รัฐบาลปัด! สั่ง9ข้อห้าม

ทุกหน่วยเตรียมพร้อม รับคลื่นมหาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงเทศ-กาลสงกรานต์สัปดาห์นี้ รมว.คมนาคม ลุยตรวจหมอชิต ย้ำมาตรการตรวจสอบความปลอดภัยทั้งรถโดยสาร-คนขับ ขณะที่ประชาชนบางส่วนเลือกออกเดินทางก่อน ส่งผลการจราจรบนถนนสายหลักขึ้นเหนือ-อีสาน เริ่มหนาแน่นเป็นบางช่วง ด้านกรมอุทยานแห่ง ชาติทำเก๋ ปรับปรุงห้องน้ำ-สุขาในอุทยานฯทั่วประเทศ เน้นสะอาด ถูกสุขอนามัย ให้ใช้บริการอย่างมีความสุข ที่สำคัญคือไม่คิดค่าบริการ ขณะที่ กทม.-ททท.จัดงานใหญ่ ขบวนแห่ “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2560”

แม้ยังไม่ถึงเทศกาลสงกรานต์ แต่ประชาชนทั่วประเทศเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวกันแล้ว โดยเมื่อวันที่ 8 เม.ย. ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (หมอชิต 2) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บริษัท ขนส่งฯ จำกัด (บขส.) และเจ้าหน้าที่กรมการขนส่ง พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตรวจสภาพความปลอดภัยของรถตู้โดยสาร และรถโดยสาร สภาพคนขับรถที่ปลอดการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ ซึ่งตลอดวันมีประชาชนหอบข้าวของเครื่องใช้เข้ามารอขึ้นรถโดยสารออกต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าตำรวจ สน.บางซื่อ ได้เข้ามาคอยดูแลความปลอดภัยตามจุดต่างๆ ส่วนเจ้าหน้าที่ขนส่งกรุงเทพฯ คอยอำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์เสียงตามสายให้ประชาชนระวังพวกกลุ่มมิจฉาชีพที่นำตั๋วผีมาหลอกขาย และให้ระวังบุตรหลานและสัมภาระของมีค่าต่างๆด้วย

ส่วนที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ประชาชนจำนวนมากเริ่มเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ยุทธนา นวลคล้ำ ผกก.ฝอ.บก.รฟ พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ รอง ผกก.กก.ปพ.บก.ป. นายเฉลียว ไวยกัญหา นายสถานีบริการ พร้อมกำลังตำรวจคอมมานโด ตำรวจรถไฟ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่า 30 นาย ร่วมตรวจความเรียบร้อย ตามโครงการโปลิศอินเทรน ประจำปี 2560 โดยเดินตรวจตราความเรียบร้อย และแจกแผ่นพับประชาสัมพันธ์ ได้รับความสนใจจากผู้โดยสารทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ พ.ต.ท.ปิยรัชเปิดเผยว่า พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. จัดทำโครงการนี้ มีตำรวจคอมมานโดและตำรวจรถไฟ ร่วมเป็นปีที่ 4 หลังเกิดคดีน้องแก้มถูกฆ่าข่มขืนบนรถไฟก่อนโยนร่างออกจากขบวนรถไฟ โดยตำรวจคอมมานโดและตำรวจรถไฟเดินตรวจตราความเรียบร้อยบนรถไฟ ตั้งแต่สถานีหัวลำโพงถึงสถานีปลายทางตลอดเส้นทาง เพื่อสอดส่องความเรียบร้อย พร้อมแจกแผ่นพับให้ประชาชนปฏิบัติตัวถูกต้อง เช่น ไม่ยื่นแขนขาออกจากตัวรถ และเก็บทรัพย์สินมีค่าให้ดี เพื่อให้ประชาชน นักท่องเที่ยว เกิดความเชื่อมั่นและรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในช่วงสงกรานต์นี้ ซึ่งโครงการมีตลอดทั้งปี

...

สำหรับบรรยากาศในส่วนภูมิภาค ตามสถานี ขนส่ง สถานีรถไฟ เริ่มมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ามาหาซื้อตั๋วโดยสาร และรอเดินทางตลอดวัน โดยที่ จ.สงขลา เส้นทางระหว่างประเทศสิงคโปร์-มาเลเซีย-หาดใหญ่ รถบัสโดยสารระหว่างประเทศมีผู้โดยสารเต็มทุกเที่ยว เนื่องจากคนไทยที่ไปทำงานประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียทยอยเดินทางกลับบ้าน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยในขั้นสูงสุด มีการตั้งจุดตรวจสกัดและวางกำลังดูแลนักท่องเที่ยวตามย่านการค้าในเมืองหาดใหญ่ หลังจากเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา ขณะที่โรงแรมที่พักในเมืองหาดใหญ่ถูกจองเต็มหมดคาดว่าจะมีเงินสะพัด 200 ล้านบาท ขณะที่ จ.สตูล นายวินัย หมื่นสุวรรณ ผอ.สนง.เจ้าท่าภูมิภาคสตูล สั่งให้ผู้ควบคุมเรือ เจ้าของเรือต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะถอนใบอนุญาต เช่น ก่อนออกเรือ ผู้ควบคุมเรือต้องให้ผู้โดยสารสวมชูชีพทุกคน ฯลฯ

ด้านถนนมิตรภาพ เส้นทางมุ่งสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่าหลายจุดมีปริมาณรถมาก และเคลื่อนตัวได้ช้า โดยที่ จ.นครราชสีมา ช่วงทางขึ้นเขาพื้นที่ ต.กลางดง อ.ปากช่อง และทางขึ้นเขาริมเขื่อนลำตะคอง ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว ช่วงบายพาสเลี่ยงเมือง ตั้งแต่หลัก กม.ที่ 13-17 บ้านจอหอ-บ้านหนองกระดังงา-แยกบ้านโพธิ์ ทางต่างระดับข้ามทางรถไฟ ต.จอหอ ปริมาณรถยนต์สะสมมากขึ้น และติดขัดยาว 5 กม. ส่วนการจัดเตรียมรถโดยสารรองรับประชาชนที่จะเดินทางในช่วง 12-13 เม.ย.นั้น พบว่าเจ้าหน้าที่ขนส่งหลายจังหวัดจัดเพิ่มรถโดยสาร อาทิ จ.อุบลราชธานี มีการเพิ่มเที่ยวรถสายสั้นระหว่างอำเภอ จังหวัดและภูมิภาค จากปกติวันละกว่า 100 เที่ยว เพิ่มขึ้นเป็น 150 เที่ยว พร้อมเข้มงวดอุปกรณ์ประจำรถและตรวจสอบสภาพรถก่อนเดินทาง โดยนักศึกษาโครงการฟิกซ์อิทเซ็นเตอร์ (Fix It Center) แผนกช่างยนต์จากวิทยาลัยเทคนิคและวิทยาลัยการอาชีพ ส่วน จ.นครพนม เพิ่มเที่ยวรถเส้นทางธาตุพนม-กรุงเทพฯ จากปกติวันละประมาณ 10 เที่ยว เป็น 30 เที่ยว และเพิ่มมาตรการเข้มตรวจสอบสภาพคนขับรถ ต้องผ่านการตรวจสภาพร่างกาย ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ก่อนเดินทาง

ส่วนที่ จ.กาฬสินธุ์ นายชีพ น้อมเศียร ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ นายกฤติกร ชาวอ่างทอง นักวิชาการขนส่งชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการขนส่งฯ นำชุดตรวจการเฉพาะกิจตรวจความพร้อมของตัวรถและพนักงานขับรถโดยสารไม่ประจำทาง (30) นอกจากนี้ ยังมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์พนักงานขับรถทุกราย พร้อมกำชับให้ผู้โดยสารและพนักงานขับรถต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่งตลอดเวลาขณะโดยสาร ส่วนที่ จ.สระแก้ว นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผวจ.สระแก้ว ได้กำชับให้ตำรวจ จนท.อาสากู้ภัย อปพร.พร้อมผู้นำท้องถิ่น มีความรู้ ความเข้าใจในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินและอุบัติเหตุได้อย่างมืออาชีพ

ส่วนเส้นทางขึ้นเหนือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดวัน บนถนนพหลโยธิน ขาขึ้น เข้าสู่ จ.นครสวรรค์ ประชาชนทยอยเดินทางล่วงหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจร ส่งผลให้การจราจรในตัวเมืองนครสวรรค์ ทั้งพหลโยธินหมายเลข 1 ในตัวเมือง ตั้งแต่สี่แยกค่ายจิระประวัติบริเวณเชิงสะพานเดชาติวงศ์ไปจนถึงสามแยกอุทยานสวรรค์ และถนนทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก ปริมาณรถเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงขั้นจราจรติดขัดสาหัส

ขณะที่ถนนสายเอเชีย บริเวณช่วงหน้าวัดกุฎีทอง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ประชาชนอาศัยช่วงวันหยุดยาวเดินทางกลับภูมิลำเนาบ้างแล้ว ทั้งนี้ นายวิลาส เมืองทอง ผอ.แขวงทางหลวงจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ด้วยการปิดจุดกลับรถ 9 จุดบนถนนสายเอเชีย (ทางหลวงหมายเลข 32) ตั้งแต่วันที่ 10-19 เม.ย.ดังนี้ จุดที่ 1 แยกวัดไชโย กม.ที่ 67 จุดที่ 2 จุดกลับหน้าสวนอุตสาหกรรมพรหมบุรี กม.ที่ 73 จุดที่ 3 จุดกลับทางแยกเข้า อ.พรหมบุรี กม.ที่ 74 จุดที่ 4 จุดกลับบ้านวัดคู กม.75 จุดที่ 5 จุดกลับด้านเหนือ สนง.หมวดทางหลวงพรหมบุรี ทางเข้าวัดอัมพวัน กม.ที่ 78 จุดที่ 6 จุดกลับหน้าวิทยาลัยเกษตรสิงห์บุรี กม.ที่ 82 จุดที่ 7 จุดกลับหน้าปั๊มน้ำมันหงษ์ เชาวลิต กม.ที่ 86 จุดที่ 8 จุดกลับหน้าศูนย์เชฟโรเลต กม.ที่ 88 และจุดที่ 9 จุดกลับรถทางหลวงอินทร์บุรี หลัก กม.ที่ 106

...

ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ริมถนนสายพหลโยธิน กม.58 ฝั่งขาออก ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม พร้อมด้วยปลัดกระทรวงและคณะร่วมกิจกรรม “สานสัมพันธ์สัญญาใจ” เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยบนถนน มีนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายก อบจ. ขนส่งจังหวัด พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล ผกก.1 บก.ทล. พ.ต.อ.สามารถ แก้วมณี ผกก.สภ.วังน้อย และหัวหน้าส่วนราชการเข้าร่วมกิจกรรม โดยให้ผู้เดินทางเขียนกระดาษนำติดตัวไประหว่างการเดินทาง ทั้งนี้ นายอาคมกล่าวว่า ได้จัดกิจกรรมพิเศษระหว่างกระทรวงคมนาคมกับรัฐบาลญี่ปุ่น โดยให้พนักงานที่ทำงานในบริษัทญี่ปุ่น 4,500 แห่ง พนักงานกว่า 800,000 คน ร่วมกันเขียนข้อความ “จะกลับมาอย่างปลอดภัย ด้วยการขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัดนิรภัย” สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยก่อนการเดินทาง โดยกำหนดรณรงค์ 3 ช่วง ระหว่างวันที่ 4-24 เม.ย.นี้

วันเดียวกัน นายทรงธรรม สุขสว่าง ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ปรับปรุงห้องน้ำ-สุขาที่สะอาดถูกสุขอนามัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในอุทยานฯได้ใช้สุขาที่สะอาด ปลอดภัย สุขใจ และห่างไกลโรค เพื่อสุขอนามัยของนักท่องเที่ยว ได้ใช้ บริการห้องน้ำ ห้องส้วมอย่างมีความสุข โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลห้องน้ำโดยเฉพาะที่ละ 1 คน ทำความสะอาดทุกๆครึ่งชั่วโมง และให้แต่ละแห่งจัดสวนหย่อมหน้าห้องน้ำ-ห้องส้วมให้ดูสวยงาม สะอาดตา มีกลิ่นหอม ส่วนส้วมที่ใช้มีทั้งแบบนั่งยองและแบบชักโครก ขึ้นกับความเหมาะสมของพื้นที่ เช่น อุทยานทางทะเลบางแห่งมีน้ำใช้อย่างจำกัด ก็ยังเป็นการตักน้ำราด หรืออุทยานที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเข้าไปเที่ยวจำนวนมาก ก็จะมีห้องส้วมแบบนั่งยอง มากกว่าส้วมแบบชักโครก แต่ทุกแบบต้องเน้นความสะอาดและสวยงามเป็นหลัก ห้องส้วมถือเป็นบริการขั้นพื้นฐานภายในอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ ที่กรมอุทยานฯ จะทำให้ดีที่สุด เป็นบริการที่ไม่คิด
ค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

...

ด้าน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อออนไลน์เสนอข่าวสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้ง 9 ข้อห้ามเด็ดขาดในวันสงกรานต์ เช่น ห้ามแต่งกายโป๊รัดรูป เน้นแต่งผ้าไทย ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่จัดงาน ห้ามเล่นน้ำที่มีสิ่งเจือปน ห้ามใช้ปืนฉีดน้ำที่มีแรงดันสูง ฯลฯ ฝ่าฝืนจะมีโทษหนัก ว่า ยืนยันไม่ได้ออกระเบียบดังกล่าว แต่ละข้อเป็นแนวทางที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยขอความร่วมมือให้ร่วมกันรักษาประเพณีไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีก่อนๆ แต่มีความพยายามของคนบางกลุ่มที่ต้องการลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ด้วยการผนวกเรื่องการห้ามนั่งท้ายรถกระบะ และการเล่นน้ำบนถนน หรือสาดน้ำข้างทางเข้าไปด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่ารัฐบาลได้ออกมาตรการเข้มงวดซ้ำเติมประชาชน ขอความร่วมมือไม่แชร์ส่งต่อข่าวที่บิดเบือนนี้ เพราะอาจเป็นชนวนนำสู่ความขัดแย้งระหว่างผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ต่อมาในช่วงค่ำที่บริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม กรุงเทพมหานคร และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปีพุทธศักราช 2560 “เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ : Amazing Songkran 2017 มหัศจรรย์วันสงกรานต์” โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการ ททท. นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

ในงานมีการเปิดตัวด้วยขบวนพาเหรดอย่างสวยงามตระการตา ครั้งแรกบนท้องถนนสุขุมวิท บนเส้นทางกว่า 5 กิโลเมตร ความมหัศจรรย์ของขบวนเริ่มต้นจากท้องฟ้าจำลอง และเคลื่อนมาแสดงโชว์หน้าศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม จากนั้นขบวนผ่านแยกอโศกมนตรี มุ่งตรงมาจนถึงแยกราชประสงค์ สิ้นสุดที่แยกปทุมวัน ทั้งนี้ ขบวนพาเหรดแบ่งออกเป็น 6 ขบวน 6 ความมหัศจรรย์ โดยไฮไลต์อยู่ที่ขบวนแรก มหัศจรรย์วันสงกรานต์ มีน้ำตาล-ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ประจำปี 2016 เป็นผู้อัญเชิญตราสัญลักษณ์งานสงกรานต์ พร้อมนางระบำ ชุดราชพฤกษ์ และขบวนที่สอง เปิดตัวนางสงกรานต์ประจำปี 2560 ซึ่งมีคิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ นางเอกชื่อดัง รับหน้าที่เป็นนางกิริณีเทวี นางสงกรานต์ประจำวันพฤหัสบดี พร้อมกับการแสดงชุด “มหัศจรรย์วันสงกรานต์” เป็นต้น ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ต่างนำกล้องจากโทรศัพท์มือถือมาถ่ายเก็บภาพความสนุกสนาน บ้างก็เปิดวีดิโอรายงานผ่านเครือข่ายเฟซบุ๊กให้ทั่วโลกได้รับรู้กิจกรรมเล่นน้ำในไทยได้เริ่มต้นแล้ว

...

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในขบวนที่ 6 ที่เป็นขบวนสุดท้าย มีการจัดแสดงคาราวานรถบริการสาธารณะของแต่ละท้องถิ่นจากทั่วทุกภูมิภาค เช่น รถตุ๊กตุ๊ก รถสามล้อปั่น รถสองแถว รถทัวร์ เป็นต้น ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าตามที่รัฐบาลได้ออกมาตรการทางกฎหมายให้ผู้ขับขี่รถยนต์ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย พบว่าไม่มีใครคาดเข็มนิรภัยแต่อย่างใด โดยทุกคันขับด้วยความเร็วต่ำเพราะถือว่าอยู่ในขบวนพาเหรด

ด้าน พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความชื่นชมหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องในการจัดงานทั้ง ททท. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ร่วมกันจัดงานเพื่อสืบสานวัฒนธรรมที่งดงาม ถือเป็นการแสดงออกเพื่อให้ต่างประเทศ รู้จักประเทศไทย ส่งผลดีทางด้านจิตวิทยาต่อการท่องเที่ยว และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ