“ฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็น โบกปูนทับ” คดีสะเทือนขวัญคนไทยทั่วทั้งประเทศ ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์ ไล่เรียงเหตุการณ์ตั้งแต่แผนการของเอ็ม นาทีก่อเหตุ ถึงนาทีหลบหนี ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นเครื่องสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่า “คนทำเลว จนได้มาซึ่งเงินทองมากมาย แต่ไม่มีความสุขแม้แต่วินาทีเดียว”
- 11 ต.ค. ประมาณ 07.00 น. นายวิฑูรย์ ศรีตะบุตร์ หรือเอ็ม ได้ไปที่อาคารที่เกิดเหตุ และกดกริ่งให้ น.ส.วรรณี จิรเจริญยิ่ง วัย 58 ปี ผู้ตายมาเปิดประตู
- เอ็มกดกริ่ง 2-3 ครั้ง วรรณีก็ไม่เปิดประตู เอ็มจึงไปที่ประตูด้านข้าง โดยกดกริ่งให้เปิดอีกหลายครั้ง จนวรรณีลงมาจากชั้นบนของบ้าน และเปิดประตูแง้มดูว่าใครมาหา
- วรรณี เห็นว่าผู้ที่กดกริ่งเป็นเอ็ม จึงเปิดประตูให้ เพราะเอ็มเคยขับรถรับจ้างรับส่งวรรณีอยู่บ่อยครั้ง และก่อนหน้านี้วรรณีเคยเล่าให้พี่ชายของเธอฟังว่า เอ็มเป็นปิยมิตรที่ดี เพราะเอ็มคอยช่วยเหลือเรื่องการเดินทางเวลาที่เธอมาพักที่เชียงใหม่ (วรรณีขับรถไม่เป็น)
- เมื่อประตูแง้มจนได้เห็นหน้าวรรณีที่อยู่ด้านในบ้าน เอ็มรีบแทรกตัวเข้าไปในบ้าน พร้อมกับดันวรรณีเข้าไปด้วย
- เมื่อเอ็มได้เข้าไปในบ้าน เขารีบพูดสิ่งที่ต้องการทันที “ขอยืมเงิน 5 แสน” พร้อมบอกเหตุผลว่า “ตอนนี้ครอบครัวมีปัญหาทางการเงิน”
- วรรณี ตอบกลับเอ็มว่า “รอแป๊บนึง เดี๋ยวมาคุยกันนะ ป้าขอขึ้นไปแต่งตัวก่อน”
- จังหวะที่วรรณีเดินหันหลังให้เอ็มเพื่อขึ้นบ้าน เอ็มรีบเข้าไปประชิดตัววรรณีทันที และบังคับให้วรรณีเดินลงไปชั้นล่าง แต่วรรณีเริ่มขัดขืน
- เอ็มจึงชกเข้าไปที่ใบหน้าวรรณี 2 ครั้งหนักๆ และเอ็มก็เริ่มบังคับให้วรรณีบอกที่เก็บเงิน แต่วรรณีไม่ยอมบอก แม้ว่าเอ็มจะถามกี่ครั้ง วรรณีก็ไม่ยอมปริปาก
- เอ็มเริ่มโมโห จึงตัดสินใจทรมานวรรณี โดยวิธีการจับมัดมือไพล่หลังกับเก้าอี้ มัดเท้า และใช้เทปกาวปิดปาก พร้อมกับต่อยวรรณีอีกหลายครั้ง และเอาถุงพลาสติกคลุมหัววรรณีเพื่อทรมาน
- ณ ขณะนั้น วรรณีเกิดอาการหวาดกลัวอย่างมาก เธอจึงยอมบอกรหัสเอทีเอ็ม
- เอ็มไม่รอช้า รีบขับรถ BMW ของวรรณีออกไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มทันที ปรากฏว่าวรรณีให้รหัสที่ถูกต้อง และเขาสามารถกดเงินออกมาได้จำนวนหนึ่ง
- เอ็มย้อนกลับมาที่บ้านวรรณีอีกครั้ง ซึ่งวรรณีเริ่มนอนหายใจรวยรินอยู่ที่พื้นบ้าน แต่วรรณีก็ยังพยายามร้องขอชีวิต และบอกว่า อยากได้อะไรก็เอาไป แต่อย่าเอาชีวิต
- เอ็มชั่งใจว่าจะตัดสินใจอย่างไร จึงเดินขึ้นไปสูบบุหรี่บนบ้าน และเริ่มรื้อค้นทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน จนพบสร้อยคอทองคำ และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายชิ้น
- จากนั้น เอ็มหันไปมองวรรณี ซึ่งนอนแน่นิ่งไปแล้ว แต่เขาไม่แน่ใจว่าเสียชีวิตหรือไม่ จึงใช้ถุงพลาสติกสวมศีรษะวรรณีอีกครั้ง จนวรรณีไม่หายใจ ซึ่งเขามั่นใจแล้วว่า วรรณีเสียชีวิตแล้วจริงๆ จากนั้นเขาก็รีบออกจากบ้านของวรรณีด้วยการขับรถ BMW ของวรรณีไปด้วย
- 13 ต.ค. เอ็มได้ย้อนกลับมาที่บ้านของวรรณีอีกครั้ง เพื่อจะอำพรางศพด้วยการนำไปทิ้งที่อื่น แต่ปรากฏว่ายกไม่ขึ้น จึงนั่งคิดอยู่หาทางออกอยู่ชั่วครู่
- เอ็มเหลือบไปเห็นตู้เย็น จึงฉุกคิดขึ้นได้ว่าเอาศพแช่เย็นไว้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วในเวลานั้น จากนั้นเขาจึงจัดการเอาข้าวของทั้งหมดในตู้เย็นออกมา จับตู้เย็นนอน ยัดศพของวรรณีเข้าไป และเสียบปลั๊ก (แต่ตู้เย็นไม่เย็น เพราะตู้เย็นนอน คอมเพรสเซอร์จึงไม่ทำงาน) โดยมุ่งหวังที่จะแช่เย็นศพวรรณีไว้
- จากนั้น เอ็มขับรถออกไปซื้อปูน 2 ถุงที่ร้านวัสดุก่อสร้าง และกลับมาเอาปูนโรยไปที่ศพของวรรณี เพื่อหวังที่จะดับกลิ่น และโทรหาเพื่อนๆ เพื่อให้มาช่วยกันแรปตู้เย็นและนำตู้เย็นไปไว้ที่อื่น โดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนๆ ว่า เกิดเหตุอะไรขึ้น แต่ว่าไม่มีใครมา
- เอ็มหมดหนทาง จึงนำการ์ดจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านออกทั้งหมด และทิ้งศพวรรณีไว้ในสภาพนั้น โดยเอ็มได้ทรัพย์สินไปจำนวน 1.7 ล้าน และทองอีก 5 บาท จนกระทั่งวันที่ 27 ต.ค.62 พี่ชายของวรรณีมาพบ และมีการติดตามจับกุมตัวเอ็มได้ในที่สุด.
...
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สรุปคดีฆ่าเศรษฐินียัดตู้เย็น ตู้ดันไม่เย็น ลั้นลาเที่ยวหรู สับขาหลอก เจอจับแล้ว
- แฉ"เอ็ม ฆ่ายัดตู้เย็น"ชกหน้า-ทรมาน บังคับบอกรหัส กดเงินเหยื่อ 1.7 ล้าน
- “เอ็มโหด” รับฆ่าเศรษฐินี ต่อยล้ม เชือกมัด ยัดตู้เย็น กดเงินไปร่วม 2 ล้าน