” ให้กับชาวบ้านโพน นำไปทอไหมแพรวา เพื่อไปตัดฉลองพระองค์ ให้เป็นแบบอย่าง แก่ชาวไทย และชาวต่างประเทศ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการสนับสนุนผลิตเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งทรงรับกลุ่มผ้าแพรวาไว้ในโครงการศิลปาชีพพิเศษ และทรงโปรดฯให้มีการพัฒนาการทอผ้าไหมแพรวามาจนถึงทุกวันนี้...ทว่า...ในช่วงที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จแปรพระราชฐานมาที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จ.สกลนคร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ชาวบ้านโพนเฝ้าฯรับเสด็จอยู่เสมอ...อีกทั้งยังทรงโปรดเกล้าฯให้จัดการประกวดผ้าไหมทุกปีตลอดทั้งปี...ชาวบ้านในภาคอีสานจะใช้เวลาทอผ้าเก็บไว้ เพื่อนำไปประกวดในงานนี้ทำให้เกิดการรวมกลุ่มของชาวบ้านโพน ตั้งกลุ่มขึ้นในนามสหกรณ์ศูนย์ศิลปาชีพทอผ้าไหมแพรวาบ้านโพน กาฬสินธุ์ ที่มี แม่คำสอน สระ-ทอง ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ แม่คำใหม่ โยคะสิงห์ ครูศิลป์ของแผ่นดินงานหัตถกรรมผ้าแพรวา ผู้บุกเบิก มีหน่วยงานภาครัฐเข้ามาสนับสนุนส่งเสริมมากมาย“ผ้าไหมแพรวาเริ่มยกระดับ มีชื่อเสียง ถือเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน ระดับ 5 ดาว มีราคาผ้าไหมแพรวาตั้งแต่หลักพันบาทจนถึงแสนบาท...”ที่ผ่านมา นำไปโชว์และประกวด ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ล่าสุดนำดีไซเนอร์ชั้นนำช่างทอพื้นบ้าน ทั้งผ้าไหมแพรวา ผ้ามัดหมี่ และผ้าฝ้าย ร่วมเปิดบูธและเดินแฟชั่นโชว์บนแคตวอล์กภายใต้ธีม Spirit of Phu Tai Kalasin ในงาน Hong Kong Fashion Week for Spring/Summer 2019ในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และยกระดับอาชีพ แก้ไขปัญหาความยากจนให้กับประชาชน โดยผ้าพื้นเมืองนี้ เป็นผ้าที่เกิดจากช่างทอใน จ.กาฬสินธุ์ ทั้งผ้าไหมแพรวา นำมาให้ดีไซเนอร์แนะนำเรื่องการออกแบบลวดลายให้เกิดความร่วมสมัย นำผ้ามาออกแบบเป็นชุดแฟชั่น“พระองค์มีสายพระเนตรอันยาวไกล ในการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้ดีขึ้น และเป็นการอนุรักษ์ศิลปะการทอผ้าไหมแพรวาไว้ให้ยั่งยืนสืบทอดเป็นเอกลักษณ์และมรดกของท้องถิ่น เพราะเป็นหัตถกรรมชั้นสูงที่สามารถแปรรูป...เพิ่มมูลค่าราคาให้กับผ้าไหม ทำให้ช่างทอผ้ามีความเป็นอยู่ที่ดี” กิตติ์ธนัตถ์ ว่าย้อนอดีต...พื้นที่ อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ เป็นพื้นที่สีแดง ห่างไกลจากตัวเมืองกาฬสินธุ์ ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ยากลำบากแร้นแค้น ในการที่พระองค์เสด็จเยี่ยมพสกนิกร คือการเติมให้ชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรดีขึ้น สิ่งหนึ่งที่พระองค์ทรงมองเห็นเรื่องหัตถกรรม ที่ชาวบ้านมีความชำนาญ มีทักษะสูงจุดเริ่มต้นการสนับสนุนชุมชนให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกัน ภายใต้ “โครงการศิลปาชีพพิเศษ” เข้ามาเติมเต็มความรู้ ให้ช่างหัตถกรรมมีทักษะ ฝีมือ ตอบสนองต่อตลาดให้มากขึ้น ทำให้ชาวบ้านมีความตื่นตัว หันมาทอผ้าไหมแพรวา พัฒนาลวดลายสีสันเพิ่มขึ้นมามากมายอย่างต่อเนื่องปัจจุบันผ้าไหมแพรวามีการพัฒนาสีสัน ลวดลาย และรูปแบบ ที่ไม่ได้เป็นรูปแบบเดิมตามประเพณีดั้งเดิม แต่สามารถแปรเปลี่ยนตามความต้องการตลาด จนนักออกแบบระดับโลกมาเยี่ยมโครงการส่งเสริมการทอผ้าไหมแพรวา บ้านโพน มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ อาทิ ประเทศญี่ปุ่น ให้ความสนใจเรื่องย้อมสีผ้าแบบธรรมชาติประเทศอังกฤษสนใจสีของผ้า สหรัฐอเมริกาสนใจเส้นใยไหมธรรมชาติ และบราซิลสนใจการออกแบบดีไซน์ จริงๆแล้ว...กลุ่มชาติพันธุ์ภูไท มีอยู่หลายอำเภอ สืบทอดการทอผ้าแพรวากันมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอำเภอคำม่วง สามชัย สมเด็จ สหัสขันธ์ มีช่างทอผ้าแพรวาพื้นที่ที่มีเครื่องหมายบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์สำคัญสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง มีสายพระเนตรอันยาวไกล เป็นนักบริหารจัดการทางวัฒธรรมที่ดีมาก สามารถเพิ่มหัตถกรรมพื้นบ้านให้มีราคาสูง ผสมกับการอนุรักษ์สืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมให้เกิดความสมดุลระหว่างความดั้งเดิม...กับความร่วมสมัยอย่างลงตัวชาวกาฬสินธุ์โดยเฉพาะชาวภูไท ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทำให้ชีวิตของชาวบ้านมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี ยั่งยืน มั่นคง ทั้งยังคงได้สืบทอด มุ่งมั่นขับเคลื่อนงานที่พระองค์ทรงริเริ่มไว้...ให้คงอยู่กับประเทศต่อไป...“ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ”...ผ้าไหมแพรวาอันเลื่องชื่อ...เป็นอีกพระราชกรณียกิจ...ที่ทรงต้องการช่วยเหลือราษฎรที่ทุกข์ยากเดือดร้อน ให้สามารถช่วยเหลือตัวเอง ยืนอยู่บนขาของตัวเองได้อย่างมั่นคง...ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้.