หัวข้อวิธีใช้กโลบายยิ้ม เชิงปฏิบัติ ในหนังสือ “ยิ้ม” กโลบายเหนือผู้พิชิต (เว่ย ถงเลี่ยง เขียน อธิคม สวัสดิญาณ เรียบเรียง สำนักพิมพ์เต๋าประยุกต์ พ.ศ.2552) มี 83 ตัวอย่าง ผมเลือกอ่านตัวอย่างที่ 76

จูหยวนจางสถาปนาราชวงศ์หมิง

จูหยวนจาง เกิดในครอบครัวชาวนาจน เมืองหางโจว ค.ศ.1328 เป็นคนมีสติปัญญา กล้าหาญ เชี่ยวชาญใช้กโลบายยิ้ม ชนะใจคนแทบทุกสถานการณ์

อ่านวิธีที่เล่าปี่ได้ ขงเบ้ง ผู้หยั่งรู้ดินฟ้า...มาใช้ จนตั้งตัวเป็นผู้นำหนึ่งในสามก๊ก...กันไปแล้ว วิธีที่จูหยวนจางใช้ ได้ตัว หลิวจี ชื่อรอง ป๋อเงีน แปลกและแตกต่างยิ่งกว่า

หลิวจีรอบรู้กฎหมาย วรรณคดี ประวัติศาสตร์ รู้แจ้งตำราพยากรณ์ มีสติปัญญามากอุบาย เป็นบัณฑิตที่โดดเด่นที่สุดทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำ ทั้งขุนนางราชวงศ์มองโกล และผู้นำกบฏที่นำทัพต่อต้าน เคยเชิญหลิวจีไปช่วย

แต่ถูกปฏิเสธหรือช่วยก็ไม่นาน ก็กลับไปแสวงวิเวกที่ชิงเถียนถิ่นเกิด

เมื่อจูหยวนจาง เริ่มเป็นใหญ่ ก็ส่งคนไปเชิญถึงสองครั้ง แต่ก็ไร้ผล

เรื่องที่จูหยวนจาง ตัดสินใจไปเชิญหลิวจีที่บ้าน เล่ากันไว้หลายฉบับ เรื่องต่อไปนี้สนุกมีสีสันกว่า

จูหยวนจาง สืบรู้ร่องรอยหลิวจีชัดเจน วันหนึ่งเขาปลอมเป็นชาวนา ไปนอนกลางทางเดิน ถ่างขาออก กางแขนตรง หนุนหัวด้วยคานหาบของ แสร้งนอนหลับสนิท

เมื่อหลิวจีเดินผ่าน เห็นท่านอนพิสดาร เหมือนอักษรเทียน ซึ่งแปลว่าท้องฟ้า ก็อดหัวเราะไม่ได้ หลุดปากว่า

“คนผู้นี้ แม้ยามหลับก็ยังคิดขึ้นสวรรค์”

หลิวจีพูดจบ จูหยวนจางก็พลิกตัว สองมือคว้าคานหาบใต้หัว มาวางทับขวางหว่างเอว ขาทั้งสองงอเล็กน้อย แล้วก็แสร้งหลับต่อ

หลิวจีเห็นก็ตกตะลึงว่า นี่มันอักษร “จื่อ” มิใช่หรือ? สองท่านอนก่อนหลังคนผู้นี้ มิได้หมายถึงอักษรที่หมายถึงโอรสแห่งสวรรค์ดอกหรือ? จูหยวนจางจึงลุกกระโดดขึ้น หัวเราะเสียงดังกล่าวว่า

...

“ซินแสท่านคือนักปราชญ์ ในเมื่อรู้จักโอรสแห่งสวรรค์แล้ว ใยไม่ช่วยโอรสแห่งสวรรค์”

“ท่านคือใคร” หลิวจีตกใจถาม “ไฉน พูดเช่นนี้”

จูหยวนจาง หัวเราะเสียงดังกว่าเก่า “ข้าคือเจ้าพระยาอู๋ จูหยวนจาง ข้าส่งคนมาเชิญท่านซินแสลงเขาไปช่วยข้าสองครั้ง ท่านปฏิเสธทุกครั้ง วันนี้ข้าจึงมาเชิญท่านด้วยตัวเอง”

หลิวจีเริ่มมีท่าทีรับฟัง จูหยวนจางพูดต่อ “ข้ามา ยอมนอบน้อมต่อท่านซินแส ก็เพื่อรวบรวมแผ่นดินเป็นปึกแผ่น ขจัดภัยพิบัติแค่ราษฎร หวังว่าท่านซินแสจะไม่ทอดทิ้งข้า ท่านมีข้อแนะนำใด ข้ายินดีรับฟังและปฏิบัติ”

จูหยวนจางหน้าตาท่วงทีไม่ธรรมดา ทั้งพูดจานอบน้อม หลิวจีรับปากลงเขาตามจูหยวนจางไป จูหยวนจางยินดียิ่งนัก สร้างหอคารวะปราชญ์ ให้เป็นที่พัก

เวลาสนทนากับคนอื่น ก็มักเปรียบหลิวจี เป็นจางจื่อฝาง ชื่อรองของจางเหลียง กุนซือสำคัญของหลิวปัง ปฐมจักรพรรดิราชวงศ์ซีฮั่น

หลิวจีเห็นจูหยวนจางปฏิบัติต่อตนเช่นนี้ ก็ทุ่มเทสติปัญญาช่วยวางแผนคิดอุบาย นี่คือหนึ่งในหลายๆยิ้ม ที่จูหยวนจางใช้กับคนเก่งใกล้ตัว จนภารกิจสถาปนาอาณาจักรไต้หมิงลุล่วง

กโลบายยิ้มเหนือผู้พิชิต ที่จูหยวนจางใช้...ผมอ่านไปมากๆดูชักซับซ้อน

สำหรับคนไทย สอนลูกหลานให้รู้จักใช้เป็นคำกลอนง่ายๆ อาจารย์วิษณุ เครืองาม ท่านเพิ่งพูดเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง “ปรารถนาสารพัดในปฐพี เอาไมตรีแลกได้ดังใจจง”.

กิเลน ประลองเชิง