พ่อแม่ร่ำไห้รับศพลูกชายวัย 6 ขวบที่กระเด็นจากเบาะรถตกทางด่วน พร้อมทำพิธีเชิญวิญญาณกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ตั้งสวดเพียงคืนเดียวแล้วเผาทันที ตำรวจรอให้จัดงานศพเสร็จก่อน จะเรียกตัวคนขับมาสอบปากคำให้กระจ่าง และให้ผู้เชี่ยวชาญยานยนต์กับกองพิสูจน์หลักฐาน ร่วมตรวจสภาพรถกระบะมรณะ เกิดพวงมาลัยรถล็อกกะทันหันจริงหรือไม่ ชี้สาเหตุหลักเพราะไม่ได้ให้เด็กนั่งคาร์ซีท หรือคาดเข็มขัดนิรภัย
กรณีอุบัติเหตุสลดใจ รถกระบะโตโยต้า รีโว่ ป้ายแดง พวงมาลัยล็อกเสียหลักพุ่งชนขอบทางด่วน ทำให้ลูกชายวัย 6 ขวบ ที่นอนหลับอยู่เบาะหลัง กระเด็นทะลุกระจกพลัดตกทางด่วนที่มีความสูงกว่า 50 เมตร กระแทกพื้นเสียชีวิต เหตุเกิดบ่ายวันที่ 19 ก.พ. บนทางด่วนกาญจนาภิเษก (สุขสวัสดิ์-บางพลี) มุ่งหน้าด่านบางแก้ว ช่วงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บางหญ้าแพรก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ก.พ. นายอาทิตย์ จันทรเสนา และ น.ส.พิสมัย จันทรเสานา พ่อแม่ของ ด.ช.กันตพงศ์ หรือน้องกันต์ จันทรเสนา วัย 6 ขวบ ที่ประสบอุบัติเหตุพลัดตกทางด่วน ได้นำเอกสารไปติดต่อขอรับศพลูกชายกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.ชลบุรี จากนั้นเดินทางออกจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ มายังจุดเกิดเหตุในจุดที่ลูกชายตกลงมาเสียชีวิต พร้อมนิมนต์พระ 1 รูป มาทำพิธีเชิญวิญญาณน้องกันต์กลับบ้าน บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียงร่ำไห้ดังระงม ใช้เวลาราว 10 นาที ก่อนจะเคลื่อนร่างไปประกอบพิธีสวดพระอภิธรรมที่วัดพันเสด็จใน หมู่ 4 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 1 คืน ก่อนทำพิธีฌาปนกิจในวันที่ 21 ก.พ. เวลา 16.00 น.
ด้านคดี พ.ต.ท.ประจวบ แขตสันเทียะ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า หลังเกิดอุบัติเหตุสลดใจดังกล่าว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้อายัดรถยนต์คันเกิดเหตุไว้แล้ว เนื่องจากผู้ขับขี่ให้การอ้างว่า สาเหตุเกิดจากระบบขับเคลื่อนและบังคับของรถยนต์เกิดขัดข้อง ส่งผลให้รถเสียหลักไปชนขอบทางอย่างรุนแรง แรงกระแทกทำให้เด็กพุ่งทะลุกระจกประตูหลังฝั่งซ้ายตกลงไปกระแทกพื้นด้านล่างเสียชีวิตคาที่ ตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นความประมาทของผู้ขับขี่ จะขอให้ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับยานยนต์ร่วมกับกองพิสูจน์หลักฐาน เป็นผู้ตรวจสอบและยืนยันว่าเกิดจากปัญหาของรถยนต์ หรือเครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์อื่นๆหรือไม่ ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน ดังนั้น จะต้องตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่
...
“สำหรับการพิสูจน์ซากรถ จะรอให้จัดงานศพเรียบร้อยเสียก่อน ถึงจะเชิญผู้เกี่ยวข้อง ผู้ผลิตรถยนต์ และช่างผู้ชำนาญการ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และผู้ขับขี่ มาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุอีกครั้ง ส่วนในเรื่องของการบังคับเกี่ยวกับกฎหมายคาร์ซีทสำหรับเด็ก จริงๆเป็นเรื่องของความปลอดภัยของผู้ขับขี่ รวมถึงการคาดเข็มขัดนิรภัย หากเป็นเด็กที่ไม่สามารถคาดเข็มขัดนิรภัยได้ ถ้าใช้คาร์ซีทได้จะได้รับความปลอดภัยมากกว่า อย่างกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ หากให้เด็กนั่งคาร์ซีท อาจไม่เกิดเหตุสลดใจขึ้น ตำรวจต้องสอบสวนต่อไปว่า เพราะไม่ได้นั่งคาร์ซีท หรือไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยหรือเปล่า ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น จะถือเป็นความประมาทของผู้ขับขี่ด้วยหรือไม่” พ.ต.ท.ประจวบกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า รถกระบะคันเกิดเหตุ อาจมีสายสิญจน์ผูกมัดบริเวณคอพวงมาลัยรถเพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อ และอาจเป็นสาเหตุให้ด้ายสายสิญจน์เข้าไปพันบริเวณคอพวงมาลัยจนทำให้พวงมาลัยรถล็อกหรือไม่นั้น จากการลงพื้นที่ตรวจสอบซากรถที่จอดอยู่ในสถานที่เก็บของกลางใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษก ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พบว่าพวงมาลัยรถยังหักเลี้ยวไปทางซ้าย สอดคล้องกับคำให้การของผู้ขับขี่ที่อ้างว่าขณะเกิดเหตุ พวงมาลัยรถหักล็อกไปทางซ้าย ทำให้รถพุ่งไปกระแทกขอบทางด้านซ้ายของทางด่วน ส่วนที่บริเวณคอพวงมาลัยรถ ไม่พบมีสายสิญจน์ผูกมัดไว้แต่อย่างใด