ดีเอสไอเปิดยุทธการปราบโกงสายฟ้าฟาด (ปฏิบัติการ Electrical Shock) ปูพรมค้น 41 จุด ลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า ทำเหมืองขุดบิตคอยน์เลี่ยงภาษี
ก่อนหน้านี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคำร้องเรียนการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี ลักลอบตั้งเหมืองขุดเงินดิจิทัลโดยเฉพาะบิตคอยน์โดยผิดกฎหมาย
นำเครื่องมือขุดบิตคอยน์เข้ามาจากต่างประเทศ และขโมยใช้กระแสไฟฟ้าทำประเทศเสียหาย!
นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ มอบหมายให้ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ งานรับผิดชอบสืบสวน ประสานการไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค รวมทั้งกรมศุลกากรตรวจพบจุดต้องสงสัยกระจายในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯและปริมณฑล
ใช้กระแสไฟฟ้าปริมาณมากเทียบเท่ากับโรงงานอุตสาหกรรม แต่ลักลอบต่อไฟตรงไม่ผ่านมิเตอร์ อันเป็นการลักกระแสไฟฟ้า เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ และอาจมีความผิดอาญาอื่นที่เกี่ยวข้องอีกหลายฐานความผิด
กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดำเนินการสืบสวนจนพบกลุ่มนายทุนที่มีพฤติการณ์จัดหาอาคารพาณิชย์กว่า 41 แห่ง เช่าไว้ใช้เป็นจุดวางเครื่องขุดเงินดิจิทัล แต่ละอาคารวางเครื่องขุดเงินจุดละประมาณ 100 เครื่อง ลักลอบต่อไฟตรงเข้าตัวอาคารไม่ผ่านมิเตอร์ ทำให้เสียค่าไฟฟ้าต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก
จากที่ต้องเสียค่าไฟประมาณเดือนละ 500,000 บาท เป็นจ่ายค่าไฟจริงเพียงแห่งละ 300–2,000 บาทเท่านั้น ทำให้การไฟฟ้านครหลวงเสียหายกว่า 20 ล้านบาทต่อเดือน หรือปีละเกือบ 300 ล้านบาท!
งานนี้ดีเอสไอและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยึดเครื่องขุดเงินดิจิทัลกว่า 2,000 ตัว มูลค่ารวมกว่า 400 ล้านบาท ไว้ตรวจสอบ รวมทั้งตรวจสอบกับกรมศุลกากรว่านำเข้าราชอาณาจักรไทยโดยผ่านพิธีการทางศุลกากรโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากเข้าข่ายการกระทำความผิดที่เป็นคดีพิเศษจะได้รับคดีดังกล่าวไว้สอบสวนต่อไป
...
งานนี้นอกจากจุดที่ตรวจค้น ปรากฏว่ามีการใช้ไฟผิดปกติอยู่ทั่วประเทศ!
แสดงว่ากลุ่มแก๊งเหล่านี้เริ่มบุกประเทศไทยแล้ว
เรื่องนี้ต้องรีบแก้ นี่ถ้าไม่ผิดข้อหาขโมยไฟหลวง ยังไม่รู้เลยจะเอาข้อหาหลักอะไร?
สหบาท