“บิวกิ้น” นักแสดงหนุ่มซีรีส์วายผวา เจอสาวลึกลับคุกคาม ขับเก๋งดำตามประกบ 3 วัน สุดทนต้องจอดรถลงไปถามถึงวัตถุประสงค์ แต่สาวลึกลับไม่คุยด้วยออกตัว ขับรถหนี เห็นลางๆเป็นผู้หญิงผมยาว นั่งหน้า 2 คน ต้องแจ้งความลงประจำวันไว้ที่ สน.บางพลัดขณะที่ต้นสังกัดส่งฝ่ายกฎหมายตามคดีต่อ เบื้องต้นพบเป็นรถเช่า เจ้าตัวเปิดใจนักข่าว ถึงจะเป็นบุคคลสาธารณะแต่ขอพื้นที่ส่วนตัวไว้บ้าง
เป็นประเด็นฮือฮาระคนระทึก หลังนักแสดงชื่อดัง “บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล” วัย 22 ปี ที่โด่งดังจากบท “หมอเต่า” ในละครเรื่อง “My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน” และบท “เต๋” จากซีรีส์ “แปลรักฉันด้วยใจเธอ” จนกลายเป็นขวัญใจวัยรุ่นทั่วประเทศโพสต์ ข้อความในสตอรีอินสตาแกรมเมื่อวันที่ 10 ก.พ.ว่าโดนคนขับรถตามขณะกลับบ้านและออกจากบ้านเป็นรถคันเดียวกันเป็นเวลาหลายวัน ทำให้เจ้าตัวห่วงความปลอดภัยของครอบครัว เมื่อจอดรถลงไปขอพูดคุย แต่คู่กรณีไม่ยอมเปิดกระจกลงมาคุยด้วยและขับหนีไป รวมทั้งบริษัท นาดาว บางกอก ต้นสังกัด ออกประกาศในวันเดียวกันว่ามีผู้ไม่หวังดีบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวของศิลปินในสังกัดด้วยการขับรถตาม ขอความร่วมมือให้เคารพพื้นที่ส่วนตัวของศิลปินทุกคน ขณะที่บิวกิ้น ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางพลัด เมื่อวันที่ 9 ก.พ. และให้ทีมทนายบริษัท นาดาว บางกอก ต้นสังกัด เข้าแจ้งความ เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบหาตัว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.พ. บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ ให้สัมภาษณ์เปิดใจเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านโปรแกรมซูมว่า เริ่มจากวันเสาร์ที่ 5 ก.พ. ออกจากบ้านจะไปหาเพื่อนย่านพระราม 4 พอขึ้นทางด่วนเริ่มรู้สึกเหมือนมีคนขับรถตาม จนถึงจามจุรีสแควร์ แต่ยังไม่ได้มั่นใจมากนัก ครั้งที่ 2 เป็นวันจันทร์ที่ 7 ก.พ. ไปไลฟ์สดงานที่โรงแรมบันยันทรี ออกมาประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ พอเลี้ยวรถออกจากโรงแรม รู้สึกเหมือนโดนตามอีกเห็นเป็นรถสีเดิมรุ่นเดิม ระหว่างทางพยายามเช็กว่าเขาขับตามจริงหรือเปล่า ลองขับชิดขวาสุด ลองขับเร็ว หรือลองชิดซ้ายขับช้าๆดู ก็ยังตามอยู่ไม่ยอมแซง เริ่มรู้สึกว่าต้องเป็นคันเดียวกับวันก่อน จนใกล้ถึงบ้าน เขาเห็นตนจอดเปิดไฟฉุกเฉินเขาก็ขับออกไป ได้ไปคุยกับคุณพ่อว่าช่วง 2-3 วันนี้มีคนขับรถตาม
...
นักแสดงหนุ่มขวัญใจวัยรุ่นเล่าเหตุระทึกที่ถูกคุกคามต่อว่า ล่าสุดคือวันที่ 9 ก.พ. กลับจากเซ็นทรัลเวิลด์ไปงานรอบสื่อหนังพอขับออกจากห้าง รู้สึกว่าโดนตามอีกแล้ว มีรถคันนี้ สีเดิม รุ่นเดิม ลักษณะเดิมขับตามมาอีก รู้สึกว่าใช่แน่รอบนี้ เลยโทร.หาคุณพ่อว่ากำลังโดนตาม คุณพ่อถามว่าอยากลงไปคุยไหมก่อนที่จะขับรถออกมาด้วย เพราะเขาไม่อยากให้คุยคนเดียว แถวบ้านตนจะมีอุโมงค์ที่กลับรถไปฝั่งตรงข้ามเป็นถนนเลนเดียว ตนขับเข้าไปแล้วจอดรถลงไปกับคุณพ่อบอกว่าขอโทษนะครับลดกระจกลงมาคุยกันหน่อยได้ไหม เขาก็ตกใจขับรถแทรกหนีไป แต่ไม่เป็นไรเพราะเรามีทะเบียนรถ สีรถอะไรหมดแล้ว คืนนั้นก็ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางพลัด วันรุ่งขึ้นบริษัท นาดาว บางกอก ต้นสังกัด ให้ทีมกฎหมายไปแจ้งความที่ สน.บางพลัด ตำรวจกำลังสืบเรื่องอยู่
เมื่อถามว่าถ้าจับตัวคนขับรถที่ตามได้แล้วจะดำเนินการให้ถึงที่สุดหรือไม่ บิวกิ้นบอกว่า อาจจะต้องสืบก่อนว่าเขามาด้วยเจตนาอะไร ถ้ามาตามเฉยๆ ก็จะคุยกัน ปรับความเข้าใจกันได้ หรือถ้าประสงค์ไม่ดีมาแอบถ่ายตนและครอบครัว ตนอาจจะมีวิธีจัดการอีกแบบหนึ่ง เพื่อที่จะสร้างมาตรฐานให้รู้สึกกลัว ไม่ใช่ว่าทำแล้วหายไป ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง อยากจะทำให้เป็นบรรทัดฐานมากกว่า เพราะรู้สึกว่ามันรุกล้ำสิทธิความเป็นส่วนตัว เพราะที่บ้านมีอาม่า อากง และญาติๆอยู่กันเยอะด้วย เมื่อถามว่าตอน
ที่ลงไปจากรถเห็นไหมว่ามากี่คน บิวกิ้นตอบว่า เห็นลางๆว่าเป็นผู้หญิง ผมยาว ผมสีทอง ใส่หมวกแก๊ปใส่แมสก์ มาด้วยกัน 2 คน เพราะนั่งหน้า ส่วนข้างหลังมองไม่เห็น ที่ตัดสินใจจอดรถลงไปถามคิดว่าถ้าไม่ลงไปคุยก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ประจันหน้าอีกตอนไหน แล้วมั่นใจด้วยว่าเขาตามมาแน่ๆ ไม่ทราบเลยว่าเขาเป็นแฟนคลับตนหรือเป็นใครไม่รู้ว่าเจตนาอะไร ตอนนี้ไม่มีกล้องหน้ารถที่เป็นหลักฐาน ต่อไปคงต้องติดกล้องไว้ ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นจะส่งผลกับการทำงานหรือไม่ คงไม่ขนาดนั้นเพราะบริษัทก็ช่วยดำเนินการอย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาตนก็ขับรถปกติ ไปไหนมาไหนคนเดียว มีทีมงานและครอบครัวรับทราบว่าไปไหนทำอะไร
ส่วนในแง่การติดตามคดีมองว่ามีแนวโน้มติดตามตัวได้ไหม ตนจำสีรถและลักษณะรถเหมือนกันทั้ง 3 ครั้ง ส่วนทะเบียนรถวันที่ลงไปคุยก็ถ่ายรูปไว้ รายละเอียดบริษัทต้นสังกัดก็ให้ทนายส่งไปให้ตำรวจแล้วเขาก็ดำเนินการต่อคือเบื้องต้นเป็นรถเช่า ก็อาจจะต้องสืบว่าคนเช่าเป็นใคร สุดท้ายอยากฝากว่าถึงเป็นบุคคลสาธารณะ เราก็เป็นคนเหมือนกันที่ไม่ชอบโดนรุกล้ำความเป็นส่วนตัว ถ้าเป็นคนที่ชื่นชอบก็ขอบคุณมากๆที่ติดตามแต่อยากให้ไปเจอกันตามงานต่างๆที่บริษัทจัดไว้ให้ ขอเหลือพื้นที่ให้ทุกคนได้มีเวลาส่วนตัวของตัวเองบ้าง และขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงกัน
ด้าน ร.ต.ท.กีรติ พูลจันทร์ รอง สว. (สอบสวน) สน.บางพลัด เปิดเผยว่า นายพุฒิพงศ์ หรือบิวกิ้น มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. วันที่ 10 ก.พ. แจ้งว่ามีรถเก๋งต้องสงสัย สีดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับสะกดรอยตามหลังมา 3 วันแล้ว
ตั้งแต่ออกจากบ้านและตามไปทุกที่ กระทั่งวันที่เกิดเหตุกำลังจะกลับบ้านย่านบางกรวย เมื่อมาถึงร้านช่างชุ่ย ถนนสิรินธร แขวงและเขตบางพลัด กรุงเทพฯ ได้จอดรถลงไปสอบถามถึงเหตุผลที่ขับรถตาม แต่รถคันดังกล่าวติดฟิล์มทึบไม่ยอมเปิดประตูลงมา สังเกตเห็นว่าคนในรถผมยาว คาดว่าจะเป็นผู้หญิงและขับรถหลบหนีไป ในใจคิดว่าคงเป็นแฟนคลับ แต่ขอลงบันทึกประจำวันป้องกันตัวเอง และครอบครัวไว้ก่อน