“บิ๊กโจ๊ก” ร่วมกับ ผบช.ภ.4 รับมอบเงิน ของกลางคดีทุจริตกู้เงินสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจเลย จำนวนกว่า 10 ล้านบาท จากกลุ่มตำรวจที่ร่วมกระทำผิด รวมได้รับเงินสดมาแล้วกว่า 23 ล้านบาท เตรียมมอบคืนบางส่วนให้ตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อสัปดาห์หน้า คดีใกล้สรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้อง แต่ต้องรอรอง ผบ.ตร.หัวหน้าพนักงานสอบสวนตรวจความเรียบร้อยก่อน
ใกล้ถึงจุดสุดท้ายของคดีฉาวทุจริต โครงการรวมหนี้และบริหารหนี้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ ภูธรจังหวัดเลย สร้างความเดือดร้อนให้ตำรวจ 196นาย สังกัด บก.ภ.จ.เลย ที่ตกเป็นเหยื่อ มูลค่าความเสียหายกว่า 240 ล้านบาท พนักงานสอบสวนได้ขยายผลพบเชื่อมโยงเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ใหญ่มูลค่าความเสียหายกว่า 1 พันล้านบาท พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช อดีตรอง ผบช.สกพ. อดีต ผบก.ภ.จ.เลย กับตำรวจใกล้ชิดรวม 5 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากพฤติกรรมเข้าข่ายร่วมกระทำความผิด มีตำรวจถูกย้ายไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร.รวม 31 นาย มีการยึดและอายัดทรัพย์สินกลับคือมาได้กว่า 200 ล้านบาท คาดว่าอาจสามารถคืนให้ตำรวจที่ตกเป็นเหยื่อเกือบครบจำนวน
...
ความคืบหน้าคดีโกงกู้เงินสหกรณ์ตำรวจเลย เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 8 ต.ค. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย บช.ภ.4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รรท.รอง ผบช.สตม. เดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี มีตำรวจที่เป็นผู้เสียหายในคดีกว่า 100 นาย ดักรอมอบดอกไม้ให้กำลังใจคณะทำงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่เพื่อแสดงความขอบคุณ นอกจากนี้ มีผู้เกี่ยวข้องอยู่ในข่ายผู้ต้องหานำเงิน 10,520,000 บาท มอบให้ พล.ต.ท.สุรชัย และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เพื่อเป็นของกลางในคดี โดยเงินส่วนใหญ่มาจากตำรวจที่ถูกสั่งย้ายไปช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ก่อนหน้านี้
พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า คณะทำงานได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินจนพบความผิดปกติของเงินที่ตำรวจ ภ.จ.เลย หลายคนเข้าไปพัวพัน สามารถนำเงินสดกลับคืนมาได้รวม 23,616,000 บาท รวมทรัพย์สินที่ยึดคืนมาได้กว่า 220 ล้านบาท เพียงพอต่อการที่จะคืนให้กับตำรวจผู้เสียหาย แต่ต้องมีการประชุมคณะทำงานก่อนจึงจะสรุปได้ว่าจะคืนเงินอย่างไร ยืนยันว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถคืนเงินบางส่วนให้ตำรวจบางคนก่อน คดีนี้มีการสอบปากคำพยานไปแล้ว 435 ปาก ผู้ต้องหาขณะนี้มี 42 คน ตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาไปแล้ว 31 คน วันนี้มีการติดต่อเข้าขอมอบตัวอีก 5 คน
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. กล่าวเสริมว่า ตำรวจได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อหาความเชื่อมโยง ขณะนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหากลุ่มหัวแถวหรือหัวหน้าขบวนการในแต่ละสาย จากการดำเนินการอย่างจริงจังทำให้ผู้ร่วมลงทุนบางรายทราบว่าเงินที่ได้รับจากการปันผลเป็นเงินที่ได้จากการกระทำความผิดก็นำมามอบให้เป็นของกลางในคดีอาญา และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาชุดสืบสวนตรวจค้นบ้านของผู้การสุทิพย์และพวกที่ย่านปิ่นเกล้าและนนทบุรี ยึดทรัพย์สินมาจำนวนหนึ่ง หลังจากนี้จะเรียกคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนประชุมสรุปสำนวนเพื่อที่จะส่งให้กับอัยการสั่งฟ้อง พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน มาตรวจความเรียบร้อยของสำนวนในวันที่ 10 ต.ค. ก่อนสรุปสำนวนส่งอัยการ และสัปดาห์หน้าจะมอบเงินคืนให้ตำรวจ ภ.จ.เลย ส่วนหนึ่งเพื่อให้ตำรวจชั้นผู้น้อยเกิดความมั่นใจว่าจะไม่ถูกทอดทิ้ง
พล.ต.ต.กฤษกรกล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการขยายผลก็ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องดำเนินการให้ถึงที่สุด บางคนที่รับเงินไปแล้ว อย่าชะล่าใจว่าตำรวจไม่ดำเนินคดี ถึงท่านจะไม่โดนเรื่องฉ้อโกงประชาชน ผู้ให้ผู้รับโดนหมดจะขยายผลเรื่องคดีอาญาฟอกเงิน ขอให้นำเงินมาคืน และขอบคุณที่นำเงินมาคืนเป็นสาระสำคัญในการพิจารณาของศาล