"เพราะรักเกินรักมักจะทำลาย" กลายเป็นปมกำเนิดของเหตุผลที่ว่า รักกันทำไมต้องฆ่าให้ตาย ? .... ความรักรุนแรงเปลี่ยนเป็นอารมณ์อาฆาตแค้นไม่ใช่เพิ่งมาเกิดขึ้นในรอบปีสองปี เพราะมันมีมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ และที่ผ่านๆ มา ข่าวจากสื่อตีแผ่สะท้อนให้เห็นว่า พฤติกรรมการฆ่าขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะ ฐานะ อาชีพ หากย้อนไปเมื่อ 30 กว่าปีก่อน ใครเกิดทันยุคสมัยนั้น คงทราบข่าวรักลือลั่น เปลี่ยนเป็นแค้นจนต้องฆ่าหั่นศพ
2 คดีใหญ่ๆ ที่ทำเอาคนไทยต้องฉงนสงสัย คนที่เขค้าเก่ง และมีสมองระดับแพทย์ หรือนักเรียนแพทย์ ทำไมถึงมีวุฒิภาวะต่ำยับยั้งใจไม่ได้ ถึงกับต้องลงมือฆ่าชำแหละศพคนรัก ด้วยการวางแผนสุดแยบยล กว่าตำรวจจะสืบสาวค้นพบหลักฐานว่า "ฆาตกรที่ลงมือฆ่า คือคู่รักของผู้ตาย" ก็ใช้เวลานานพอสมควร เฉกเช่นคดีของ "หมอเสริม สาครราษฎร์" อดีตนักเรียนแพทย์ในสมัยนั้น ก่อเหตุฆ่าหั่นศพอำพรางคดี นางสาวเจนจิรา พลอยองุ่นศรี แฟนสาววัย 22 ปี นักศึกษาแพทย์ปี 5 มหาวิทยาลัยเดียวกัน สู่การหั่นศพคนรักเป็นชิ้นๆ นำซ่อนเร้นอำพรางหลักฐาน

...
รวมไปถึงวีรกรรมที่ทำเอาคนไทยต้องจดจำไปทั้งประเทศ "นพ.วิสุทธิ์ บุญเกษมสันติ" วางแผนฆ่า "พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ" ภรรยาที่แต่งงานถูกต้องตามกฎหมาย "นพ.วิสุทธิ์" ใช้ยานอนหลับผสมในอาหารและเครื่องดื่มให้ภรรยารับประทานจนเกิดอาการง่วงนอน มึนงง จากนั้นได้ประคอง พญ.ผัสพรออกจากห้องอาหารท่ามกลางสาธารณชน จากนั้นได้หน่วงเหนี่ยวกักขัง พญ.ผัสพร ไว้ที่ห้องพักเลขที่ 318 อาคารวิทยนิเวศน์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนที่จะใช้ของแข็งมีคมเป็นอาวุธทำการประทุษร้ายร่างกาย พญ.ผัสพร
ถือเป็นคดีที่โหดซ้ำรอย "หมอเสริม สาครราษฎร์" เพราะเค้าได้ใช้มีดผ่าตัดแล่ชิ้นเนื้อและอวัยวะต่างๆ จากศพ ก่อนนำไปทำลาย ณ ห้องพักเลขที่ 1631 โรงแรมแห่งหนึ่ง เพื่อยักย้ายซ่อนเร้นศพ นำชิ้นเนื้อ เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของศพไปลอบฝัง ลอบทิ้งในสถานที่ต่างๆ เพื่อปิดบังการตายและเหตุแห่งการตาย (เลือดสาดกระเซ็น! รวม 2 คดีสยองขวัญ ฆ่าหั่นศพในตำนาน อำมหิตเล่าขานไม่รู้ลืม)
- คนรักฆ่ากันตาย ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี -
30 กว่าปีผ่านไป ความรุนแรงของ "คนรักกัน" เกิดถี่ขึ้น เมื่อความรักถึงทางตันไม่สมหวัง ลงเอยด้วยการแยกย้ายกันดีๆ ไม่ได้ ความตายกลายเป็นจุดจบที่หลายๆ คู่เลือกให้มันเกิดขึ้น สร้างปมร้าวลึกให้คนในครอบครัว เพื่อนร่วมงานและสังคมรอบข้าง "อารมณ์ชั่ววูบ ทำให้เขาตามืดบอด ฆ่าแม้กระทั่งคนที่ตัวเองรัก ซึ่งบางเคสก็ฆ่าตัวเองตายตาม"
โดยเฉพาะในห้วงเวลาของ มกราคม 2562 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เกิดคดีฆ่าคนรักตายด้วยวิธีการต่างๆ ด้วยความแค้นถี่ยิบจนสังคมพากันตั้งคำถาม เกิดอะไรขึ้นกับวุฒิภาวะ อารมณ์ ของคนในสังคมไทย
- ไอ้ธน หนุ่มสตูล กระทืบเมียเสียชีวิตจมกองเลือด -
วันที่ 10 ม.ค. 62 เกิดเหตุ นายธนภัทร หรือศักดิ์ชัย หรือ ธน สงวนเขียว อายุ 28 ปี ทำร้ายร่างกาย น.ส.สุกัญญา บิลหมัดอาด หรือน้องเมย์ อายุ 28 ปี ภรรยาสาว กระทืบจนเสียชีวิต ยังบ้านพักใน ม.2 ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล เนื่องจากมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนจะปล่อยร่างไร้ลมหายใจของน้องเมย์ทิ้งไว้ในบ้านพัก อย่างไร้เยื่อใย ส่วนนายธนได้ขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีแดง หนีหาย ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เรียกรถพยาบาล ใช้เครื่องช่วยหายใจและปั๊มหัวใจตลอดเวลา ซึ่งหลังจากน้องเมย์เข้าห้องฉุกเฉิน รพ.สตูล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- เขยคลั่งบุกยิงยกครัวเมีย ตาย 5 ศพ ชี้ปมแค้นหึงหวง -
...
วันที่ 13 มกราคม 2562 เขยคลั่ง ก่อเหตุฆ่าสยองยกครัว 5 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย คนร้ายคือ นายธีรพล ปิ่นอมร อายุ 38 ปี บุกยิงพ่อตา แม่ยาย เมียที่กำลังท้อง 4 เดือน และพี่เมียน้องเมียอีก 2 คนตายคาที่และเจ็บอีก 2 ราย เหตุเกิดยังบ้านเลขที่ 71 ม.2 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ โหดเหี้ยมไปกว่าเมื่อทราบว่าตัวเขาได้ยิงทะลุศีรษะ และกลางหลัง นางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ซึ่งเป็นภรรยากำลังตั้งครรภ์ประมาณ 4 เดือน เสียชีวิตคาที่ในโรงจอดรถ สาเหตุทราบว่า มีปัญหาทะเลาะกับภรรยาบ่อยครั้งจากความหึงหวง ซึ่งวันเกิดเหตุทะเลาะกันตั้งแต่ช่วงเช้า และก่อนหน้านี้เคยถูกขู่จะฆ่ายกครัว กระทั่งก่อเหตุสลดดังกล่าว
ประวัติของคนร้ายโชกโชนไม่ธรรมดา ทั้งกร่าง เสพยา ค้ายาข้ามชาติ จนรวยอู้ฟู่ หลังก่อเหตุพยายามหลบหนีไปหลายวัน แต่ท้ายที่สุดต้องจนมุมเจ้าหน้าที่เพราะเกิดอาการเสี้ยนยาระหว่างหลบหนี โผล่ตัวออกมาหาซื้อยาบ้าจากวัยรุ่นในจังหวัดระนอง กระทั่งถูกแจ้งเบาะแสตำรวจตามรวบตัวได้ในที่สุด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

...
- ดาบตำรวจ สุดหึงไม่พอใจ ถูกสาวบอกเลิก บุกยิงตายถึงที่ทำงาน ก่อนยิงตัวตายตาม -
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 14 ม.ค.62 เกิดเหตุสะเทือนขวัญ เมื่อ ด.ต.ชัยวิชิต สมฤทธิ์ อายุ 49 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน หึงโหดบุกยิงหัว น.ส.ธัญญรัตน์ ปันแก้ว อายุ 23 ปี ตำแหน่งพนักงานราชการฝ่ายการเงินและบัญชี เพิ่งบรรจุเข้าทำงานได้ประมาณ 4 เดือนเศษ แฟนสาว ตายสยองถึงที่ทำงานภายในสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 แม่ฮ่องสอน ก่อนกลับมายังห้องพักจ่อยิงขมับตัวเองตายตาม ส่วนสาเหตุการก่อเหตุ เนื่องจากฝ่ายชายที่มีความหึงหวง อารมณ์ร้อน และเกิดมีปากเสียงบ่อยครั้ง จนฝ่ายหญิงขอเลิก เกิดความเครียดที่อาจจะโดนปันใจจึงก่อเรื่องสยองดังกล่าว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านั้น ด.ต.ชัยวิชิต ได้แต่งกายชุดเครื่องแบบ ขึ้นไปสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน แล้วก่อเหตุยิง น.ส.ธัญญรัตน์ ปันแก้ว แฟนสาวเสียชีวิตคาที่ทำงาน จากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์กลับเข้ามาห้องพักแฟลตตำรวจ ห่างกันประมาณ 30 นาที ก็ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกระบอกประจำกายกระบอกเดียวกันยิงตัวเองเสียชีวิตเป็นศพที่ 2 ส่วนสาเหตุคาดว่า ด.ต.ชัยวิชิต ซึ่งมีพฤติกรรมชอบดื่มสุราเกิดความหึงหวง ระแวงว่าฝ่ายหญิงจะตีตัวออกห่าง เพราะความแตกต่างช่วงอายุวัย และตนเองยังเคยมีครอบครัวมาก่อน
นอกจากนี้ยังเคยส่งเสียฝ่ายหญิงเรียนจนจบวิทยาลัยการอาชีพ ก่อนสอบบรรจุได้ทำงานที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน หลังได้ทำงานความสนิทสนมลดลงจากเดิม จึงทำให้ฝ่ายชายคิดว่าแฟนสาวอาจจะปันใจเป็นอื่น ระยะหลังจึงมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง จนฝ่ายหญิงรำคาญขอเลิกกับฝ่ายชาย และล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ม.ค ที่ผ่านมา ด.ต.ชัยวิชิต ยังเคยไปทะเลาะกับแฟนสาวที่ทำงานมาแล้วครั้งหนึ่ง มาครั้งนี้กลับถืออาวุธมาจ่อยิงแฟนสาวเสียชีวิตอย่างน่าสลด ก่อนหนีไปยิงตัวตายตามจบชีวิตรักของทั้งคู่
...
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ด.ต.หึงโหดถูกสาวบอกเลิก บุกยิงตายถึงที่ทำงาน

- ยิงรัวจะเอาให้ตาย ฆ่าม่ายสาวคนรัก กลางเมืองหาดใหญ่ -
เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 15 ม.ค. น.ส.ปิ่นมนัส วัยภักดิ์ อายุ 24 ปี ถูกชายหนุ่มที่คบหากันมา 4 ปี กระหน่ำยิง 3 นัดกลางเมืองหาดใหญ่ หมายเอาให้ตายคาที่ สาเหตุเกิดจากแค้นใจที่ผู้ตายซึ่งเป็นม่ายลูก 2 ได้บอกเลิก พยายามขอคืนดีแต่ไม่เป็นผล อารมณ์หึงหวงรุนแรงจึงทำให้ก่อเหตุขึ้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายธนพัฒน์ ไชยถาวร อายุ 26 ปี ชาว ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับปิดเมืองไล่ล่าคนร้ายตามเส้นทางที่หลบหนี สุดท้ายคนร้ายยอมติดต่อเข้ามอบตัวกับตำรวจแต่โดยดีหลังก่อเหตุเพียงไม่เกินครึ่งชั่วโมง พร้อมอาวุธปืน 11 มม.ที่ก่อเหตุ
ปมร้าวเกิดจากความโกรธและหึงหวง ที่ น.ส.ปิ่นมนัส ซึ่งเป็นม่ายสาวลูกติด 2 คน และเป็นเศรษฐีเจ้าของกิจการแผงขายผลไม้พงษ์เจริญใน อ.หาดใหญ่ บอกเลิกหลังจากที่คบหากันมาเกือบ 4 ปี ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์มาง้อขอคืนดีที่หน้าโรงเรียนแต่กลับถูกปฏิเสธ และขอเลิกจึงบันดาลโทสะ ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจำนวน 3 นัดหวังฆ่าให้ตาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "รัว 3 นัด จะเอาให้ตาย" บุกยิงม่ายสาว ใจกลางหาดใหญ่ โมโหถูกบอกเลิก"

- รักขมรัว 3 นัด ดับบัณฑิตสาว ลั่นไกปืนจ่อหัวตายตาม -
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. บริเวณถนนเลียบชายหาดทะเลทีเอ็มวาย เขตเทศบาลนครระยอง พบศพ น.ส.ฐิติชญา หูมแพง อายุ 24 ปี สภาพถูกยิงที่ศีรษะ หน้าอก และขาขวา รวม 3 นัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือด ส่วนมือปืนทราบชื่อคือ นายอภิวัฒน์ สุวรรณประทีป อายุ 23 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ อาการสาหัส ถูกนำตัวส่งห้องไอซียู รพ.ระยอง ต่อมาเสียชีวิตตามเป็นศพที่ 2
นอกจากนี้ยังพบรถเก๋งนิสสัน เซฟิโร่ ทะเบียน 5 กค 7038 กทม.สภาพไถลไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทางได้รับความเสียหาย โดยที่บริเวณกระจกข้างคนขับพบรูกระสุน 3 รู ตำรวจจึงรวบรวมเก็บปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวนหนึ่งไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.ชุมพล เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นบัณฑิตใหม่เพิ่งจบชั้นปริญญาตรีจาก ม.พระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) มาได้ 6 เดือน และเพิ่งมาทำงานที่บริษัทผลิตน้ำดื่มใกล้กับที่เกิดเหตุได้ไม่นาน ส่วนมือปืนเคยเป็นอดีตแฟนที่เลิกกันไปแล้ว ไม่มีอาชีพหรืองานการเป็นหลักแหล่ง ทำให้มือปืนรู้สึกเหมือนโดนกีดกันจากทางครอบครัวผู้ตาย ก่อนหน้านี้มือปืนพยายามตามง้องอนขอคืนดีหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล ก่อนเกิดเหตุได้มานั่งกินอาหารอยู่ที่ร้านครัวปากป่าก์เพื่อดักรออดีตแฟนสาวหมายจะเคลียร์ใจ เนื่องจากร้านอาหารกับบริษัทที่ผู้ตายทำงานอยู่ติดๆ กัน
"กระทั่งผู้ตายขับรถเก๋งมาถึง พอเห็นผู้ตายที่นั่งรออยู่ก็ไม่อยากลงจากรถ แต่เป็นจังหวะที่นายอภิวัฒน์หันมาเห็นรถเข้า จึงโมโหชักปืนรัวยิงไปที่กระจกข้างคนขับ 3 นัด พร้อมกับวิ่งเข้าไปกระชากประตูรถจนเปิดออก ทำให้ผู้ตายถูกยิงเข้าที่หน้าอกกับขาขวาแล้ว แต่ยังไม่หมดสติ จากนั้นผู้ตายที่บาดเจ็บได้ฮึดวิ่งหนีออกมาจากในรถเพื่อเอาชีวิตรอด แต่มือปืนยังวิ่งตามไปยิงศีรษะซ้ำจนร่วงกองกับพื้นเสียชีวิตคาที่ จากนั้นมือปืนก็หันปากกระบอกปืนมาลั่นไกใส่ศีรษะตนเองตายตามดังกล่าว".

-หมอแอร์ ให้เหตุผลถึงเรื่อง เปลี่ยนรักเป็นแค้น -
พ.ต.ท.หญิง พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือ “หมอแอร์” จิตแพทย์ประจำโรงพยาบาลตำรวจ เคยให้คำตอบถึงสาเหตุนี้ไว้ว่า เป็นรูปแบบของความรักที่เปลี่ยนเป็นความโกรธแค้น และทั้งหมดเกิดจากอารมณ์เพียงชั่ววูบเท่านั้น แม้ว่าหลายๆ คดีจะพบว่า ผู้ก่อเหตุตระเตรียมอาวุธไว้ล่วงหน้าก็ตาม ปกติคนที่รักกันจะไม่ทำร้ายกัน แต่ที่เป็นข่าวฆ่ากันไม่ได้เกิดจากความรัก เกิดจากความโกรธ ความโมโห ซึ่งจริงๆ แล้วคนเหล่านี้เคยรักกันมาก่อน รักกันมาก พอไม่สมหวัง มีปัญหา เลิกรากันไป ก็ทำใจไม่ได้ เกิดความโกรธ ความโมโห โดยเฉพาะอีกฝ่ายมีแฟนใหม่ มีคนอื่น ก็จะยิ่งมีความโกรธ บวกกับความหึงหวง พอโกรธมากๆ ก็เกิดอารมณ์ชั่ววูบ ถึงขั้นไปทำลายล้าง
"บ่อยครั้งที่คนลงมือฆ่าเป็นฝ่ายชายมากกว่าฝ่ายหญิง ทั้งๆ ที่คนทั่วไปมักรู้สึกว่านิสัยหึงหวงมักเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่จริงๆ แล้ว ทั้งหญิงและชาย ล้วนมีความหึงหวงเหมือนๆ กัน ยิ่งประกอบกับความเชื่อผิดๆ ที่ว่า “ฉันไม่ได้ คนอื่นก็ต้องไม่ได้” ยิ่งทำให้คนที่เคยรักกันสามารถลงมือฆ่ากันได้ ส่วนผู้หญิงที่มีความโกรธแค้น มักเลือกลงไม้ลงมือทำร้ายบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นผู้หญิงที่มีสรีระใกล้เคียงกับตน มากกว่าที่จะเลือกทำร้ายชายคนรัก"

การที่คนรักมีแนวโน้มโกรธแค้นถึงขั้นลงมือฆ่าหากต้องเลิกรา จริงๆ มีสัญญาณหรือสิ่งบอกเหตุให้เห็นมาก่อน ซึ่งคนใกล้ตัวสามารถสังเกตได้ เช่น ขณะที่ยังคบหากัน คนรักมักมีอารมณ์รุนแรงเมื่อทะเลาะวิวาท ใช้คำพูดข่มขู่ พูดจาหยาบคาย หรือมีการทำร้ายร่างกายกันในบางครั้ง ถ้าเป็นเช่นนี้ เมื่อความรักเดินมาถึงจุดที่ไปต่อไม่ได้ และจบกันไม่ดี คนที่เคยรักมากก็อาจเปลี่ยนเป็นคนที่แค้นมาก และมีแนวโน้มที่จะลงมือฆ่าคนรัก
“ก่อนที่เขาจะมาทำร้ายเรา บางทีมีสัญญาณบ่งบอกมาก่อนแล้ว เพราะความรุนแรงมีตั้งแต่ความคิด วาจา และลงมือกระทำ เช่น ดูแล้วโกรธมาก โมโหมาก พูดข่มขู่ อาฆาตพยาบาทมาก ถ้าเราเจอแฟนที่ดูแล้วมีอารมณ์รุนแรง มีแนวโน้มจะทำร้ายร่างกาย ให้ตั้งหลักตั้งสติดีๆ แล้วถอยมาก้าวหนึ่งก่อน และพูดคุยกับเขาในเวลาที่เขาอารมณ์ดีๆ ว่า...ที่รัก ฉันรักคุณ แต่บางครั้งเวลาที่คุณมีอารมณ์รุนแรง ฉันรู้สึกไม่สบายใจ...ลองพูดให้เขาปรับเปลี่ยนตัวเองดู ถ้าเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ก็ชวนเขามาปรึกษาจิตแพทย์ เพราะบางครั้งเป็นปัญหาด้านอารมณ์ บุคลิกภาพ เราไม่สามารถบำบัดคนรักของเราได้เอง ต้องใช้ตัวช่วยอย่างหมอจิตวิทยา”
*** ทางทีมข่าวหยิบยกมาเพียง 5 คดีดังที่เกิดขึ้นในรอบครึ่งเดือนมกราคม 2562 ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ความรักมันทำให้คนอาฆาตแค้นกันถึงขั้นหมายเอาชีวิต นี่ยังไม่รวมคดีที่อื่นๆ ที่โยงไปสู่ปมชู้สาว เช่น ฆ่ากิ๊กของคู่รัก ฆ่าตัวตายหนีความรัก ฯลฯ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นเพราะความไม่ยับยั้งชั่งใจของคน "รักเกินรัก" รักจนอยากจะเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเาแต่เพียงผู้เดียว และรักจนเปลี่ยนเป็นความแค้น ท้ายที่สุดแล้วต้องจบลงด้วยโศกนาฏกรรม ที่ทำให้คนรอบข้างจำไปจนวันตาย