ที่ประชุมร่วมหลายหน่วยงานภาครัฐยังไม่อนุมัติแผนซ่อมท่อใต้ทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตร เลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หลังขอดำเนินการพันปิดรอยรั่วของท่ออ่อนที่เกิดการรั่วไหล คาดยังมีน้ำมันค้างท่ออยู่ 12,000 ลิตร และอาจจะรั่วซึมออกมาได้อีก สั่งให้ยื่นรายละเอียดการดำเนินงานเพิ่มเติม ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก ไม่พบคราบน้ำมันดิบบนหาดแม่รำพึงและทะเลระยองแล้วสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลลงทะเลระยอง ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 19 ก.พ. นายพงษ์กรณ์ ช่อชูวงศ์ ผู้จัดการฝ่าย ความปลอดภัยระบบคุณภาพสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัย บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC กล่าวว่า หลังพบรอยรั่ว จุดใหม่ทำให้มีน้ำมันซึมออกมาเป็นครั้งคราว ต่อจาก ครั้งที่ 2 ขณะที่ SPRC ลงไปตรวจสอบท่อใต้ทะเล และขอดำเนินการพันปิดรอยรั่วของท่ออ่อน บริเวณทุ่น SPM ที่เกิดการรั่วไหล มีหน่วยงานคือ ผู้แทนกรมเจ้าท่า ผู้แทนกรมควบคุมมลพิษ ผู้แทนกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ผู้แทนกรมธุรกิจพลังงาน อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ผู้แทนวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ผู้แทนสภาวิศวกร ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ ผกก.สภ.มาบตาพุด นายพงษ์กรณ์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีมติว่า ข้อมูลที่บริษัท SPRC ชี้แจงกระบวนการพันท่อและขั้นตอน ยังไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะประกอบการ ตัดสินใจขั้นตอนการปฏิบัติตามที่บริษัทเสนอได้ให้บริษัทเพิ่มเติมรายละเอียดและจัดส่งเอกสารให้ทางผู้แทนแต่ละหน่วยงาน เพื่อประชุมพิจารณาขั้นตอน การพันท่ออีกครั้งในวันอาทิตย์ที่ 20 ก.พ. จากการ ประเมินคาดว่า มีน้ำมันค้างท่ออยู่จำนวน 12,000 ลิตร และอาจจะรั่วซึมออกมา แต่ถึงอย่างไร จากการตรวจสอบ แรงดันภายในท่อพบว่ามีแรงดันเท่ากับแรงดันของน้ำทะเล ทำให้การรั่วซึมอาจจะหยุดหรือลดน้อยลง ทาง SPRC เตรียมความพร้อมไว้แล้ว หากได้รับอนุญาต ให้ลงไปปิดจุดรอยรั่วจะรีบดำเนินการในทันทีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เผยว่า จากการประชุมร่วมหลายหน่วยงานเพื่อหารือกรณีบริษัท SPRC ขอดำเนินการ พันปิดรอยรั่วท่ออ่อนได้ข้อสรุปว่า บริษัทแจ้งว่า ตรวจพบรอยรั่วท่ออ่อน 2 จุด จุดที่ 1 ได้พันด้วยวัสดุ ป้องกันการรั่วไหลแล้ว แต่จุดที่ 2 ยังไม่ได้อุดรอยรั่ว หากคลื่นลมแรงอาจทำให้มีน้ำมันรั่วไหลออกมาได้ ประเมินว่ามีน้ำมันค้างอยู่ในท่ออ่อนประมาณ 12,000 ลิตร บริษัทมีแผนจะสูบน้ำมันที่ค้างท่อออกมาพร้อมใช้น้ำไล่น้ำมันที่ค้างอยู่ในท่อ จากนั้นพันท่อที่รั่วด้วยวัสดุกันซึม 3 ชั้น ก่อนยกท่ออ่อนขึ้นมาตรวจสอบ บริษัทเตรียมรองรับหากเกิดน้ำมันรั่วไหล จัดเตรียม บูม 5 ปาก เรือฉีดสารขจัดคราบน้ำมัน 10 ลำ เรือดูดเก็บน้ำมัน 600 ตัน โดรนอากาศยาน ยานสำรวจ ใต้น้ำ ทีมประดาน้ำ และสาร Dispersant ที่ประชุมได้ให้บริษัทเตรียมเอกสารรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติงาน (SOP) พร้อมมาตรการความปลอดภัย และระยะเวลาปฏิบัติงาน ส่งให้พิจารณาต่อไปนายอรรถพลกล่าวต่อว่า สำหรับผลการติดตาม ตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของน้ำทะเลและชายหาด ในทางปฏิบัติยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้แน่ชัด เนื่องจากปัญหายังไม่ยุติ หากระบุ พื้นที่ปลอดภัยไปแล้ว แต่ภายหลังพบมีการปนเปื้อน อาจมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นได้ ที่ประชุมเห็นชอบ ในหลักเกณฑ์การประกาศในการใช้พื้นที่เพื่อนันทนาการ ต้องมีผลคุณภาพน้ำทะเลเป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพ น้ำทะเลประเภทที่ 4 คือไม่พบกลิ่นน้ำมันและไม่พบ คราบน้ำมันบริเวณชายหาดและในน้ำทะเลบริเวณดังกล่าวส่วนบรรยากาศบริเวณหาดแม่รำพึง อ.เมืองระยอง ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อน กินอาหารทะเล และลงเล่นน้ำทะเลอย่างคึกคัก มีพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่นำของฝาก ของที่ระลึก มาวางขายต้อนรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน สอบถามนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำทะเลบริเวณก้นอ่าว หาดแม่รำพึง บอกว่าตั้งใจมาเที่ยวหาดแม่รำพึงโดยเฉพาะ น้ำทะเลใสและสวยมาก บริเวณดังกล่าวไม่พบมีคราบน้ำมันแต่อย่างใดขณะที่บรรดาโรงแรม ที่พัก รีสอร์ต จากการ สอบถามพบมีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเหมารถบัส 3-4 คัน เดินทางมาเข้าพักกันแน่นขนัด เพื่อมาเที่ยว ทะเลหาดแม่รำพึง ผู้ประกอบการโรงแรมฯบอกว่า ช่วงนี้เป็นช่วงไฮซีซันจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัด จองที่พักหาดแม่รำพึงเพื่อเล่นน้ำทะเล ส่งผลให้บรรยากาศคึกคักเป็นพิเศษ ผู้ประกอบการพอจะมีรายได้บ้างในช่วงนี้ หลังซบเซามานานจากเหตุปัญหา โควิด-19 แพร่ระบาด และปัญหาคราบน้ำมันที่รั่วไหล ในครั้งแรก ขณะนี้สถานการณ์ได้คลี่คลายแล้ว อย่างไร ก็ตาม ตลอดแนวชายหาดแม่รำพึงยังคงมีเจ้าหน้าที่ของบริษัท SPRC เดินเท้าตรวจสอบคราบน้ำมันอยู่อย่างต่อเนื่อง