ระวังรับพัสดุสอดไส้ "ยาเสพติด" เสี่ยงติดคุก ต้องเช็กให้ดี ไม่แกะ ไม่เปิด

บานปลายหลายกรณี สำหรับเหตุการณ์การลักลอบฝากส่งยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายผ่านเส้นทางไปรษณีย์ไปสู่มือผู้รับ กลายเป็นประเด็นใหญ่โตเกิดขึ้นในสังคม ทว่า "ผู้รับ" ปฏิเสธชัดเจนว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับการลอบส่งยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นสิ่งของที่ต้องห้ามฝากส่ง ตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477

แต่ที่กลายเป็นข่าวดังแรกเริ่มเดิมทีคือ กรณีที่ พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือสารวัตรแย้ สว.กก.2 (ธุรการ) ทท.2 (เชียงใหม่) บช.ทท. ได้มีพัสดุส่งมาถึงบ้าน ระบุชื่อผู้รับ “นายพิเชษฐ เสาแบน”  “สารวัตรแย้” มาให้ปากคํา ล่า “นายไบเล่ย์” ตัวสั่งส่งพัสดุ! (คลิป) หรือกรณีที่ น.ส.สุปราณี พลดอน ชื่อเล่นน้องปลา อายุ 22 ปี ศึกษาระดับ ปวช.ปีสุดท้าย ที่สถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่ง ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด จับในข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครอง ณ บ้านเช่าแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด  ตำรวจร้อยเอ็ด จับสาวคนสั่งการ ส่งพัสดุยัดยาเสพติดให้สาว ปวช.เรียนดี

โยงมาสู่เหตุการณ์ครั้งล่าสุด มีการส่งยาเสพติด ระบุรายชื่อถึงคนที่เสียชีวิตไปแล้วถึง 7 ปี ผู้รับเอะใจ ไปเรียกตำรวจมาตรวจสอบ จึงรู้ว่าในกล่องพัสดุมียาบ้าอยู่ถึง 4 หมื่นเม็ด ออกหมายจับ 2 คนร้ายส่งยาบ้าให้คนตายที่ อ.ท่าชนะ เชื่อทำกันมาหลายครั้ง

ไปรษณีย์ไทย ยืนยันปลอดภัย ต้องแสดงบัตรประชาชนทุกครั้งที่ส่ง 

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมาทางไปรษณีย์มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ป้องกันการลักลอบฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมาย โดยการให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนทุกครั้งที่ส่ง เพราะสามารถตรวจสอบไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมายได้ทันที 

"นอกจากนั้น ภายในไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) และเครื่องสแกนวัตถุระเบิดแบบ X-ray ณ ศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ เนื่องจากว่าการฝากส่งยาเสพติด และอาวุธทางไปรษณีย์เป็นการกระทำที่ "ผิดกฎหมาย" อย่างชัดเจน ที่ผ่านมาก็ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบ"  

พร้อมบอกด้วยว่า สิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ 7 ประเภท ได้แก่ 1.สัตว์มีชีวิต 2.สิ่งเสพติด 3.สิ่งลามกอนาจาร 4.วัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ 5.วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกัน 6.ธนบัตร และ 7.สิ่งของปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบโดยละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งหากพบการลักลอบส่งของผิดกฎหมาย ไปรษณีย์ไทยยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสืบหาตัวผู้กระทำความผิด

ตำรวจเตือน "ไม่ได้สั่งของ ไม่ต้องรับ ไม่ต้องเปิด"

ขณะที่พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ รอง ผบก.ปส.3 กล่าวว่า โดยปกติแล้ว ถ้าจะมีใครส่งของมาให้ ต้องแจ้งให้เราทราบก่อนว่าจะส่งอะไรยังไง หรือแม้กระทั่งของที่เราสั่งเองทางออนไลน์ ต้องตรวจเช็กให้ชัดเจนว่าเราได้สั่งของแน่นอนมั้ย ถ้าเราไม่ได้สั่งก็ไม่ต้องเซ็นรับ และไม่ต้องอยากทราบว่าในกล่องมีอะไรให้ผู้นำส่งเอากลับไปเลย ในส่วนของยาเสพติด

"เป็นไปได้ยากมากที่ผู้ขายจะส่งผิดมือ เนื่องจากว่าเป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูง โดยส่วนใหญ่ที่แก๊งคนร้ายมักจะส่งไปยังที่อยู่ชัดเจน แต่อาจไม่ระบุห้อง จากนั้นผู้รับจะไปรับเองที่นิติบุคคล หรืออีกทางคือ ส่งแบบที่อยู่ผิด และไปรษณีย์ตีกลับ จากนั้นผู้รับก็จะไปแสดงตัวรับเอง ณ ที่ทำการไปรษณีย์"

หรืออีกกรณีหนึ่งคือ ผู้สั่งซื้อจงใจสั่งไปให้ส่งกลับมาในชื่อคนใกล้ตัว โดยที่คนใกล้ตัวก็ไม่รู้ เมื่อไปรษณีย์มาส่ง ผู้สั่งสามารถสวมรอยรับไว้ได้ หรือเจ้าของชื่อที่ระบุหน้ากล่องอาจรับเอาไว้ด้วยความไม่รู้ ดังนั้นเราต้องดูความเชื่อมโยงด้วยว่า ชื่อหน้ากล่องที่ระบุถึงมีความเชื่อมโยงกับใครอย่างไร เป็นแฟน หรือเป็นคนใกล้ตัวที่ติดยาเสพติด ใช้ชื่อเราเป็นคนสั่งของหรือไม่ ส่วนที่ว่าส่งเพื่อกลั่นแกล้ง ค่อนข้างเป็นไปได้น้อยมาก เพราะอย่างที่บอกไปคือยาเสพติดมีมูลค่าสูง

"ในกรณีที่ส่งยาเสพติดระบุชื่อคนที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ต้องดูด้วยว่าใครเป็นคนแอบอ้างสั่ง คนใกล้ตัว คนข้างบ้านมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ใครมีแนวโน้มเป็นไปได้มากสุด เพราะเมื่อของถูกไปรษณีย์ตีกลับไปยังสถานที่ทำการ โดยไม่มีใครเอะใจนึก เจ้าตัวที่สั่งจริงๆ อาจจะเข้าไปรับของเองยังที่ทำการไปรษณีย์ก็เป็นได้ ดังนั้น หากไม่อยากตกเป็นเหยื่อ ทางที่ดีที่สุดคือ ถ้าไม่ได้สั่งของ ไม่ต้องรับ ไม่ต้องเปิด และอย่าให้ใครสวมอ้างนำชื่อตัวเองไปสั่งของเด็ดขาด เพราะอาจเจอเรื่องไม่คาดฝันได้" พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ รอง ผบก.ปส.3 กล่าว 

ตกเป็นเหยื่อเซ็นรับพัสดุแล้ว ต้องทำอย่างไร  

ทนายเชาว์ มีขวด ทนายความอาสา อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ ให้ข้อมูลกับเราในเรื่องนี้ว่า ภัยใกล้ตัวรับ-ส่งของทางพัสดุไปรษณีย์สุดท้ายพบยาเสพติดหรือของผิดกฎหมาย ต้องถูกดำเนินคดีติดคุกจะทำอย่างไรนั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เป็นภัยใกล้ตัวในยุคการขนส่งพัสดุกำลังได้รับความนิยม นักค้ายาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายจึงใช้วิธีการอาศัยเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์กและเว็บไซต์เป็นช่องทางทำมาหากิน ไม่ว่าจะเป็นวิธีฝากส่งของทางพัสดุไปรษณีย์ หรือตามขนส่งเอกชนที่มีการให้บริการกันอยู่ทั่วไป

"ต่อกรณีเคสตัวอย่างที่ถามว่า หากเราไปรับของพัสดุไปรษณีย์ที่ส่งมาถึงเราแล้วปรากฏว่าข้างในเป็นยาเสพติดหรือของผิดกฎหมาย โดยเราไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องด้วย แล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี อย่างนี้จะทำอย่างไรนั้น ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ระบบการดำเนินคดีทางอาญาของประเทศไทยเราเป็นระบบการกล่าวหา ดังนั้นเมื่อพบการกระทำความผิดดังกรณีตัวอย่างถือว่ามีพยานหลักฐานชัดแจ้ง พอสมควร พนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับเรา"

ทนายเชาว์ บอกด้วยว่า ขั้นตอนต่อไปเป็นหน้าที่ของเรา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย จะต้องนำพยานหลักฐานเข้าแก้ข้อกล่าวหาในชั้นสอบสวนและชั้นศาล ซึ่งเรื่องนี้ถ้าเราถูกกลั่นแกล้ง ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจริง พิสูจน์ได้ไม่ยาก พยานหลักฐานความสัมพันธ์ต่างๆ ระหว่างเรากับกลุ่มคนร้ายถ้าไม่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน รวมทั้งไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องเคยกระทำความผิดมาก่อน ก็สามารถนำพยานหลักฐานเข้าพิสูจน์ต่อพนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการ เพื่อให้สั่งไม่ฟ้อง หรือถ้าสั่งฟ้องก็สามารถต่อสู้คดีในชั้นศาลได้ไม่ยาก

"อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาแล้วว่าระบบการดำเนินคดีประเทศไทยเราเป็นระบบกล่าวหา เพราะฉะนั้นเมื่อตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยแล้วก็จะต้องหาเงินหาหลักทรัพย์มาประกันตัวต่อศาล หรือถ้าไม่ได้รับการประกันตัวก็ต้องต่อสู้คดีอยู่ในเรือนจำระหว่างพิจารณา ถ้าศาลยกฟ้องโดยปราศจากข้อสงสัย เราก็มีสิทธิ์ได้รับเยียวยาค่าทดแทนจากรัฐ แต่ก็จะได้ไม่มาก เรียกว่าถ้ามาถึงขั้นนี้ก็ถือว่าถึงคราวเคราะห์" 

บิ๊กแดงขอความร่วมมือบริษัทขนส่งพัสดุ อย่าให้ใครฉวยโอกาส 

ก่อนหน้านี้ "พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ." ในฐานะรอง ผอ.รมน. ให้ข้อมูลถึงเรื่องดังกล่าวว่า ปัญหาการใช้บริการบริษัทขนส่งในการส่งยาเสพติด อาวุธสงคราม หรือสิ่งผิดกฎหมายผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ ปัจจุบันมีการค้าขายผ่านทางออนไลน์จำนวนมาก นับล้านๆ ชิ้นต่อวัน ทางบริษัทจึงควรมีมาตรการในการดูแลไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขนส่งดังกล่าว

"ทางผู้ให้บริการจะต้องเข้มงวดต่อผู้ที่มาส่งพัสดุสิ่งของกับทางบริษัทฯ อาทิ การใช้บัตรประชาชนให้ตรงกับผู้ที่มาส่ง การจดรายละเอียด หรือจะต้องติดกล้องวงจรปิดให้เห็นหน้าผู้ที่มาส่งของอย่างชัดเจน และขอความร่วมมือกับทางผู้ที่จะมาส่งพัสดุให้ถอดแว่น ถอดหมวก เป็นต้น เรื่องการปราบปรามยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายเป็นนโยบายของทางรัฐบาล"

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำทุกภาคส่วนให้ดำเนินการทันทีเป็นงานเร่งด่วนใน 3 เดือน ตั้งแต่ชายแดนทั้งจุดตรวจ จุดสกัด จนมาพบว่าการขนส่งยาเสพติดผ่านระบบโลจิสติกส์จนเป็นที่น่าตกใจ จึงเป็นที่มาของการเชิญผู้ประกอบการมาประชุมในวันนี้ ผมเชื่อมั่นจะมีการพิจารณาแก้ไขปัญหา พ.ร.บ. และแก้กฎหมายในอนาคตอันใกล้ ทาง กอ.รมน.ถือว่าเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการ

"เรื่องยาเสพติดและอาวุธสงคราม ผมจะไม่หยุดเพียง 3 เดือน แต่จะทำแบบเข้มข้นตลอด เพราะถือว่าเป็นตัวทำลายชาติและเยาวชนคนไทยอย่างยิ่ง ซึ่งมาตรการเร่งด่วนใน 3 เดือนนั้น เป็นเพียงสถิติตัวเลขที่ชี้ให้เห็นว่าปริมาณที่สิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในประเทศไทยมากมายมหาศาล".