อดีตนายพลมากคุณภาพคนหนึ่งของวงการตำรวจด้วยความสามารถที่โดดเด่น มีวิสัยทัศน์กว้างไกล แถมสุขุมนุ่มลึก ทำให้ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศ เคยถูกยกให้เป็น คู่แคนดิเดต ตำแหน่ง “ผู้นำ” ถัดจาก พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์แต่สุดท้ายที่ประชุม ก.ตร.เลือก พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ขึ้นเป็น ผบ.ตร.แทนเจ้าตัวถึงเกษียณอายุราชการในตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ทว่ายังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็น ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ)เส้นทางชีวิตของ พล.ต.อ.ชาญชิต เป็นลูกชายนายทหารยศ พ.อ. ตัดสินใจหนีคำทัดทานจากผู้พ่อที่ไม่อยากให้รับราชการตำรวจมาสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ทำคะแนนเป็นอันดับ 1 ของรุ่น 19เริ่มต้นตำแหน่งรอง สว.สส.สน.บางซื่อ กระทั่ง “วันเสียงปืนแตก” ถูกเรียกตัวลงสนามรบผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เป็น ผบ.หมวด สภ.คำชะอี จ.นครพนม นาน 2 ปีพล.ต.อ.มนต์ชัย พันธุ์คงชื่น ขณะนั้นเป็น ผบช.น. เชื่อในฝีไม้ลายมือลูกศิษย์เลยดึงกลับมาทำงานในนครบาล อยู่โรงพักชนะสงคราม และบางซื่อ ที่กำลังมีคดีอาชญากรรมสูงสุดในเมืองหลวงสมัยนั้นร่วมสืบสวนสอบสวนล่า เสือปุ้ย-บุญมี เชี่ยวบางยาง พาพวกปล้นร้านทอง และยิงเจ้าทรัพย์ตายหลายท้องที่ ส่งผลให้ จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจตามมาตรา 17 รัฐธรรมนูญ สั่งประหารชีวิตต่อมาเป็นนายเวร พล.ต.อ.สุรพล จุลละพราหมณ์ อ.ตร. ก่อนขึ้น ผกก.สำนักงานเลขานุการ กรมตำรวจ และเติบโตอยู่สายบุ๋นในงานกำลังพลจนเป็น ผบก.สกพ. หลังจากนั้นเป็น ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายอำนวยการ กรมตำรวจ รอง ผบช.สนผ. ขึ้น ผบช.ก.ตร. แล้วคืนงานถนัดเป็น ผบช.สกพ. ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรอง ผบ.ตร.พล.ต.อ.ชาญชิตบอกเสมอว่า รู้สึกภูมิใจในความเป็นตำรวจ ขอเป็นตำรวจอาชีพที่มีเกียรติ มีความซื่อสัตย์ พยายามลด ละ เลิก ในสิ่งที่ไม่ชอบไม่ควร ต้องภูมิใจที่ประชาชนไว้วางใจเรา ให้เงินเดือนเรามาทำหน้าที่นี้ อย่าไปคิดถึงค่าตอบแทน การจากไปของ พล.ต.อ.ชาญชิต เพียรเลิศนับเป็นความสูญเสียปูชนียบุคคลอันทรงค่าอีกครั้ง.สหบาท